กลับมาดูตลาดหนังแผ่นอินเดียในไทย
(เฉพาะที่พากย์ไทย) ในเมื่อหนังอินเดียในไทย แทบไม่ได้ฉายตามโรง
(จะมีบางเรื่องที่นำเข้ามาฉายเพียงรอบ สองรอบ) โฆษณาทางหน้าหนังสือพิมพ์จึงไม่มี ทางทีวีหรือสื่ออื่นก็ไม่มี
เมื่อมีการนำหนังอินเดียมาทำเป็นหนังแผ่น พากย์ไทย ไม่ค่อยมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือถ้ามีก็นิดหน่อย หรือเล็ก ๆ (แทบต้องเอาแว่นขยายส่องดู)
อาจเพราะว่างบประมาณการโฆษณาจำกัด หรือยังไม่พร้อมที่จะ
”ทุ่มเพื่อสร้างตลาด” หรืออาจเนื่องจากนโยบาย
“การตลาดซึมลึกแบบน้ำซึมบ่อทราย” ที่ค่อย ๆ ขาย ไม่ต้องทุ่มอะไรมาก เพราะมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว
บางรายอาจเห็นว่า
“ไม่น่าเสี่ยง” ที่จะโปรโมท เพราะจุดคุ้มทุนสูง ต้นทุนการผลิตหนัง มีตั้งแต่ค่าลิขสิทธ์ ค่าทำบท ค่าพากย์ ค่ามาสเตอรริ่ง เฉพาะค่าปั๊มแผ่นวีซีดี หนังอินเดียมาตรฐาน อย่างต่ำต้อง 3 แผ่นต่อเรื่อง ซึ่งสิ้นเปลืองกว่าหนังทั่วไปที่เฉลี่ยเป็น วีซีดี 2 แผ่น หนังแผ่นอินเดีย เมื่อรวมกับค่าแพ๊ค ค่ากล่อง ค่าปก ก็ย่อมสูงไปด้วย แต่หนังแผ่นอินเดียวีซีดี ราคาขายปลีกเฉลี่ยก็ไม่สูง ประมาณเจ็ดสิบ แปดสิบบาท จนถึงถึงร้อยเศษ ๆ ลูกค้าทั่วไปพอมีกำลังซื้อได้
ปัจจุบันหากจะประมวลจากปัจจัยส่งเสริมคือการพัฒนาคุณภาพของหนังอินเดียดีขึ้น การค้าระหว่างไทยกับอินเดียขยายตัวขึ้น อินเดียเองก็ปรับทิศทางการลงทุนการตลาดระดับนานาชาติ อนาคตการตลาดหนังอินเดียในระดับนานาชาติจึงมีโอกาสก้าวหน้าไปมาก โดยมีฐานผู้ชมจากชาวอินเดียเป็นพื้น ต่อยอดด้วยผู้ชอบความเป็นตะวันออก และกลิ่นอายแห่งอารยะธรรมภารตะ
กอปรกับ “จุดขาย“ หนังอินเดียที่มีดาราระดับ ”แม่เหล็ก” อาทิ
ซาฮ์ รุข ข่าน, อมิตาป บาจาห์น, อิสวารายา ไร, ปรีตี้ ซินต้า, จอห์น อับบราฮัม ฯลฯ เป็นตัวชูโรง มีการถ่ายทำในต่างประเทศ ร่วมทุนกับต่างชาติ หรือแม้กระทั่งนำนักร้องจากต่างชาติเข้าไปร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ (DHOOM) ที่น่าจับตาคือ
“ระบบโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม“ มีช่องหนังอินเดีย มิวสิควีดีโออินเดีย แพร่ภาพกว้างไกลไปทั่วโลก ย่อมส่งผลให้การตลาดหนังอินเดียขยายไปทั่วโลก