หน่วยเช่าหนังไทยยุค 16 ม.ม พิทักษ์ ภาพยนตร์ วงเวียนใหญ่

[นักพากย์ภูธรย้อนยุค]

พูดถึงหนังไทย ยุค 16 ม.ม  พร้อมนักพากย์ ชายหญิง  ที่มีจำหน่ายมากที่สุด...ต้อง  พิทักษ ภาพยนตร  ตรอกวัดใหญ่ศรีสุพรรณ วงเวียนใหญ่  เป็นเรือนไม้ 2  ชั้นครับ.

เท่าที่จำไดได้  มี   จุฬาตรีคูณ  แมวเหมียว  กายทิพย์ เมฆขลา  จอมโจรมเหศวร...เอ..จำไม่ได้แล้วครับ..ขอพักยกก่อน ..ดูภาพประกอบ..เดิ๋ยวค่อยคุยกันใหม่..นะครับ 

[มนัส กิ่งจันทร์]

แหม.. กำลังติดเครื่อง.. อาจารย์ก็หยุดขายยาซะแล้ว...
อาจารย์ครับ..แล้วพอหมดยุคหนัง 16 มม.แล้ว บริการพิทักษ์ภาพยนตร์นี้ เขาเปลี่ยนไปปล่อยหนัง 35 มม.หรือเปล่าครับ..

[นักพากย์ภูธรย้อนยุค]

  ขอบคุณ  มนัส  ที่สอบถามมา นะครับ.  หนังเจ้านี้ไม่มี.....ไม่มีหนัง 35 ม.ม เลยครับ  เป็นยุคหนัง 16 ม.ม ครองตลาดอยู่  มีแต่ หนังไทย 16 ม.ม

ทั้งหมดเลยครับ....และมีมากที่สุด....ตามร้านเฉลิมกรุง ร้านหนึ่ง มีหนังไทย 16 ม.ม ไม่กี่เรื่อง.....ส่วนใหญ่ผมมาเอาหนังที่บ่อยๆ  มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อ วันที่ 30 ธ.ค 13

ผมออกจากดำเนิน ตี 4  มาถึงบ้าน พิทักษ์ ภาพยนตร์  ตอนเข้า  เจ้าของบ้าน ยังไม่ติ่นเลยครับ

  เจ้าของ ชือ  คุณสม หรือ เฮียสม อาบน้ำ  เสร็จก็  ออกมาต้อนรับ  ผม กับ คุณเสมอ ที่มาด้วยกัน  ขอติดต่อหนังไทยเรื่อง  กายทิพย์

ฉายที่ดำเนิน  ที่ หอประชุมโรงเรียนสายธรรมจันทร์  ในคืนวันที่  31  ธันวาคม 13  คุณสมบอกว่า   ให้รอบ 2 ทุม รอบเดียว  เพราะติดบุ๊คที่อื่น  ผมปรึกษากับ

คุณเสมอ ว่าไม่คุ้มกับการลงทุนในการจัดงานครั้งนี้  คุณสม  บอกว่า  มีหนังไทย  เรื่อง สองสิงห์ จ้าวพยัคฆ์  ยังไม่เคยลงในดำเนินเลย  ผมก็

ตกลง   ว่า  รอบแรก  ฉายหนังไทย กายทิพย์   รอบ 2  ฉายหนังไทย  สองสิงห์ เจ้าพยัคฆ์  ครับ     ขอพักยกก่อนครับ....เดี๋ยวค่อยคุยต่อ...ครับ


                   ( มีภาพประกอบ  ร.ร สายธรรมจันทร์เก่า  ที่เคยมาปิดวิก ปี 13  ริมคลองดำเนิน  ปัจจุบัน เป็นโรงเรียนอนุบาล วัดโชติทายการาม แล้ว )

[มนัส กิ่งจันทร์]

ถ้าอย่างนั้น บริการพิทักษ์ภาพยนตร์ ก็คงมีแต่หนัง 16 มม.นะครับ.. แล้วเมื่อหมดยุคหนัง 16 มม.แล้ว
อาจารย์คิดว่า เขาเลิกไป เขาปล่อยฟิล์มเหล่านั้นไปให้ใคร พอทราบไหมครับ..หรือว่าตอนนี้ เจ้าของเขายังอยู่หรือเปล่าครับ..
คนทำหนัง 16 มม.ที่ไม่เปลี่ยนตัวเองไปทำหนัง 35 มม.นั้น หาได้ยากครับ..อยากฟังความเห็นเขานะครับ..

