ผู้เขียน หัวข้อ: เจาะเบื้องหลัง ราคาตั๋วหนังพุ่ง-ป็อปคอร์นแพง อันดับ 3 ของโลก!!  (อ่าน 482 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

rocket man

  • บุคคลทั่วไป
เจาะเบื้องหลัง ราคาตั๋วหนังพุ่ง-ป็อปคอร์นแพง อันดับ 3 ของโลก!!

ข้อมูลจาก   http://board.postjung.com/674890.html

หลายคนคงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมบันเทิงชนิดนี้ เหตุใดจึงปั่นราคากันเป็นว่าเล่นภายในเว...ลาไม่กี่ปี ความข้องใจนี้ มีคำอธิบาย...

โรงหรู ต้นทุนแพง ต้องถอนคืน

ป้อง-นภสร แย้มอุทัย ผู้จัดการโรงภาพยนตร์เฮ้าส์ อาร์ซีเอ (House RCA) พร้อมเปลือยเบื้องหลังอุตสาหกรรมนี้อย่างหมดเปลือก

“มันต้องเริ่มจากว่า ต้นทุนของแต่ละโรงไม่เท่ากัน เช่น ผมมีค่าเช่าที่ราคาเท่านี้ แต่เครือเมเจอร์หรือเอสเอฟ เขาอาจจะมีค่าเช่าที่ที่แพงกว่า หรือสกาล่า ลิโด้ ก็จะมีค่าเช่าที่ที่แพงกว่าผมเหมือนกัน เพราะเขาอยู่ใจกลางเมือง พอโรงหนังแต่ละที่มีต้นทุนไม่เท่ากัน มันเลยทำให้แต่ละแห่งคิดถึงเรื่อง “จุดคุ้มทุน” และ “กำไร” มาเป็นตัวกำหนดราคาตั๋วหนังต่างกันครับ อย่างโรงหนังบางโรงก็จะรวมค่าตกแต่งเข้าไปด้วย เขาต้องหารายได้จากส่วนอื่นเข้ามาเสริมนอกจากการขายตั๋วเพื่อให้คุ้มทุน อย่างที่รู้ๆ กันก็เป็นโฆษณาในโรงหนัง”

โรงภาพยนตร์บางแห่งที่มีพื้นที่ของตัวเอง จะอาศัยวิธีเปิดให้ร้านค้ามาเช่าที่ ยกตัวอย่าง ลิโด้ มีพื้นที่ด้านล่างโรงภาพยนตร์ให้เช่าขายเสื้อผ้า ส่วน เฮ้าส์ฯ เอง เลือกเปิดพื้นที่ให้เข้ามาจัดอีเวนต์ ที่ผ่านมาก็มีรายการ The Voice และ Academy Fantasia (AF) เข้ามาถ่ายทำรายการอยู่เหมือนกัน

“เราไม่มีโฆษณา อยู่ด้วยค่าตั๋วอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าไม่นับเงินจากการแบ่งพื้นที่จัดอีเวนต์ ถามว่าขายเฉพาะตั๋วอย่างเดียว ทำไมเราถึงขายถูกได้ เพราะเรามีต้นทุนที่มันไม่ได้สูงมากไงครับ ตอนนี้ที่เฮ้าส์ฯ มีพนักงานทั้งหมด 4 คน มีผมเป็นผู้จัดการ มีน้องขายตั๋ว 1 คน แม่บ้าน 1 คน และคนฉายหนังอีก 1 คน ซึ่งทำหน้าที่ฉีกตั๋วด้วย ส่วนต้นทุนอย่างอื่นของเราก็มีแค่ค่าเช่าที่ ค่าเงินเดือนพนักงาน แล้วก็ค่าน้ำค่าไฟ

เราไม่ต้องตกแต่งโรงให้สวยเหมือนกับเครือใหญ่ๆ เขา หรือเทียบกับโรงหนังในต่างประเทศ โรงบ้านเขาไม่จำเป็นต้องหรูหราเลยนะ คนก็เข้าไปดูกันปกติ แต่บ้านเราเน้นสวย เน้นหะรูหะราไว้ก่อน เลยทำให้ต้นทุนมันแพง พอแพง ผู้ประกอบการก็ต้องคิดหาวิธีคืนทุน ทำให้เกิดกำไร เลยเป็นที่มาที่ทำให้ค่าตั๋วแพงเอาๆ อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ”



ที่มาของ “ราคาแพงโคตร”

