บทที่ 494 โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ แดร็กคูล่าต๊อก (2522 ล้อต๊อก-นิรุตติ์-นัยนา)

[นายเค]

บทที่ 494
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
แดร็กคูล่าต๊อก (2522 ล้อต๊อก-นิรุตติ์-นัยนา) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 8 มีนาคม 2557)

แดร็กคูล่าต๊อก 2522 ล้อต๊อก นิรุตติ์ รีมาสเตอร์กากฟิล์ม

              สวัสดีครับทุกท่าน..  เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2557 ปฏิบัติการช่วยหนังไทยจากกากฟิล์มก็เริ่มขึ้น ผมกับคุณนุฯ เดินทางไปราชบุรีเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมและขอยืมฟิล์มหนังจากผู้ใหญ่เป๋ สวนป่าน อ.มนูญ สุภาพ คุณฉัตรชัย สุวรรณโสภา คุณเค คุณบี โดยนัดพบปะกันที่สำนักงานดีเจ ศักดิ์ชาย สนั่นเมือง..  วันนั้น เราได้นำกากฟิล์มบางเรื่องที่เคยโพสแล้วกลับมาทำภาพใหม่อีกก่อนที่ฟิล์มจะหมดอายุ.. 

อ่านรายละเอียดได้จากบทที่ 492 ปฏิบัติการช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม ตามลิงค์นี้
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=407045086106801&set=o.156185157894883&type=1&permPage=1
และคลิกดูเทป.. ปฏิบัติการช่วยหนังไทยจากกากฟิล์มได้จากลิงค์นี้


              วันนี้ โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ขอเสนอฉายหนังจากกากฟิล์มของผู้ใหญ่เป๋ สวนป่าน กับ อ.มนูญ สุภาพ เป็นหนัง 35 มม.สโคป พากย์เสียงในฟิล์ม เรื่อง แดร็กคูล่าต๊อก..  เป็นหนังออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2522 ซึ่งจากการตรวจดูจากกากฟิล์มที่ได้มา 3 ม้วนนั้น จะมีการปั้มเลขรหัสก๊อบปี้ฟิล์มไว้ด้วยว่า เป็นฟิล์มชุดที่เท่าไร ดูจากเนื้อฟิล์ม น่าจะเป็นฟิล์มที่พิมพ์ออกฉายเมื่อปี 2522 นับถึงวันนี้ก็จะอายุ 35 ปีแล้วครับ..

              ที่น่าดีใจก็คือ แม้ว่าฟิล์มจะเฟด สีแดง ๆ ตามกาลเวลาแล้ว สภาพส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นปกติ หนามเตยไม่ค่อยแตก เข้าใจว่า พอเลิกฉายกลางแปลง ก็เก็บกากฟิล์มใส่กระเป๋าหนังตั้งวางไว้เฉยๆ ในบ้านธรรมดาๆ เรื่อยมาจนถึงวันนี้..พอเรานำมาฉายรวมๆ กันทั้ง 3 ม้วนคือ ม้วนที่ 1 ถึงม้วนที่ 3 วัดความยาวได้ 37 นาที (ตามปกติจะต้องได้ 50-60 นาที)

              ทีแรก ผมก็คิดว่า จะฉายฟิล์มเรื่องนี้หลังเรื่องอื่นที่ฉายได้ง่าย ๆ ก่อน แต่เพราะความอยากเห็นสภาพฟิล์มที่อายุ 35 ปีว่า จะเป็นอย่างไรบ้าง ภาพจะคมชัดหรือไม่ จะได้เก็บเป็นประสบการณ์ไว้ประเมินสภาพฟิล์มรุ่นราวคราวเดียวกัน หากต้องตัดสินใจนำกากฟิล์มมาอีก ก็เลยรีบหยิบมาฉายดูก่อน พอเห็นภาพแล้ว แม้จะเป็นฟิล์มดำ ฟิล์มธรรมดาเก่าๆ แต่ความคมชัดของภาพ ก็ยังดูดีกว่าหนังใหม่ๆ บางเรื่องด้วยซ้ำไป..ยิ่งมีเส้นฝนตกให้เห็นประปรายด้วย ก็ยิ่งมีความขลังขึ้นมาอีก