ส่วนเรื่อง กายทิพย์ ที่อาจารย์เคยเช่้ามานั้น ผมเองเคยตามไปเจอกากฟิล์มอยู่ 2 ครั้ง ครั้งแรกไปเจอที่ร้อยเอ็ด
เขากำลังจะทิ้งฟิล์ม ก็เลยขอเขามาครับ ตอนนั้นมาทำเป็นวีดีโอไว้ครับ ก็เลยนำมาฉายรำลึกความหลังอาจารย์นะครับ
ส่วนอีกชุดหนึ่ง อยู่ในชุดที่เคยมีคนบอกว่า ได้ฟิล์มมานะครับ..

ส่วนเรื่อง สองสิงห์จ้าวพยัคฆ์ นั้น ได้ข่าวว่า ผู้สร้างทำฟิล์มไว้เพียง 1-2 ชุดเองครับ ตอนนี้ หาฟิล์มไม่ได้แล้วครับอาจารย์
ขอบคุณอาจารย์นะครับ ที่เล่าความหลังให้ฟัง ฟังแล้วมีประโยชน์กับประวัติศาสตร์หนังไทยมากเลยครับ ผมชอบ..

แล้วนี่่ ก็เป็นหนังเรื่อง กายทิพย์ จากกากฟิล์มที่ผมวีดีโอไว้ครับ ..
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ กายทิพย์ (2513 สมบัติ-อรัญญา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/lcNdvKpjKGM?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

[นักพากย์ภูธรย้อนยุค]

 ตอบ...คุณมนัส...ดังนี้   ช่วงปี 17  ผมย้ายมาทำงาน จากดำเนิน  มาอยู่ บ้านโป่ง แล้ว เป็นยุคหนัง 35  เต็มตัว...ทั้งหนังฝรั่ง จีน อินเดีย  แต่ต้องพากย์ไทย มีบทหนังให้

 พากย์สดๆกันเลย  ส่วนหนังไทยเป็นระบบ 35  เสียงไทยในฟิล์ม....พอ.หมดยุคหนัง 16 ม.ม  ผมไม่ได้ ไปที่  พิทักษ์ ภาพยนตร์  อีกเลย...ไม่มีข้อมูลเลยครับ.     

                   ในวันที่  31  ธันวาคม 13  เป็นวันส่งท้ายปีเก่า  ต้อนรับปีใหม่ ของอำเภอดำเนินสะดวก    ผมจัดงานถึง  2  งาน  งานปิดวิกที่หอประชุม โรงเรียน

สายธรรมจันทร์  คืนวันที่  31 ธันวาคม 13  รอบแรก  กายทิพย์   รอบ 2  สองสิงหเจ้าพยัคฆ์.

                   หอประชุม โรงเรียนสายธรรมจันทร์  มีคลองดำเนินคั่นกลาง ฝั่งตรงข้าม เป็นวัดโชติทายการาม  รับงานฉายกลางแปลง ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 13

เลยต้องมาเอาฟิล์มหนัง  ฝรั่ง 16 ม.ม. ฉาย  4  เรื่อง ด้วย.

                   ผมเล่ามาถึง  หน่วยหนัง  พิทักษ์ ภาพยนตร์ นะครับ  ออกจากพิทักษ์ ภาพยนตร์  มาขึ้นรถ 2 แถว มา ลาดหญ้า  คุณเสมอพามา ที่ร้านจำหน่ายหนัง
 
ของ  คุณฉลอง  อยู่ลาดหญ้า     มาถึงบ้านคุณฉลอง...ก็แวะดูฟิล์มหนัง หลายเรื่อง เช่น ธิดาช้างเผือก   ไอ้หนุ่มบ้านนา อินทรีผยอง

กลัวเมีย  เป็นหนัง  16 ม.ม  อีกหลายเรื่องจำไม่ได้....มีหนังฝรั่งที่หาอยู่....มีน้อย...ไม่ถูกใจ...เลยไม่เอา.

