ความรู้สึกเมื่อได้ดูหนังในโรงระบบดิจิตอล

[Sutham]

ทุกอย่างมีเกิด คงไว้ และดับไป ไม่จีรังยั่งยืนขอแต่ทำทุกวันนี้ให้มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเราชอบ ก็เพียงพอแล้ว เพราะสุดท้ายหนังก็ต้องตายจากเรา หรือ เราจะตายจากหนังก็ไม่รู้ (มีสาระเหมือนแฮะ)5555

สาธุ

[arawinp2012]

   ถึงยังไงมนุษย์ก็ยังเป็นสัตว์สังคมอยู่ดี  ดูคนเดียวที่บ้านได้ไม่นานหรอก ยังไงก็ต้องออกไปดูกับคนเยอะๆ ถึงจะได้อรรถรส ถึงฟิล์มจะไม่มี เราก็เอา ดิจิตอลเนี่ยแหละมาฉายกลางแปลงซะเลย  จะลงทุนเท่าไหร่กันเชียว  ผุ้รู้ช่วยตอบด้วยแล้วกันนะครับ

[rocket man]

   ถึงยังไงมนุษย์ก็ยังเป็นสัตว์สังคมอยู่ดี  ดูคนเดียวที่บ้านได้ไม่นานหรอก ยังไงก็ต้องออกไปดูกับคนเยอะๆ ถึงจะได้อรรถรส ถึงฟิล์มจะไม่มี เราก็เอา ดิจิตอลเนี่ยแหละมาฉายกลางแปลงซะเลย  จะลงทุนเท่าไหร่กันเชียว  ผุ้รู้ช่วยตอบด้วยแล้วกันนะครับ

ส่วนตัวนะครับ .... ถ้าเอาแบบในโรงหนังก็คงหลักสิบล้านขึ้น ... แต่ถ้าเอาโปรเจ็คเตอร์แสงแรงๆหน่อยก็แบบบ้านๆพื้นๆฉายจอหกเมตร หรือ แปดเมตร แล้วภาพไม่แตก(ขึ้นอยู่ที่ความละเอียดของหนังด้วย) ราคาโปรเจ็คเตอร์ก็ประมาณ 3หมื่น ไปจนถึงหลายแสน แล้วก็คอมพิวเตอร์อีกสักเครื่อง(ในความเห็นผมๆคิดว่าคอมพิวเตอร์ใช้งานสะดวกกว่าเครื่องเล่น มีเดียเพลเย่อร์ ) เครื่องเสียงก็ของเดิมมีอยู่แล้ว.... ประมาณนี้ครับ

แต่ถ้าเขามีให้เราเล่นดิจิตอลกลางแปลงจริงๆ (หมายถึงลิขสิทธิ์) ก็ควรจะกำหนดสเป็คของเครื่องฉายดิจิตอลที่จะเอามาฉายกลางแปลงเอาไว้ด้วยว่ามาตรฐานสเป็คพื้นฐานควรเป็นอย่างไร  เพื่อให้เป็นมาตรฐานสำหรับหนังกลางแปลงต่อไป(ฝันเอาไว้)

[นกขมิ้น]

ส่วนตัวนะครับ .... ถ้าเอาแบบในโรงหนังก็คงหลักสิบล้านขึ้น ... แต่ถ้าเอาโปรเจ็คเตอร์แสงแรงๆหน่อยก็แบบบ้านๆพื้นๆฉายจอหกเมตร หรือ แปดเมตร แล้วภาพไม่แตก(ขึ้นอยู่ที่ความละเอียดของหนังด้วย) ราคาโปรเจ็คเตอร์ก็ประมาณ 3หมื่น ไปจนถึงหลายแสน แล้วก็คอมพิวเตอร์อีกสักเครื่อง(ในความเห็นผมๆคิดว่าคอมพิวเตอร์ใช้งานสะดวกกว่าเครื่องเล่น มีเดียเพลเย่อร์ ) เครื่องเสียงก็ของเดิมมีอยู่แล้ว.... ประมาณนี้ครับ

