ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าวประกาศ:
ครั้งแรกของ มิตร ชัยบัญชา ตำนานพระเอกตลอดกาลบนจอ
Netflix
‘มนต์รักนักพากย์’
เตรียมออกเดินทางไล่ล่าหาความฝันไปกับรถเร่ขายยาคันนี้ได้ใน
มนต์รักนักพากย์ วันที่ 11 ตุลาคมนี้ พร้อมกันบน Netflix
กว่า 190 ประเทศทั่วโลก
•
กำกับโดย:
นนทรีย์ นิมิบุตร
•
นำแสดงโดย:
ศุกลวัฒน์ คณารศ (รับบท มานิตย์), หนึ่งธิดา โสภณ (รับบท เรืองแข), จิรายุ ละอองมณี (รับบท เก่า), สามารถ พยัคฆ์อรุณ (รับบท ลุงหมาน)
หน้าแรก
เว็บบอร์ด
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เวบบอร์ดสำหรับผู้ชื่นชอบระบบการฉายภาพเคลื่อนไหว
»
ภาพยนตร์ของเรา...การฉายภาพด้วยแผ่นฟิล์ม
»
ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์
(ผู้ดูแล:
นายเค
,
ฉัตรชัยฟิล์มshop
,
มนัส กิ่งจันทร์
) »
บทที่ 289 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย ไทรโศก (2510 มิตร-รักชนก-โสภา)
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: บทที่ 289 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย ไทรโศก (2510 มิตร-รักชนก-โสภา) (อ่าน 395 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ฉัตรชัยฟิล์มshop
Thaicine Movie Team
Moderator
พี่น้อง thaicine Gold member
กระทู้: 11694
พลังใจที่มี 441
เพศ:
รักการฉายด้วยฟิล์ม
บทที่ 289 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย ไทรโศก (2510 มิตร-รักชนก-โสภา)
«
เมื่อ:
04 สิงหาคม 2013, 22:03:47 »
บทที่ 289
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
ไทรโศก (2510 มิตร-รักชนก-โสภา)
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 5 กรกฎาคม 2556)
สวัสดีครับ
.. วันนี้
โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
ขอเสนอหนัง 16 มม.พากย์สดๆ
เรื่อง ไทรโศก สร้างโดย แหลมทองภาพยนตร์ โดย ทองปอนด์ คุณาวุฒิ เป็นผู้อำนวยการสร้าง..กำกับการแสดงโดย วิจิตร คุณาวุฒิ นำแสดงโดย มิตร-รักชนก-โสภา-บุศรา-น้ำเงิน-อดินันท์-อดุลย์.. ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2510 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง
หนังเรื่องนี้ คุณโต๊ะพันธมิตร ออกเป็นวีซีดีแล้ว โดยฟิล์มหนังเรื่องนี้ คุณโต๊ะพันธมิตรกับผมได้มาเมื่อปี 2542 แล้วก็มาทำวีซีดีเมื่อปี 2547 ซึ่งที่มาของกากฟิล์มหนัง ผมเคยเขียนลงใน
“หนังสือแฟนหนังไทย”
ของคุณเล็ก แฟนหนังไทย ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2547..