                   ผมกับคุณเสมอ...ปรึกษากันว่าจะไปเอาหนังฝรั่ง....ที่ หน่วยหนัง เสรี ภาพยนตร์ ดีกว่า หนัง ฝรั่ง 16 ม.ม เยอะดี....ขอพักยก...ก่อนครับ.

                           ( มีภาพประกอบวัดโชติทายการาม  พลับพลาที่ประทับพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ มาทรงพระกฐินต้น ปี 2510 ด้วย )

          สุดท้าย  ขอขอบคุณ...คุณมนัส  กิ่งจันทร์  ที่นำเสนอ...หนังไทย  กายทิพย์  มาให้ชมกัน  และ บรรยาย ทำให้ เข้าใจ เรื่องราวชวนติดตามด้วย ครับ.

[มนัส กิ่งจันทร์]

ขอบคุณอาจารย์มากๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม...
อาจารย์บอกว่า พอหมดยุคหนัง 16 มม. ก็ไม่ได้ไปที่บริการพิทักษ์ภาพยนตร์ อีกเลย.. ก็เลยทำให้ข้อมูลขาดตอนไป..
ก็เลยยิ่งอยากรู้ว่า แล้วเขาเลิก เขาย้าย หรือเขายังอยู่แถวนั้น หรือว่าลูกหลานเขายังอยู่ ถ้าคิดแบบเป็นคุณแก่เราๆ ก็จะ
คิดว่า ถ้าเกิดเขายังเก็บฟิล์มหนังไว้ ก็จะเป็นโชคของเราที่จะได้เห็นหนังไทยเก่าๆ.. แต่ถ้าคิดเป็นกลางๆ ว่า เขาเป็นบริการ
ให้เช่าฟิล์มหนัง 16 มม. ยิ่งอาจารย์บอกว่า เขามีหนัง 16 มม.เยอะกว่าใครด้วย นั่นก็หมายความว่า คนอื่นๆ ก็คงรู้ว่า เจ้านี้
มีฟิล์ม 16 มม.อยู่ครับ ป่านนี้ คงไม่มีฟิล์มเหลือแล้วครับ.. เท่าที่ผมทราบมา กรุฟิล์ม 16 มม.ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯก็คือ
บริการอุษาฟิล์ม ใกล้ๆ เฉลิมกรุง เป็นเจ้าเดียวที่เก็บฟิล์มหนังไว้มากที่สุด..และเมื่อถึงยุควีดีโอเทปได้ขายกากฟิล์มเหล่านั้น
ทั้งหมดให้คนๆหนึ่งไปทำวีดีโอเทป.. แต่ว่าพอทำแล้ว ก็หมดยุควีดีโอพอดี.. หนังทั้งหมดจึงมาออกเป็นวีซีดีในปี 2543 ของ
ค่ายเลปโส้ที่พวกเราซื้อๆ กันมาดูนั่นแหละครับ... ส่วนฟิล์มทั้งหมดนั้นได้ข่าวว่า เพิ่งบริจาคให้หอภาพยนตร์ไปเมื่อ 2-3 ปีมานี้เองครับ...