แต่ถ้าเขามีให้เราเล่นดิจิตอลกลางแปลงจริงๆ (หมายถึงลิขสิทธิ์) ก็ควรจะกำหนดสเป็คของเครื่องฉายดิจิตอลที่จะเอามาฉายกลางแปลงเอาไว้ด้วยว่ามาตรฐานสเป็คพื้นฐานควรเป็นอย่างไร  เพื่อให้เป็นมาตรฐานสำหรับหนังกลางแปลงต่อไป(ฝันเอาไว้)

ถ้าใช้โปรเจคเตอร์ได้ มันก็ง่ายละครับถ้าบ้านผมจัดงานมีพวกมากัน50-60คนตอนกลางคืนก็งัดโปรเจคเตอร์ออกมาฉายเลยขึ้นจอไม้ไฝ่2ต้นเครื่องเสียงก็ต่อเข้ากับเครื่องไฟยก Notebook มาจะเปิดเรื่องไหนดูก็ว่าไปจะดูเรื่องละนิดละหน่อยก็ตามใจเบื่อก็เก็บของตางคนต่างแยกย้ายสะบายแฮม ไม่ต้องไปจ้างใคร ฉายดูภายในที่พักอาศัย 

[rocket man]

ถ้าใช้โปรเจคเตอร์ได้ มันก็ง่ายละครับถ้าบ้านผมจัดงานมีพวกมากัน50-60คนตอนกลางคืนก็งัดโปรเจคเตอร์ออกมาฉายเลยขึ้นจอไม้ไฝ่2ต้นเครื่องเสียงก็ต่อเข้ากับเครื่องไฟยก Notebook มาจะเปิดเรื่องไหนดูก็ว่าไปจะดูเรื่องละนิดละหน่อยก็ตามใจเบื่อก็เก็บของตางคนต่างแยกย้ายสะบายแฮม ไม่ต้องไปจ้างใคร ฉายดูภายในที่พักอาศัย 


ว่าไปแล้ว ดิจิตอล มันทำให้ง่ายไปซะทุกเรื่อง ง่ายไปหมด ฉายก็ง่าย ก๊อปปี้ก็ง่าย หนังยังไม่เข้าโรงเลยมาสเตอร์ภาพมาแล้วรอเอาโทรศัพท์ไปอัดเสียงโรงมาโมลงแผ่นขายพร้อมกันกับโรงเลย....ง่ายมากๆ....งงๆว่าเจ้าของลิขสิทธิ์เขาอยู่ได้ยังไง ...หรือว่า....

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

ว่าไปแล้ว ดิจิตอล มันทำให้ง่ายไปซะทุกเรื่อง ง่ายไปหมด ฉายก็ง่าย ก๊อปปี้ก็ง่าย หนังยังไม่เข้าโรงเลยมาสเตอร์ภาพมาแล้วรอเอาโทรศัพท์ไปอัดเสียงโรงมาโมลงแผ่นขายพร้อมกันกับโรงเลย....ง่ายมากๆ....งงๆว่าเจ้าของลิขสิทธิ์เขาอยู่ได้ยังไง ...หรือว่า....ถูกต้องนะครับ

[ickilas]

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ กับความคิดเห็นของท่านพี่ทั้งสาม เสียเงินซื้อบัตรแล้วยังต้องเสียเวลาดูโฆษณาก่อนหนังฉายอีก ...
นอนดูที่บ้านดีกว่า.... ขอบคุณความคิดเห็นทุกท่านครับ...   จะว่าไม่ไปดูเลยก็คงไม่ได้เพราะอาจมีบางครั้งต้องพาเพื่อนผู้หญิงไปดูที่โรงหนังเพราะชวนมาดูที่บ้านเขาไม่มา..อิอิ

ปล. ไม่ทราบว่ามีท่านใดได้ดูหนังในระบบดิจิตอล ในรูปแบบสัดส่วนจอสโคปบ้างหรือเปล่าครับ ผมยังไม่เคยเห็น หรือว่า ดิจิตอลไม่มีหนังสโคป...อิอิ....