ย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ตั้งแต่สมัยก่อตั้งโรงภาพยนตร์เฮ้าส์ อาร์ซีเอ ใหม่ๆ ราคาตั๋วทุกโรงภาพยนตร์ ทั้งเล็ก-ใหญ่-ในกระแส-อินดี้ อยู่ในเรตเท่ากันหมดคือ 100 บาท แต่ตอนนี้ เครือใหญ่กลับปั่นราคาขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่ต่ำกว่า 180-220 บาท ถามว่ามันเป็นเพราะอะไร? ผู้จัดการโรงหนังทางเลือกจึงเริ่มอธิบาย

“พอระบบหนังมันเริ่มเปลี่ยนจากฟิล์มเป็นดิจิตอล โดยเฉพาะยุคหลังๆ ที่ 3D มีเยอะมาก โรงหนังเลยตัดสินใจซื้อเครื่องฉายดิจิตอลเพิ่ม พอซื้อเพิ่ม เขาก็ต้องหาทางให้คุ้มทุน ก็เลยตกลงกันว่าต้องขึ้นราคาค่าตั๋วหนัง จาก 100 เป็น 120 เป็น 140 ขึ้นมาทีละ 20 บาท และขึ้นมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าพุ่งขึ้นไปเท่าไหร่ แต่ล่าสุด ผมไปดูที่โคราช ขนาดต่างจังหวัดราคายัง 160 เลยครับ คิดดูแล้วกัน ในต่างประเทศเขาก็ราคาขึ้นเหมือนกัน แต่เขาขึ้นสมเหตุสมผลตามราคาค่าครองชีพ แต่ของเราไม่ใช่แบบนั้น”

เมื่อเห็นเรื่องกำไรเป็นสำคัญ จึงเป็นที่มาของการสรรหาเหตุผลที่ไม่สู้จะสมเหตุสมผลในการขึ้นราคามาเป็นข้อต่อรองเต็มไปหมด เช่น “ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายด้วยระบบดิจิตอล” ราคาจึงแพงกว่าฉายด้วยฟิล์ม 20 บาท ซึ่งถือเป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เพราะไม่ว่าจะเลือกฉายแบบไหน ทางโรงก็ใช้ต้นทุนค่าไฟเท่ากันอยู่ดี และเหตุผลคลาสสิคอีกประการคืออ้างว่า “หนังยาวแพงกว่าหนังสั้น” บอกว่าหนัง 3 ชั่วโมง ต้องตีตั๋วแพงกว่าหนัง 2 ชั่วโมง นี่ก็ถือว่าอ้างเหตุผลไปเรื่อยอีกเช่นกัน

“ถามว่าแล้วทำไมตอนฉายหนังสั้น ชั่วโมงนิดๆ ไม่ลดราคาค่าตั๋วบ้างล่ะ มันเป็นแค่ข้ออ้างจะขึ้นราคาครับผมว่า จริงๆ แล้วมาจากเหตุผลที่ว่า พอหนังมันยาว 3 ชั่วโมง มันจะทำให้รอบของหนังมีน้อยลง เพราะถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมง เริ่มฉายเที่ยง รอบสุดท้าย 4 ทุ่ม เราก็จะทำรอบได้ 6 รอบ แต่ถ้าหนังยาว 3 ชั่วโมง จะทำให้เหลือรอบแค่ 4 รอบต่อวัน ทำให้รายได้หายไป ทางโรงหนังก็เลยเอาส่วนที่ตัวเองเสียผลประโยชน์ส่วนนี้แหละครับ มาคิดเป็นค่าตั๋วหนัง ให้คนดูอย่างเรารับผิดชอบแทน”

ทุกวันนี้โรงภาพยนตร์เฮ้าส์ฯ และสกาล่า ก็เพิ่งติดเครื่องฉายระบบดิจิตอลเข้าไปเช่นกัน แต่ก็ไม่คิดจะขอขึ้นราคาค่าตั๋วหนัง ด้วยเหตุผลที่ว่า “เพราะเราไม่ได้มองว่ามันคือต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาไงครับ แต่มองว่ามันคือราคาที่เราต้องรับผิดชอบ เดี๋ยวต่อไปหนังจะเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอลหมดแล้ว ถ้าไม่ซื้อก็จะฉายไม่ได้ และไม่มีความจำเป็นต้องผลักภาระให้คนดู”