              ระหว่างฉายไปก็คุยกันไปคุณนุฯว่า เสียดายที่พวกเราคิดช่วยหนัง 35 มม.ช้าไป.. คือ ช้าเพราะมัวแต่คิดว่า หนัง 35 มม.นั้นส่วนใหญ่ เจ้าของหนังเขามักจะทำเทปวีดีโอเก็บไว้และต่อมาก็นำมาแปลงเป็นวีซีดีออกจำหน่าย.. พวกเราก็ได้แต่รอซื้อ.. แต่พอพวกเรามีโอกาสได้สัมผัสภาพจากฟิล์มหนังจริงๆ ในระบบ full HDจึงได้เห็นความชัด ลึก ที่แตกต่างจากแผ่นวีซีดีหรือม้วนวีดีโอระบบเต็มจอ เรียกว่า มุมของภาพและระบบเสียงเป็นคนละรสชาดกันเลยครับ..  วันนี้ ก็เลยมานั่งคิดๆ ว่า ทำอย่างไร เราจะหาแหล่งเก็บกากฟิล์มเก่าๆ ให้ได้มากกกว่านี้เพราะเท่าที่รู้ ๆ ยังมีหนังดังๆ อีกมากมายที่ยังไม่เคยออกวีดีโอ วีซีดี..โอกาสรอดของหนังเหล่านั้นคือ ต้องตามหากากฟิล์มให้เจอเท่านั้น..

              ตอนนี้มารู้จัก แดร็กคูล่าต๊อก กันสักหน่อยนะครับ... ในสมัยนั้น ก่อนหน้าเรื่องนี้ ค่ายไฟว์สตาร์โปรดักชั่นเปิดตัวหนังตลกเรื่อง เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง เมื่อเดือนตุลาคม 2520 ชื่อเสียงของ เด่น ดอกประดู่ เด๋อ ดอกสะเดาและเทพ โพธิ์งาม ก็ดังเป็นพลุแตกทันที จนคนกลัวว่า จะทำให้บรรดาตลกรุ่นเก่า รุ่นลายครามจะม้วนเสื่อกลับบ้านกันหมด แต่ที่ไหนได้ ตลกก็คือตลกวันยังค่ำ เพราะทำให้คนอื่นตลกได้ แต่ชีวิตตัวเองกลับถูกเล่นตลก เด่น เด๋อ เทพ จับกลุ่มแสดงหนังกันได้ไม่นาน ก็แยกกันเดิน..  ไฟว์สตาร์เอง ก็คงคิดไม่ถึงว่า หนังตระกูลต๊ะติ๊งโหน่ง ที่กะจะปล่อยมุขฮาขายไปเรื่อย ๆ กลับรายได้หดลงเพราะมีการเปลี่ยนหน้าตัวตลก เปลี่ยนหน้านักแสดงไป..

               ร้อนถึงบรมครูตลกอย่าง ป๋าต๊อก (สวง ทรัพย์สำรวย) ที่ไม่รู้คิดอะไรเพราะดันไปเสนอไอเดียว่า จะทำหนังผีดิบ.. ที่คิดว่า จะต้องตลกแน่ ๆ ฟังแค่ชื่อ แดร็กคูล่าต๊อก ซึ่งล้อเลียนมาจากหนังฝรั่ง ก็เลยเข้าทางค่ายไฟว์สตาร์ฯ ทันที

              หนังเรื่องนี้ป๋าต๊อก คุมเอง กำกับเอง (บ้าง) ว่ากันว่า บทนั้นบางครั้งด้นกันสด ๆ เลยและป๋าก็ไม่ได้มาคนเดียวเพราะยังมีดาราทั้งตลกและไม่ตลกมาร่วมแสดงกันอีกคับคั่งเช่น ชูศรี-สมพงษ์-นัยนา-วิยะดา-นิรุตติ์-เศรษฐา-มาเรีย-ขวัญ-ก๊กเฮง-พูนสวัสดิ์-สุวิน-สีเทา ซึ่งเห็นแค่ชื่อดาราก็รู้ว่า จะต้องตลกแน่ๆ แต่จะตลกแบบไหนเท่านั้นเอง พอหนังสร้างเสร็จ ก็นำออกฉายเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2522 ที่โรงหนังเอเธนส์-ศาลาเฉลิมกรุง-พาราไดซ์-พระโขนงรามา... 