ถ้ามาดูที่บ้าน  เพื่อนหญิงกลัวเราจะยัดไส้หนัง AV ไว้ตรงกลางเรื่องสิ 55555555+++

ส่วนหนังดิจิตอล  ไม่มีสโคปครับ  มีแต่สัดส่วนไฟล์  16:9   1.85:1   2.35:1    อะไรประมาณนี้  เลขหน้ากับหลังยิ่งต่างกันมาก  จอก็จะยิ้งกว้างมากครับ  และไม่เหมือนระบบแฟลตบนฟิล์มครับ คือจะไม่มีพื้นที่เหลือบนกับล่างที่ไม่มีภาพในไฟล์ครับ   

กลับไปคุ้ยเรื่องฟิล์ม 35 มมนิดนึง เพื่อความเข้าใจเรื่องสโคป  เมื่อก่อน ภาพยนตร์ นอกจากจะใช้ฉายในโรงแล้ว  เค้าจะใช้สำหรับงานโทรทัศน์ด้วย  เพราะยังไม่มีระบบบันทึกเทปวิดีโอ  สัดส่วนภาพในฟิล์ม  จึงเป็น 4:3  เกือบละจตุรัส จำนวน 4 รูหนามเตย/เฟรม (4-perf)**  แต่เมื่อมาฉายในโรงแบบพาโนราม่า หรือซีเนม่าสโคป  หรือ อนามอฟิค ที่จอจะเป็นขนาด 1.85:1  หรือ 2.35:1   ก็จะต้องใช้เลนส์อนามอฟิคบีบภาพ ลงมาบนฟิล์ม แล้วฉายด้วยเลนส์เดิม แต่เพิ่มเลนส์อนามอฟิค หรือสโคปมาต่อจากเลนส์เดิม เพื่อขยายเฉพาะแนวนอน ให้กว้างพอดีสัดส่วนภาพเดิมเช่นตอนถ่ายมาครับ  ส่วนกรณีที่กว้างโดยไม่ต้องใช้เลนส์สโคป หรือ แฟลต  ก็จะเหลือพื้นที่บนกับล่างของพื้นที่บันทึกภาพครับ   

ตัวอย่างหนังดิจิตอลที่ไวด์ในไฟล์  ไม่ต้องใช้เลนส์สโคปครับ
https://vimeo.com/45028195
https://vimeo.com/29878405
หรือลองดาวน์โหลดไฟล์ mp4 จากเรื่องนี้มาดูก็ได้ครับ  จะเห็นว่าไวด์เลย  แบบไม่มีดำบนล่างแบบฟิล์มแฟลต
<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/4PlerBMXadY?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

** https://www.facebook.com/media/set/comments/?set=a.115513158495932.8119.115509828496265

[ickilas]

การจัดการเรื่องคอนเท้น  หนังดิจิตอล  ก็ไม่ต่างจากระบบฟิล์มเท่าไหร่ครับ  ต่างแค่สื่อที่ใช้ จากเดิม 1 เรื่องเป็นฟิล์มหนักหลายกิโล มาเป็น 1 เรื่องมาในฮาร์ทดิส 500 กิ๊กลูกเดียว เบาๆ(200 กว่ากิ๊กต่อเรื่อง)    เรื่องขนาดจอ โรงฉายก็เหมือนเดิม   ต้องฉายแสงไปบนจอแบบเดิม  ระบบเสียงก็แบบเดิม   การจะลักลอบเอาหนังมาลงแผ่น  ก็ต้องไปซูม ถ่าย ในโรงแบบเดิม  หนังสนุกๆ ยังคงทำรายได้เกิน 100 ล้านเช่นเดิม 

[นกขมิ้น]

ความต่างตรงนั้นนั่นแหละคือประเด็นที่เราต้องการสูงสุด 

[ickilas]

ถ้าการทำฟิล์มมันถูก  ก็คงยังอยู่อีกนานครับ  แต่ค่าทำแพง  เครื่องก็แพง  ฟิล์มก็แพง  เมื่อดิจิตอลพัฒนาให้ได้ความละเอียดที่ไม่ต่างกัน ในราคาถูกกว่าสุดๆ  ทำให้ต้นทุนสร้างหนัง ย้ายจากงานโพส ไปลงกับงานสร้างได้เต็มที่ครับ  เราจะมีหนังสร้างมากขึ้น ฉากอลังการขึ้น สมจริงมากขึ้นกว่าเดิม

[ickilas]