กระแสสั้นๆ อย่าหวังพึ่งระบบ

ส่วนเรื่องการโฆษณาในโรงภาพยนตร์อย่างบ้าระห่ำนั้น ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว การยัดเยียดหนังโฆษณาในอัตราเกินพอดีให้แก่ผู้ตีตั๋วเข้าไปดูหนัง ก็ทำเอาหลายคนเลือดขึ้นหน้าจนต้องลุกขึ้นมาประท้วงอย่างดุเดือด ถึงขั้นจัดตั้ง “กลุ่มผู้ต่อต้านการโฆษณาในโรงภาพยนตร์อย่างบ้าระห่ำ” จนทำให้ทาง สคบ. ต้องลงมาควบคุมดูแลให้ลงตัวกันไปได้ช่วงหนึ่ง

หากทุกโรงทำตามที่ สคบ. เคยออกหนังสือขอความร่วมมือ ระบุเวลาไว้หน้าโรงชัดเจนว่า จะฉายหนังโฆษณานานเท่าใดก่อนฉายหนังตัวจริง ก็จะไม่เป็นปัญหา แต่ทุกวันนี้เริ่มจะกลับมาเป็นปัญหาอีกครั้ง เนื่องจากข้อตกลงที่เคยปฏิบัติกันชักจะหละหลวมเสียแล้ว หากต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ป้อง-นภสร แนะนำว่าให้ลองโมเดลแบบในต่างประเทศดู

“เท่าที่ผมเห็นมา หลายที่เขาจะไม่ใช้วิธีจองที่นั่งแบบบ้านเราด้วยนะ ทั้งโรงหนังทางเลือก ทั้งโรงหนังใหญ่ๆ แบบ Multiplex เลย แต่เขาจะใช้วิธีใครมาก่อนได้ก่อน ถ้าอยากได้ที่นั่งดี คุณต้องเดินเข้าไปก่อน ซึ่งการไปนั่งดูก่อนก็คือการบังคับให้ดูโฆษณาไปทางอ้อมนั่นเอง แต่ถ้าคุณไม่อยากดูโฆษณา คุณก็ไม่ต้องเข้าไปก่อนครับ แต่ก็อาจจะไม่ได้ที่นั่งดีเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าบ้านเราครับ บอกว่าหนังฉาย 12.00 น. แต่กว่าจะฉายจริงก็ปาเข้าไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง ผมว่าโรงหนังเครือใหญ่ๆ ในบ้านเรา แค่ขายโฆษณาอย่างเดียวก็อยู่ได้แล้วครับ คุ้มทุนแล้ว”

ตกลงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบฟิล์มหรือดิจิตอล ส่วนแบ่งระหว่างโรงหนังกับค่ายหนังที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจ่าย ถ้าวัดจากโรงเฮ้าส์ฯ จะได้ส่วนแบ่งเท่ากันคือ 50:50 สมมติว่าตั๋วขายได้ 1 ล้านบาท โรงหนังจะได้ 5 แสน ค่ายหนังก็ได้ 5 แสน ส่วนโรงภาพยนตร์ในเครืออื่น ผู้จัดการโรงอย่างนภสรเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน น่าจะอยู่ที่ 60:40 หรือ 70:30 แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ในฐานะคนรักหนังอีกหนึ่งคน เขามองว่า


“ค่าตั๋วควรจะอยู่ที่ 120-140 บาท ไม่เกินนี้ครับ แต่ของอะไรที่มันขึ้นราคาไปซะขนาดนั้นแล้ว ไม่มีทางจะลงมาหรอก จะให้ สคบ. มาจัดการก็ยากครับ เพราะการฉายหนังมันไม่ใช่สิ่งของที่คนจำเป็นต้องซื้อ”

และคงควบคุมอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ “ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติผมอยากประมูลงานสักงานหนึ่งของรัฐวิสาหกิจ ถ้าผมจะประมูลให้ได้ ผมต้องทำยังไงครับในประเทศนี้ ผมก็แค่ล็อบบี้ จ่ายเงินใต้โต๊ะก็จบแล้ว เราจะหวังพึ่งคนอื่นให้มานั่งควบคุม จัดการ คุ้มครองสิทธิให้เรา มันอาจจะได้ครับ แต่คงจะยากหน่อย


แต่ถ้าคนไทยลองชวนกันไม่เดินเข้าโรงหนังพร้อมกันดูซิ สัก 1 สัปดาห์ คุณเชื่อไหมว่าเดี๋ยวผลกระทบมันจะส่งไปถึงโรงหนังเอง แต่ทุกวันนี้ มันยังไม่เกิดความพร้อมใจกันไงครับ คุณบ่น คุณด่า ว่าค่าตั๋วหนังแพง บ่นด่าว่าโฆษณาเยอะ เสร็จแล้วคุณก็เดินเข้าโรงหนังกัน ผมเห็นมาจนรู้แล้วครับว่าเป็นนิสัยของคนไทย ฉันจะบ่น บ่นเสร็จแล้วก็ทำเหมือนเดิม”