จริงๆ แล้ว ฟังอาจารย์เล่าเรื่องไปเช่าฟิล์มหนัง 16 มม.ที่กรุงเทพฯ แถวย่านฝั่งธนบุรีนั้น.. ถ้าเป็นคนสมัยนี้ก็คงงงๆ ว่า ทำไมต้องข้่ามฝั่งไปทางฝั่งธนบุรีด้วย..ไม่เช่าแถวๆ ย่านเฉลิมกรุง.. อันนี้ ก็บอกว่า ในสมัยนั้น ถนนที่จะเข้ากรุงเทพฯ ตอนนั้น ยังไม่มีถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี.. และเข้าใจว่า ช่วงที่อาจารย์ไปเช่านั้น สะพานปิ่นเกล้า ก็ยังไม่สร้างด้วยนะครับ... จะเข้ากรุงเทพฯ ได้ก็ต้องข้ามสะพานพุทธ... แต่อาจารย์คงเดินทางมาจาก สายแม่กลอง..หรือว่า สายเพชรเกษม..ซึ่งจุดใหญ่ที่ต้องมาเจอกันก็คือ วงเวียนใหญ่.. ก็เลยเดินหาฟิล์มแถวย่านนั้น จะสะดวกกว่า...ได้ปุ๊บ ก็นั่งรถกลับ..

ผมลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเราลองย้อนรอยเล่าเรื่อง แหล่งเช่าฟิล์มหนัง 16 มม.ย่านวงเวีัยนใหญ่.. ทำเป็นเหมือนว่า อาจารย์ลงรถ(ไฟ) มา แล้วก็เดินๆ ไปยังบริการหนังแถวนั้น... ไปดูว่า ตอนนี้ เขาเปลี่ยนเป็นร้านอะไรแล้ว.. ก็น่าสนุกนะครับ.. 

[นักพากย์ภูธรย้อนยุค]

    ขอบคุณ...ครับ....ขอตอบดังนี้..นะครับ.

            ผมเิดินทางจากดำเนิน มีถนนสายเพชรเกษม สายเดียว ที่ต้องเข้ากรุงเทพ มาลงที่ สายใต้เก่า สามแยกไฟฉาย เยื้องๆ กับซอยบุปผาสววรค์...ใครจะหา

วงดนตรี  ไปแสดง ทุกคณะ มีตัวแทนรับงาน มาอยู่ที่นี่หมด..ครับ....สายใต้มองเห็น ร้านอาหาร บุบผา สายชล ที่เล่นหนังมนต์รัก ลูกทุ่ง กับ ศรีไพร ใจพระด้วย

จากนั้น ก็ต่อรถเมล์ มาลงที่ วงเวียนใหญ่  แวะ หาหนัง ที่พิทักษ์ ภาพยนตร์ก่อน  ถ้าไม่ถูกใจ จะไปที่ เสรี ภาพยนตร์ อยู่เยาวราข และ  ย่านเฉลิมกรุง  ต่อไปครับ.

            เมื่อ ปี 2554  ที่ผ่านมา  นำ้ท่วมใหญ่  ชานเมืองกรุงเทพ  และ นครปฐม สร้างความเสียหาย  หน่วยหนังที่มีฟิล์มภาพยนตร์..ทั้ง 16 ม.ม และ 35 ม.ม

หนีนำ้ไม่ทัน  ต้องจมนำ้  เสียหายมากมาย   เห็นท่านน้องเค   เคยเล่าให้ฟัง ว่าไปขนหนังหนีนำ้ท่วม หน่วยหนังของเพื่อน  ขนไม่หมด  บางส่วนก็จมนำ้เยอะเลย.
 
ส่วนหนังไทย 16 ม.ม  มี หนัง  มิตร - เพชรา  หลายเรื่อง  ของหน่วย หนัง ไพรัตน์ ภาพยนตร์  ที่นครไชยศรี  ก็จมน้ำเสียหายไปด้วย   เอามาทิ้ง ถังขยะ

เทศบาล  ท่านผู้ใหญ่  เป๋  สวนป่าน  เสียดายหนัง 16 ม.ม  ก็ไปสอบถาม คนเก็บขยะ ของเทศบาลนครไชยศรี  ก็ไม่เจอ ซาก.   ปัจจุบันนี้ ท่านผู้ใหญ่ เป๋  สวนป่าน

นักพากย์หนัง  มีฟิล์มหนัง 16 ม.ม เรื่องเดียวที่สร้างโดย  ธนาคาร กรุงไทย  เรื่อง  แม่  ( เสียงไทย )   ขอพักยก...ก่อนครับ.  คราวหน้าจะขึ้นหัวข้อใหม่ ครับ.