ดิจิตอล จะจอกว้างในไฟล์มาเลยครับ  สัดส่วน  2.35:1   ไม่ต้องใช้เลนส์สโคป

[ส.สุพัตราภาพยนตร์]

ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมก็พึ่งไปสัมผัสกับตัวเองมา คือไปดู จีไอโจ2 มาแต่ไม่อยากรอรอบเลยใด้รอบที่สะใจ บัตรราคา240 3d รอนานกว่าจะฉายหนังเรื่องทั้งโฆษณาและตัวอย่าง แต่มองรอบดูคนที่มาชมทั้งโรงไม่น่าเกิน 20 คนทั้งที่หนังเข้าใหม่ฉายวันแรก (นี่ขนาดเมเจอร์รัชโยธินนะครับ)สิ่งที่สังเกตุการฉาย3d คือทำไมเราใส่แว่นไปภาพที่เห็นในจอมันเหมื่อนมีอะไรเป็นชั้นๆแต่เราถอดแว่นภาพจะเบอและจะมีแค่สองชั้นแต่นี่ก็ยังไม้ค่อยเท่าไหร่ครับการที่เราจะดูหนัง3d ทำไมเราต้องใส่แว่นครับการดูหนัง3d เป็นการนั่งดูภาพเชิงช้อนใช่ไหมครับแต่ผมว่าการดูหนังของผมคือผมชอบบรรยากาศที่เราใด้ยินเสียงหนามเตยและต่อฟิลม์เองมากกว่าครับ จริงเป่ลาครับ สงสัยขอลาหนังสามดีดิจิตอลครับผม

[rocket man]

หนังสามมิติผมเคยดูครั้งเดียวและก็คงเป็นครั้งสุดท้ายครับ ...
ทุกวันนี้ผมว่าคนเข้าไปดูหนังในโรงน้อยครับ ส่วนใหญ่ที่เห็นเดินๆกันก็จะมาทานข้าว ซื้อของ นัดเพื่อน เป็นส่วนใหญ่...
ดูจากหน้าโฆษณาหนังของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีหนังลงโฆษณาไม่เกิน 5 เรื่อง จากที่แต่ก่อนมีเป็นสิบๆเรื่อง ... อันนี้หมายความว่าอย่างไร...
แต่อ่านข่าวเขาบอกว่าต่อไปอาจจะเห็นหนังไทย ทำเงินได้ 4-5 ร้อยล้านต่อเรื่อง(ขอให้จริง) แต่ก็พอจะเป็นไปได้อย่างหนัง พี่มากพระขโนง ก็สี่วันร้อยล้านแล้วโดยฉายทั่วประเทศทั้งระบบฟิล์มและดิจิตอล ... ถ้าหนังต้องการทำรายได้หลายๆล้านก็ต้องฉายให้ได้ทั่วประเทศ...เมเจอร์ เอสเอฟ จงรีบไปทำโรงหนังให้ครบทุกจังหวัดจะฉายระบบไหนก็แล้วแต่... ทำไปเถอะ...(กัดฟันพิมพ์)...555

[สถิตย์ บุตรน้อย]

หนึ่งคน......หนึ่งความชอบ
ต้องมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งครับ ที่มาทําตรงนี้
มิฉะนั้นโลกเราก็ไม่มีความหลากหลาย
เพราะทุกคนมุ่งทําแต่สิ่งเดียวกัน
ส่วนตัว ผมมองว่าคนชอบหนังระบบฟิล์ม
มันคือ....LIFE STYLE ครับ
ชีวิตคนเรานี้สั้นนัก อยากทําอะไรทําไปเถอะครับ
อย่าทําให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นพอครับ

[ป๊อปอาย ไทยซีเน]

หนึ่งคน......หนึ่งความชอบ
ต้องมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งครับ ที่มาทําตรงนี้
มิฉะนั้นโลกเราก็ไม่มีความหลากหลาย
เพราะทุกคนมุ่งทําแต่สิ่งเดียวกัน
ส่วนตัว ผมมองว่าคนชอบหนังระบบฟิล์ม
มันคือ....LIFE STYLE ครับ
ชีวิตคนเรานี้สั้นนัก อยากทําอะไรทําไปเถอะครับ
อย่าทําให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นพอครับ

*** ถูกต้องแล้วคร๊าบบบ ***