วันนั้น
วันที่ 12 สิงหาคม 2542
เป็นวันแม่แห่งชาติซึ่งใครๆ เขาก็หยุดงานกลับไปไหว้คุณแม่กัน แต่สำหรับคุณโต๊ะกับผมมีนัดที่จะเดินทางไปดูฟิล์มหนังที่จังหวัดร้อยเอ็ด พวกเรา 5 คนออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ตีห้าครึ่ง บ่ายแก่ๆ พวกเราก็ถึงที่หมาย หลังจากพูดคุยกันพอสมควร ผมก็เปิดกระเป๋าฟิล์มหนัง
ไทรโศก
ออกมาดู หยิบบทพากย์ซึ่งเป็นกระดาษเก่าๆ ส่งให้คุณโต๊ะตรวจดู ผมกับเพื่อนช่วยกันดูฟิล์มทีละม้วน แล้วเพื่อนก็บอกว่า ฟิล์มฉายไม่ได้เพราะหนามเตยแตกจนเป็นเหมือนฟันเลื่อยแล้ว ได้ยินแค่นั้นคุณโต๊ะที่คุยกับคุณปรีชาก็รีบลุกมาดูฟิล์มด้วยตัวเอง เอามือจับฟิล์มที่เขรอะไปด้วยน้ำมันหยอดจักร พลิกดูหนามเตยทีละด้านทุกม้วนไปมา สีหน้าบ่งบอกถึงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ผมเองมันเป็นพวกช่างสงสัยอยู่แล้วก็เลยอยากรู้ว่า หนามเตยที่แตกจนฉายไม่ได้นั้นมันเป็นข้างไหนกันแน่ ก็ลองสาวฟิล์มม้วนที่ 1 ออกมาดู ก็พบว่าเป็นข้างที่ใช้ฉายกันตามปกติ
ดังนั้น ฟิล์มชุดนี้จึงใช้ฉายไม่ได้จริงๆ เว้นแต่จะฉายจากหนามเตยที่เหลืออีกข้างแทน แต่จะเห็นภาพบนจอเป็นภาพกลับข้างกัน ขณะที่คุณโต๊ะกำลังชั่งใจว่า จะเอาอย่างไรดีกับฟิล์มไทรโศกนั้น ผมก็เช็คฟิล์มเรื่องอื่นต่อ ซึ่งก็พบว่าฟิล์มไม่สมบูรณ์สักเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น
บ้านสาวโสด (2513 มิตร-เพชรา)
น้องนางบ้านนา (2514 ไชยา-อรัญญา)
กายทิพย์ (2513 สมบัติ-อรัญญา)
จุ๊บแจง (2513 สมบัติ-อรัญญา)
ลูกแมว (2511:มิตร-เพชรา)
แต่ละเรื่องล้วนผ่านการใช้งานมาอย่างหนักจนทำให้หนามเตยแตกเสียหาย บางเรื่องก็มีการตัดฟิล์มทิ้งไปจนหนังสั้นลง บางเรื่องก็เหลือแค่ม้วนเดียว ฟิล์มบางตอนก็ลอกเพราะโดนละอองน้ำ
ถ้าจะเอามาทำเป็นหนังออกเผยแพร่ คงไม่ได้ แต่ผมก็ยังนำซากฟิล์มเหล่านั้นทุกเรื่องมาเพื่ออนุรักษ์ไว้ ส่วนคุณโต๊ะก็ยังอาลัยอาวรณ์ บ่นเสียดายเพราะอยากดู
ไทรโศก
มาก อยากดูว่า มิตรเล่นเป็นคนใบ้แล้วจะเป็นอย่างไร เคยแต่ได้ยินคนรุ่นเก่าเล่าให้ฟังว่าเป็นหนังดีจริงๆ แต่ก็ต้องคิดหนักเพราะนอกจากฟิล์มไม่ดีแล้ว บทพากย์ช่วงท้ายเล่มก็ยังขาดหายไปอีกเกือบ 20 หน้าด้วย ไม่รู้ว่าจะฉาย จะพากย์กันได้อย่างไร แต่เพราะเป็นหนังมิตรที่พวกเราต่างไม่เคยดูมาก่อน ถ้าไม่เอาฟิล์มกลับมา คิดว่าไม่นานก็ต้องสูญพันธุ์เพราะได้ข่าวว่าหอภาพยนตร์ฯ ก็ไม่มีหนังเรื่องนี้ด้วย ผมเลยยุส่งให้คุณโต๊ะนำฟิล์มกลับมาก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ไขกัน ตอนนั้นก็รับปากส่งเดชไปก่อนว่า จะช่วยกันกับเพื่อนหาทางทำให้หนังเรื่องนี้ฉายให้ได้ คุณโต๊ะจึงยอมหิ้วฟิล์มกลับมา