                                               ( หมายเหตุ  มีหน่วยหนังหลายหน่วย  ถ้าเกี่ยวข้องกัน ก็จะต่อเรื่อง    ไปเรื่อยๆ   เท่าที่จำได้ครับ )

[มนัส กิ่งจันทร์]

อาจารย์ครับ.. เรื่อง น้ำท่วม แล้วฟิล์มหนัง 16 มม. เสียหายไปนั้น น่าสนใจ น่าฟังมากๆ เลยครับ.. อยากคุยต่อนะครับ โดยเฉพาะกับบริการหนังที่ว่านะครับว่า เหตุการณ์ตอนนั้น เป็นอย่างไรบ้าง.. แล้วฟิล์มที่เสียหายไปนั้นมีเรื่องอะไรบ้างครับ....
แต่ว่า วันนี้ ผมมีเรื่องเล่าจากการเดินสำรวจ บริการพิทักษ์ภาพยนตร์ มาฝากครับ....

เห็นอาจารย์มนูญพูดถึง บริการพิทักษ์ภาพยนตร์ ที่อยู่ในซอยวัดใหญ่ศรีสุพรรณ ย่านวงเวียนใหญ่..ทีแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่า เดี๋ยวอาจารย์คงจะมาเล่าบอกต่ออีก.. แต่พออาจารย์บอกว่า ตั้งแต่เลิกเช่าฟิล์มหนัง 16 มม.แล้ว ก็ไม่เคยไปที่นั่นอีกเลย ไม่รู้ว่าจะยังอยู่ต่อหรือไม่.. แค่นี้แหละครับ ผมก็อดรนทนไม่ไหวเพราะรายชื่อหนัง 16 มม.ที่อาจารย์เคยเช่ามาฉายนั้น มันสำมะคัญจริงๆ...

วันนี้ ก่อนที่ผมจะไปคลองถมตามปกติ ผมก็เลยลองนั่งรถเมล์ไปแถวนั้นสักหน่อย ก็โทรถามความหลังจากอาจารย์ว่า บริการหนังที่ว่านี้อยู่ตรงไหนในซอยวัดใหญ่ศรีสุพรรณ.. อาจารย์ก็บอกว่า มันนานมาแล้ว เดินเข้าซอยไป.. จะเจอคลอง.. ให้ข้ามคลองไป เป็นบ้านไม้สองชั้น.. นี่เป็นความหลังที่อาจารย์มนูญจำได้.. ผมก็นั่งรถเมล์ไปลงหน้าตลาดบางยี่เรือ.. มองเห็นฝั่งตรงข้ามเป็นปากซอยเข้าวัดใหญ่ศรีสุพรรณ.. ก็เดินเข้าซอยไปได้ประมาณ 30 เมตร ก็เจอแยก.. ทางซ้ายบอกว่าไปวัดใหญ่ศรีสุพรรณ.. ทางขวาบอกว่า ทางลัดไปวัดหิรัญรูจี.. เอาล่ะซิ งง แล้วครับ เพราะเดินยังไงก็ไม่เจอคลองที่อาจารย์บอกไว้.. เจอแต่ถนนลาดยาวที่เหมือนสร้างคร่อมคลองไว้ทั้งซอย..