ส่วนเรื่องการตรวจสอบนั้น ถ้า สคบ. อยากจำกัดราคาจริงๆ เจ้าตัวแนะนำให้เริ่มจากบังคับราคาป็อปคอร์นกับน้ำดื่มก่อน “เพราะเราเห็นๆ กันอยู่ว่าต้นทุนมีเท่าไหร่ ซื้อป็อปคอร์นมากระสอบหนึ่ง ควรจะได้กำไรเท่าไหร่ ไม่ควรได้กำไรเยอะเท่านี้นะ แต่พอเป็นเรื่องหนังปุ๊บ มันก็จะตรวจสอบยากแล้ว สุดท้ายก็จะถูกรวมไปกับค่าความหรู ค่าต้นทุนสารพัด แล้วเรื่องก็จะเงียบไป”

สคบ. ย้ำ โปรดติดตามตอนต่อไป...



“ปัญหาคือ ตั๋วหนังยังไม่ได้ระบุราคาควบคุมไว้ใน พ.ร.บ.สินค้าและบริการ การควบคุมจึงน่าจะลำบาก ต้องดูตามภาวะกลไกการตลาด ต้องคุยกันว่าเบื้องต้นแล้วเหมาะสมอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ คำชี้แจงของทางผู้ประกอบการอาจจะบอกว่า คุณก็ไปดูหนังวันอื่นสิ วันนี้-รอบนี้ มันแพง อันนี้มันไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไปโยนความรับผิดชอบให้ผู้บริโภคนะ ไม่ใช่ว่าวันที่ถูกมาก ราคาตั๋วก็ลดลงฮวบเลย แล้วพอแพง ก็แพงสุดกู่ มันก็ไม่เป็นธรรม ไหนลองมาดูซิว่าตรงกลางมันอยู่ตรงไหน ผมคิดว่าเราอยู่ในสังคมเดียวกันก็ควรจะอะลุ่มอล่วยกัน ท่านผู้ประกอบการอยู่ไม่ได้นะครับถ้าผู้บริโภคเขาแอนตี้ ไม่ไปดูเนี่ย”


ขั้นตอนการชี้แจง-ขุดคุ้ย “ราคามาตรฐานของอัตราค่าบริการภายในโรงภาพยนตร์” จะเกิดขึ้นภายในวันที่ 15 พ.ค. นี้ เลขาธิการ สคบ. ยืนยันว่าได้ส่งหนังสือเชิญผู้ประกอบการ เครือข่ายโรงหนัง ให้ช่วยเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงร่วมกันแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“ส่วนเรื่องจะปรับค่าราคาค่าตั๋วหรือไม่ อย่างไร ก็ต้องติดตามตอนต่อไปกันดู”... ดูว่าตอนต่อไปประเทศไทยจะยังครองอันดับ 3 เอาไว้ได้ หรือจะสร้างสถิติใหม่ในอันดับที่สูงขึ้นหรือต่ำลง




rocket man

  • บุคคลทั่วไป
เอาไว้อ่านเป็นข้อมูลนะครับ......

พร้อมใจกันไม่เดินเข้าโรงหนังกันมั้ยสักเดือนจะเกิดอะไรขึ้น

ออฟไลน์ bright_ลูกพระอาทิตย์

  • คนร่วมสายโลหิต ปรับชั้นต้องโพสรวม 300 กระทู้
  • **
  • กระทู้: 245
  • พลังใจที่มี 8
  • เพศ: ชาย
  • ส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้ คือ น้องหนังกลางแปลง
ช่วงหลังถ้าหนังไม่ดีจริงไม่ดูแน่ๆครับ มันแพงมากๆๆ อย่างเรื่องล่าสุดที่ไปดูก็เป็นหนังกระแสครับ เข้าไปทั้งครอบครัวหมดไป 1000กว่าบาท (เด็ก 2 ผู้ใหญ่ 2 ) ค่าตั๋วหัวละ 200.ค่าป๊อบคอน 299
ไม่จำเป็นเดี๋ยวนี้ไม้ดูหนังที่โรงแน่ๆครับ
ทีมงาน สุริยะ ภาพยนตร์ ฉะเชิงเทรา - ชลบุรี - กทม.T.083-7794556 , 0817736556
หรือติดต่อบ้านพักที่กรุงเทพฯตามที่อยู่นี้ได้เลยครับ นายยศศักดิ์ สุริยจันทราทอง 106/50 ม.ปัฐวิกรณ์ ถ.นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ10240 เลขที่บัญชี 1602076550ธ.ไทยพานิชย์ ชื่อบัญชี นริศรา จันทร์ต้น(ชื่อบัญชีภรรยา)