ตลอดการเดินทางกลับ ฟิล์มไทรโศกกลายเป็นเรื่องที่ถูกนำมาพูดจาแซวกันตลอดทางว่า ให้ไปซื้อฟิล์มหนัง แต่ดันมาซื้อเลื่อยกลับบ้าน...แม้ผมจะดีใจที่ได้เศษฟิล์มหนังมา 5 เรื่อง แต่ก็ยังคิดตลอดว่า จะทำอย่างไรให้ฉายไทรโศกโดยได้เร็วที่สุด ตอนแรก ผมก็บอกเพื่อนว่า ให้ช่วยกันทำความสะอาดฟิล์มก่อน จากนั้นก็ซ่อมรอยตัดต่อไปตามสภาพฟิล์มเดิมโดยไม่ต้องซ่อมหนามเตยเพื่อเอามาลองฉายดูความสมบูรณ์ของเนื้อหาก่อน ถ้าหนังสมบูรณ์ดีจึงค่อยลงมือซ่อมหนามเตยกันอย่างจริงจัง แต่ก็ถูกแย้งว่า ถ้าทำอย่างนั้น เวลาฉายก็จะต้องฉายจากหนามเตยที่เหลืออยู่ซึ่งจะได้ภาพออกมากลับข้างกัน แล้วจะทำอย่างไรดี…
ผมคิดแก้ปัญหานี้อยู่เป็นชั่วโมง ก็ปิ๊งไอเดียจากประสบการณ์ที่เคยนั่งดูหนังกลางแปลงหลังจอมาก่อน คงพอจะนึกภาพออกนะครับ เวลาเราดูหนังกลางแปลงหน้าจอ เราก็จะเห็นภาพและอ่านตัวหนังสือบนจอได้ตามปกติ แต่ขณะเดียวกันถ้าลองไปดูภาพที่หลังจอ เราจะอ่านตัวหนังสือไม่ออกเพราะภาพจะกลับด้าน ผมก็ใช้วิธีนี้มาแก้ปัญหากับฟิล์มไทรโศกโดยให้ฉายหนังจากหนามเตยข้างที่เหลือ แต่ก่อนที่แสงจากเลนส์เครื่องฉายจะพาภาพไปถึงจอหนัง ก็จะใช้กระจกเงาธรรมดามาดักลำแสงจากเลนส์ไว้ก่อน แล้วค่อย ๆ เบนกระจกให้แสงที่ดักไว้ส่องออกไปยังจอหนังที่เราตั้งไว้อีกทีหนึ่ง เท่านี้เองเราก็จะได้ภาพบนจอหนังออกมาเหมือนการฉายหนังตามปกติแล้ว
จากนั้นพวกเราก็ได้ดู
ไทรโศก
แบบใบ้ๆ มาเป็นปีๆ ขณะนั้นบอกได้เลยว่า ไม่มีทางที่จะนำฟิล์มชุดนี้มาฉายในโรงหนังได้อีกเพราะฟิล์มเปราะบางมาก ไม่อาจทนความร้อนของไฟเครื่องฉายได้ ส่วน VCD ก็หมดโอกาสเพราะถ้าต้องใช้กล้องวีดีโอซูมภาพเอาจากจอหนัง จะได้ภาพไม่คมชัดซึ่งคุณโต๊ะไม่คิดจะทำด้วย แต่แล้วโชคก็เป็นคนดูหนังเพราะเครื่องเทเลซีนหนังของ
บริษัท SOHO ASIA จำกัด
ที่ติดตั้งใหม่ ไม่จำเป็นต้องพึ่งหนามเตย คุณโต๊ะจึงลองนำฟิล์มไทรโศกไปเทเลซีนซึ่งก็ได้ภาพออกมาคมชัดมาก แม้คุณโต๊ะอยากจะให้แฟนๆ หนังไทยได้ดูไทรโศกด้วย แต่เพราะบทพากย์ขาดหายไปเกือบ 20 หน้า ทีมพากย์จึงไม่อาจลงเสียงพากย์ได้
ขนาดมีเพื่อนบางคนพยายามหาหนังสือนิยายมาอ่านเพื่อจะแกะบทพากย์ แต่ก็เจอกับลีลาการเขียนบทชั้นครูของวิจิตร คุณาวุฒิ ที่ใช้สำนวนโวหารพลิกแพลงเรื่องจนเกินกว่าจะคาดเดาได้ว่า ตัวละครนั้น ๆ กำลังพูดอะไรกันอยู่ คุณโต๊ะจึงพักเรื่องไทรโศกไว้ก่อนจนกระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2546 ที่ผ่านมาจึงตามหาบทพากย์ฉบับสมบูรณ์มาได้...