              ทุกคนก็เลยรู้ว่า ป๋าต๊อก ไม่ใช่แค่ เก๋าแต่ชื่อเพราะมุขแต่ละอย่างที่ปล่อยออกมาในหนัง เล่นเอาคนดูหัวเราะชอบใจกันเป็นแถว ๆ เฉพาะแค่ฉากเปิดฝาโลงศพขึ้นมา แล้วเจอแดร็กคูล่าต๊อกนอนดูขวดนม แถมในโลงยังมีอะไรอีกหลายอย่าง คนดูก็ฮากันกลิ้งแล้วครับ.. นี่ยังไม่รวมการยกขบวนผีหลายเผ่าพันธุ์อย่าง ผีกระสือ ผีกะหัง มารวมไว้ในเรื่องเดียวกันนะครับ..แดร็กคูล่าต๊อก จึงเป็นหนังตลกที่ดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จนหลายคนจดจำมาถึงทุกวันนี้.. แดร็กคูล่าต๊อก เคยออกจำหน่ายเป็นแผ่นวีซีดีแล้วครับ แต่วันนี้ เป็นการฉายจากกากฟิล์มที่ตัดย่อ ๆ ไม่จบเรื่อง มาให้ชมนะครับ


คลิ๊กชมได้เลยครับ
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ แดร็กคูล่าต๊อก (2522 ล้อต๊อก-นิรุตติ์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


.............

              หนังค่ายไฟว์สตาร์นั้น เวลาผมไปหาฟิล์มหนัง ผมจะไม่ค่อยเน้นนำกากฟิล์มกลับมาเพราะแทบทุกเรื่องจะมีการออกเป็นวีดีโอเช่าของค่าย CVD มีการออกวีซีดีด้วยและเกือบทุกเรื่องมีฟิล์มเนกาตีฟหรือสำเนาเทปค่อนข้างชัดนะครับ แต่เพราะดูจากกากฟิล์มได้เห็นมุมภาพที่ครบถ้วนประกอบกับชอบหนังมีเส้นฝนครับ..  ก็เลยขอเขามาทำไว้เล่นๆ

              คนไทยเราสร้างหนัง ทุนก็น้อย จะเรียกว่า ทำแบบเสี่ยงโชคก็ได้ หนังเรื่องหนึ่งมีอายุไม่เกิน 5 ปีก็ตกรุ่น เลิกฉายแล้วครับ.. พอหนังเลิกฉายหรือพอไม่มีการสั่งพิมพ์ฟิล์มชุดใหม่ เขาก็เก็บฟิล์มนั้นๆ ไว้ตามอัตภาพ ตามความเป็นอยู่ของเขานั่นแหละครับ..เคยมีคนบอกว่า ถ้าจะเก็บฟิล์มไว้ให้อยู่นานๆ ก็ต้องเก็บไว้ในห้องเย็นๆ พุดไปก็มองหน้าคนสร้างไป.. ใจคนสร้างหนังมันก็แย้งๆ พูดออกมาว่า อันตัวกูเอง ณ วันนี้ ก็ยังนอนห้องพัดลมอยู่เลย แล้วมีหรือ ฟิล์มหนังจะได้นอนห้องแอร์..

              มีครั้งหนึ่งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วตอนที่ผมไปกับคุณโต๊ะพันธมิตร ไปหากากฟิล์มหนัง ก็เจอเจ้าของหนังเขาวางกระเป๋าฟิล์มหนังไว้ในบ้านตามปกติ ก็เรียกว่า จับฟิล์มใส่กระเป๋าฟิล์ม ปิดฝากระเป๋า แล้วก็ตั้งไว้ริมๆ ผนังบ้านนั่นแหละ ฟิล์มอายุกว่า 40 ปีแล้ว ยังอยู่ปกติเลยครับ..แต่พอคุยกันไป เขาก็นึกได้ว่ามีหนังสำคัญเรื่องหนึ่ง เขารักมากๆ เขาเอาฟิล์มใส่กระป๋องฟิล์มที่เป็นกล่องสังกะสีตามแบบเมืองนอก แล้วก็เก็บกล่องฟิล์มไว้ในตู้กระจก ปิดกุญแจไว้ด้วยความหวง กลัวหาย..วันนั้น พวกเราก็เลยจะขอดูเป็นบุญตาสักหน่อย..ว่าแล้ว เขาก็ไขกุญแจตู้ออก หยิบกระป่องฟิล์มมาเปิดให้ดู.. เรียบร้อยครับ ฟิล์มในกระเป๋าเหม็นเปรี้ยวหมดแล้ว ทั้งๆ ที่อายุฟิล์มก็เท่าๆ กับฟิล์มที่วางไว้กับพื้นบ้านปกติ..น่าเสียดายครับ..