บทที่ 12 เสนอฉาย หลังกล้อง.. เกียรติศักดิ์ทหารเสือ (2508)

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

บทที่ 12
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
หลังกล้อง..เกียรติศักดิ์ทหารเสือ (2508 ไชยา-พิศมัย-สมบัติ-ทักษิณ)
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 20 เมษายน 2556)

หลังกล้อง..เกียรติศักดิ์ทหารเสือ (2508)

            สวัสดีครับทุกท่าน.. มีหนังไทยอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมเคยเขียนถึง พูดถึงในทำนองที่ว่า เสียดาย..ที่เป็นหนังดังเกินไปในยุคนั้น ยุคที่เป็นหนัง 16 มม.ซึ่งฟิล์มที่ใช้ฉายทั่วประเทศ มีเพียงไม่กี่ชุด..แล้วฟิล์มหนังชุดนั้นก็ถูกใช้ฉายจนไม่เหลือซากกลับมาให้พวกเราได้เห็นกันอีกเลย..คงเหลือแต่ใบปิดโฆษณา ภาพนิ่ง ส่วนเรื่องย่อนั้นก็ยังหาไม่ได้..สุดท้ายก็ลงเอยด้วยคำว่า เป็นหนังที่สาบสูญไปแล้ว..

            คงไว้แต่เสียงร่ำลือของผู้คนในยุคนั้นว่า เป็นหนังที่โด่งดังและดีมากๆ เรื่องหนึ่งในปี 2508 หนังเรื่องที่ว่าก็คือ.. "เกียรติศักดิ์ทหารเสือ" นำแสดงโดย ไชยา สุริยัน-สมบัติ เมทะนี-พิศมัย วิไลศักดิ์-ทักษิณ แจ่มผล-อดุลย์-รุจน์-ส.อาสนจินดา-อนุชา-พร-สาหัส-จำรูญ-สมพงษ์.. สร้างโดย ภาพยนตร์สหะนาวีไทย ของ สุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ เป็นผู้อำนวยการสร้าง..กำกับการแสดงโดย ส.อาสนจินดา บทประพันธ์ของ อิงอร ออกฉายครั้งแรกวันที่ 8 กรกฎาคม 2508 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง-เฉลิมบุรี..

            แต่ที่ต้องพูดถึงหนังเรื่องนี้อีกในวันนี้ ก็เพราะเป็นความโชคดีของคนไทย.. ไม่ใช่ไปได้ฟิล์มหนังมานะครับ..เพราะหนังเต็มๆ เรื่องนี้นั้นหาไม่ได้มานานแล้ว แต่ผมไปได้ฟิล์มหนังเบื้องหลังการถ่ายทำหนังเรื่องนี้มาครับ..เป็นฟิล์ม 16 มม.ขาวดำ ไม่มีเสียง ความยาวประมาณ 19 นาที ถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 2508 นับถึงวันนี้ก็จะ 48 ปีแล้วครับ ฟิล์มก็เริ่มบิดงอบ้างบางส่วน เวลาฉายก็ทำให้ปรับความคมชัดไม่ค่อยได้.. แต่ก็ฉายดูจนจบม้วนนะครับ..

นี่ก็คือ ภาพถ่ายที่ค้นเจอในเว็บไซด์ระบุว่า เป็นโฆษณาเรื่อง เกียรติศักดิ์ทหารเสือ ขณะที่กำลังฉายที่ โคราช ในปีนั้นครับ..