ไทรโศก
บทเด่นจะตกอยู่กับ มิตร ชัยบัญชา ซึ่งเล่น 2 บทต่างบุคลิกกัน คนหนึ่งเป็นตัวพ่อที่เป็นคนใบ้และอีกคนหนึ่งเป็นตัวลูกซึ่งเป็นพระเอก ส่วนนางเอกจะมีอยู่ 3 คนคือ
รักชนก จินดาวรรณ โสภา สถาพร บุศรา นฤมิตร
ถ้าเป็นมิตรรุ่นพ่อจะคู่กับบุศรา แต่มิตรรุ่นลูกจะคู่กับรักชนก..
แหละนี่ก็คือ หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ไทรโศก (2510 มิตร-รักชนก)
คลิกดูได้เลยครับ
...........
เนื่องจากฟิล์ม
ไทรโศก
ที่ได้มานั้น รูหนามเตยข้างหนึ่งของฟิล์มแตกเสียหายไปมาก ก็เลยตัดฟิล์มส่วนนั้นออกไปเพื่อจะให้หนังฉายผ่านเครื่องได้ แต่พอนำฟิล์มที่เขาตัดออกมาต่อรวมๆ กันเข้า มันก็ดูเยอะเหมือนกันนะครับ ผมก็เลยเก็บฟิล์มส่วนนี้ไว้เล่นๆ ว่า เป็นฟิล์มส่วนที่เขาไม่ใช้... กระทั่งเวลาผ่านมาถึงวันนี้ก็ประมาณ 13 ปี พอผมเขียนโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือนี้ ก็นำฟิล์มส่วนนี้มาฉายดูใหม่ ก็ต้องเรียกว่า พยายามฉายเพื่อแปลงไฟล์ดิจิทัลนั่นแหละครับ.. ก็เห็นว่าพอจะดูได้บ้าง ก็เลยต่อๆ รวมกันมาได้ยาวประมาณ 18 นาที..แต่ว่าไม่มีเสียงพากย์นะครับ ผมจึงใส่เพลงไทรโศกประกอบไว้..
ความจริง หนังเรื่องเคยลงไว้แล้ว แต่ก็ต้องลงใหม่เพราะเฟสบุ๊กเก่ามันปิดไปแล้วครับ..
แหละนี่ก็คือ..หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ไทรโศก ที่ยังเหลือ ปี 2510 ซึ่งท่านจะได้ชม ณ บัดนี้..
คลิกดูหนังได้เลยครับ
............
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 เมษายน 2014, 01:31:31 โดย นายเค
»
บันทึกการเข้า
ฉัตรชัย สุวรรณโสภา
88/1 ม.4 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 70120
E-mail
chatchai_suw@hotmail.com
โทร 081-7636195
ต่อพงศ์ภาพยนต์ ระบบ 35 ม.ม. ฉัตรชัยภาพยนตร์ กลางแปลงย้อนยุค 16 ม.ม.
ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีราชบุรี ชื่อบัญชี ฉัตรชัย สุวรรณโสภา หมายเลขบัญชี 940-202235-1
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
เวบบอร์ดสำหรับผู้ชื่นชอบระบบการฉายภาพเคลื่อนไหว
»
ภาพยนตร์ของเรา...การฉายภาพด้วยแผ่นฟิล์ม
»
ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์
(ผู้ดูแล:
นายเค
,
ฉัตรชัยฟิล์มshop
,
มนัส กิ่งจันทร์
) »
บทที่ 289 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย ไทรโศก (2510 มิตร-รักชนก-โสภา)