ออฟไลน์ ป๊อปอาย ไทยซีเน

  • Thaicine Movie Team
  • ThaiCineStaff
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • **
  • กระทู้: 4657
  • พลังใจที่มี 104
  • เพศ: ชาย
  • I LIKED THE MOVIE(FILM PLAY ONLY) & SOUND
ไม่ได้เข้าจะเป็นปีแล้วครับ... 
คำรณ ภาพยนตร์ (ป๊อบอาย ฟิล์ม)

ออฟไลน์ MECHAICINEMA49

  • ถ้าทุกอย่างที่อยู่ในมือ มันหนักไป หาที่มันพอดี แล้วเดินต่อไปนะครับ
  • Thaicine Explorer
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • *
  • กระทู้: 4724
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
ไม่ได้เข้าจะเป็นปีแล้วครับ... 
;D
กับใคร
รังสฤษฎ์ บุญเขียว
1624 / 5-6 หมู่ 5(สุดถนนสี่เลนส์) ถ.ดอนเจดีย์-สระกระโจม ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี  ติดต่อไลน์ mechaicinema49 หรือ ไลน์ mechaicinema50
ชื่อบัญชี อรอุษา บุญเขียว ธ.กสิกรไทย สาขาโรบินสัน สุพรรณบุรี หมายเลขบัญชี 783-2-03759-6
อีเมลล์:mcs_cinema@hotmail.com

ออฟไลน์ MUKDAWAN

  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • *
  • กระทู้: 603
  • พลังใจที่มี 21
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตไม่ใช่สมการคณิตศาตร์ ไม่มีมากกว่า น้อยกว่า
ช่วงหลังถ้าหนังไม่ดีจริงไม่ดูแน่ๆครับ มันแพงมากๆๆ อย่างเรื่องล่าสุดที่ไปดูก็เป็นหนังกระแสครับ เข้าไปทั้งครอบครัวหมดไป 1000กว่าบาท (เด็ก 2 ผู้ใหญ่ 2 ) ค่าตั๋วหัวละ 200.ค่าป๊อบคอน 299
ไม่จำเป็นเดี๋ยวนี้ไม้ดูหนังที่โรงแน่ๆครับ
ทำงัยได้!!iรายได้เค้าได้จากการขายขนม ป๊อบคอนยอดหลักเลย ;D ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 พฤษภาคม 2013, 11:50:13 โดย MUKDAWAN »
เทียนชัย(มุกดาวรรณ)โพธิ์ชัยเลิศ 31ราษฎร์บำรุง เมือง ระยอง 21000 TEL.081-6381189
ธ.กสิกรไทย สาขาบิ๊กซี ระยอง
ออมทรัพย์ บัญชีเลขที่ 4972098006

dook

  • บุคคลทั่วไป
ผมก็ไปดูมาเหมือนกัน หนังดังแห่งปีค่าตั๋ว130- แต่ขอโทษทีเถอะครับ มีการปรับเลนส์ให้เห็นด้วย ความคมเท่าเส้นหมี่ ดูไปขยี่ตาไป แสงด้านล่างก็สว่างน้อยกว่าด้านบน หนังก็สนุก เกือบจะหมดสนุก เซ้งครับ ในรอบ25ปี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 พฤษภาคม 2013, 12:49:14 โดย dook »

ออฟไลน์ แพมมี่ ภาพยนตร์

  • ThaiCineStaff
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • **
  • กระทู้: 856
  • พลังใจที่มี 36
  • เพศ: ชาย
คงจะสร้างสถิติใหม่ครับ
ค่าตั๋วแพงที่สุดในโลก อันดับที่ 1
โรงภาพยนตร์ ระบบดิจิตอล 100% มากที่สุดในโลก อันดับที่ 1 และเป็นชาติแรกของโลก
- แพมมี่ ภาพยนตร์ - >> 54/3 ม.10 บ้านหนองขาม ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย 43000 << โทร.084-0312445 >> บัญชี กรุงไทย สาขาศูนย์ราชการหนองคาย เลขที่บัญชี 9807653878 >>