            ผมได้ฟิล์มนี้มาอย่างไรหรือครับ.. ผมก็เพิ่งได้มาเมื่อวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2556 นี้เอง..เหตุที่ได้นั่นหรือครับ ก็เพราะผมได้พบกับคุณโต๊ะพันธมิตรและเพื่อนๆ ที่ตลาดคลองถม..พอคุณโต๊ะรู้ว่า ผมกำลังรวบรวมเศษฟิล์มหนังไทยเก่าๆ เพื่อเข้า “โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ” แกก็บอกว่า ดีแล้ว ทำไปเถอะ จะมีหนังไทยเก่าๆ เหลือไว้ให้คนดูกันแม้จะไม่จบเรื่องก็ตาม..แล้วแกก็ถามว่า ถ้าหนังไม่มีเสียงจะทำอย่างไร ผมก็บอกว่า ก็พยายามหาเพลงเอกของเรื่องมาใส่ ประกอบ แต่ถ้าไม่มีเพลง ก็จะใส่เพลงบรรเลงที่นักพากย์หนังในยุคเก่าๆ ใช้เปิดประกอบการพากย์หนัง 16 มม.แทน..แกก็เลยบอกว่า ทำไม ไม่พูดประกอบเอง พูดไปเรื่อยๆ ว่าเห็นใครในฟิล์มบ้าง ฉากนี้กำลังทำอะไร..พูดดีกว่าเพราะคนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ..

            ผมก็รับฟังไว้..คุยไปคุยมา แกก็เลยบอกว่า ตอนช่วงที่แกทำดีวีดีหนังไทยเก่าๆ ขายนั้น ก็เจอเศษฟิล์มที่ไม่จบอยู่หลายเรื่อง แต่ไม่ได้นำมาเพราะไม่คิดว่าจะมีใครทำหนังเศษแบบนี้..แล้วแกก็นึกขึ้นได้ว่า แกเคยได้ฟิล์มเบื้องหลัง เกียรติศักดิ์ทหารเสือ มาม้วนหนึ่ง ตอนนี้ให้คุณเล็กแฟนหนังไทย ยืมไปฉาย..แล้วก็เลยให้ผมไปเอามาฉายแบ่งกันดู.. ผมก็ติดต่อไปที่คุณเล็ก แล้วก็ได้ฟิล์มหนังม้วนนั้นมาฉายให้ดูกันครับ

            ฟิล์มหนังม้วนนี้ ดูเหมือนจะเป็นกล้องของกองถ่ายที่ต้องการถ่ายทำเบื้องหลังการทำงานเก็บไว้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือการประชาสัมพันธ์หนังในยุคปี 2508 นะครับ..สถานที่ที่ถ่ายทำส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงถ่าย แต่ตอนท้ายๆ ม้วนจะมีการออกไปถ่ายทำนอกสถานที่บ้าง.. ฟิล์มม้วนนี้ ถ้าฉายดูในปี 2508 ก็คงจะเป็นเรื่องการโปรโมตหนัง แต่พอมานั่งดูในวันนี้ สิ่งที่พวกเราได้เห็นนั้น เป็นเหมือนบันทึกประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของการถ่ายทำหนัง 16 มม.จะเรียกว่า “เป็นฟิล์มครู” ก็ได้นะครับเพราะหาดูแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ

            นอกจากเราจะเห็นพระเอก-นางเอกและดาราเก่าๆ ของหนังเรื่องนี้แล้ว ยังเห็นถึงวิธีการกำกับการแสดงหนังที่ ป๋า ส.อาสนจินดา กำลังกำกับพระเอก-นางเอกว่า จะต้องทำอย่างไรกันบ้าง.. เห็นตากล้อง เห็นวิธีการใช้กล้อง 16 มม.ถ่ายทำหนัง บางครั้งก็เห็นดอลลี่เลื่อนกล้องด้วย.. ส่วนฉากสุดท้ายก็จะเห็นวิธีการถ่ายฉากท่ามกลางสายฝนว่าสมัยก่อนเขาทำกันอย่างไร.. ดูแล้วก็เห็นบรรยากาศของหนังด้วย หนังไม่มีเสียง ผมก็เลยนำเพลงโฆษณาและเพลงเอกจากเรื่อง ซึ่งน้องเจ ธนภัทร บัวเบา ให้ยืมมาใส่ประกอบนะครับ.. แหละนี่ก็คือ..หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ หลังกล้อง..เกียรติศักดิ์ทหารเสือ ปี 2508 ที่ยังเหลืออยู่ซึ่งท่านจะได้ชม ณ บัดนี้..


คลิกดูหนังได้เลยครับ...

หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ หลังกล้อง..เกียรติศักดิ์ทหารเสือ (2508 ไชยา-พิศมัย-สมบัติ-ทักษิณ)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/9bbIKqiDhV0?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>