ผมตัดสินใจเดินมุ่งหน้าไปทางวัดใหญ่ศรีสุพรรณ.. สองข้างทาง ดูแล้วก็เป็นบ้านไม้สองชั้นเป็นส่วนใหญ่และดูเหมือนจะเป็นบ้านเก่าๆ 40-50 ปีแล้วทั้งนั้น บางแห่งก็เป็นตึกแถวสร้างแซมขึ้นมา..พอเห็นบ้านไม้สองชั้น ในใจก็คิดว่า หวานแน่ๆ เพราะตรงกับที่อาจารย์บอกไว้ว่า เป็นบ้านไม้สองชั้น.. แต่บ้านมันเยอะจริงๆ ครับ.. เดินไปสักพักก็หยุดถามไถ่บ้านไม้สองชั้นที่เป็นร้านขายของ.. ดูเจ๊แกแล้วอายุเกิน 50 ปีแล้วล่ะครับ..  พี่ครับ..พอจะจำได้ไหมครับว่า เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ในซอยวัดใหญ่ศรีสุพรรณนี้ เคยมีบริการหนังชื่อ พิทักษ์ภาพยนตร์ ที่เช่าให้ฟิล์มหนังรุ่นมิตร-เพชรา... ผมยิงคำถามเข้าไป.. โอ๊ะ ตั้ง 40 ปีแล้ว.... จำไม่ได้.. ไม่แน่ใจ.. ลองไปถามบ้านอื่นดูซิ.. เจ๊แกตอบ ทำเอาผมหมดหวังเลยครับ

เอาล่ะ ไหนๆ แล้ว ก็ลองเดินไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน ผมก็ลองเดินเข้าซอยไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งเจอบ้านไม้สองชั้นริมถนนมากขึ้นอีก แต่ก็พยายามมองหาคนที่อายุมากๆ หน่อย จะได้ถามความ.. แต่ก็ไม่มี.. กระทั่งไปหยุดที่หน้าวัดใหญ่ศรีสุพรรณ.. เห็นแม่ค้าขายกล้วยแขก ท่าทางมีอายุหน่อย ก็เลยลองถาม ก็คำถามเดิมๆ นั่นแหละครับ... เอ.. พี่ก็ไม่ใช่คนแถวนี้ด้วยซิ.. แต่คนแก่ๆ เก่าๆ ก็บ้านหลังโน่น... (ชี้นิ้วให้ดู) ลองไปถามแกดูซิ... ผมเดินไปบ้านหลังที่ว่า เป็นบ้านตึกแถวเลขที่ 71  มองเห็นป้าแก่ๆ (จริงๆ ต้องเรียก ยายแล้ว) 2 คนกำลังขะมักเขม้นทำขนม นึ่งขนมอยู่.. ผมก็ยิงคำถามไปที่ ป้าลออ ขวัญแก้ว ก็คำถามเดิมๆ อีกแหละครับ...

คราวนี้ ได้เรื่องเลยครับ.. อ๋อ.. เขาเลิกไปนานแล้ว.. ผมก็ถามต่ออีกว่า.. แล้วบ้านหลังนั้นยังอยู่หรือไม่.. ป้าลออก็บอกว่า เขารื้อทิ้งไปหมดแล้ว พร้อมกับชี้นิ้วให้ดูตึกแถว 2 ชั้นที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านแก.. ห้องนั่นไงห้องเลขที่ 58/5..ป้าลออบอกต่อ.. จากนั้น ผมกับป้าทั้งสองก็เลยคุยกันถึงอดีตของหนังไทยเก่าๆ กัน.. ป้าเล่าให้ฟังว่า ได้เห็นดาราหนังหลายคน.. ตอนบริการหนังนี้จะเลิกกิจการ ก็เห็นมีการขนย้ายฟิล์มหนัง ข้าวของออกไปหมดก่อนแล้ว.. ทิ้งบ้านร้างสักพัก จากนั้นก็รื้อทิ้งและสร้างเป็นตึกแถว.. พอถามถึงว่า ในละแวกเดียวกันนี้ เคยมีบริการหนังแบบนี้อีกหรือไม่ ป้าก็บอกว่า ไม่มีแล้ว มีเจ้าเดียว... คุยสักพัก ผมก็ลากลับ.. ปิดตำนาน พิทักษ์ภาพยนตร์ เรียบร้อยครับ..

[komgris]

เมื่อ ปี 2532-2541 ผมได้เช่าหอพักที่ซอยวัดใหญ่ศรีสุพรรณ  ซึ่งได้มาเรียนที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เคยได้รับทราบข้อมูลหน่วยเช่าหนังไทยยุค  16 ม.ม  พิทักษ์ ภาพยนตร์  วงเวียนใหญ่ เช่นกันครับ