นายทุนผู้สร้าง / สายหนัง / สปอนเซอร์ / โรงหนังรายใหญ่ / ผู้กำกับ / รัฐบาล / คนดู
ใครกันแน่ ที่ทำให้วงการหนังไทย ถดถอย
นายทุนผู้สร้าง ...
หนังที่นายทุนต้องการคือ หนังที่ไม่ลงทุนมาก มีดาราดังเล่น แนวซ้ำๆ ไม่สนุก ไม่เป็นไร เพราะถ้ามีพระเอกดัง หรือตลกชื่อดังเล่น สปอนเซอร์จะให้ 20 ล้าน ขายสายหนังก็ได้ราคาสูง ส่วนรายได้ในกรุงเทพไม่คาดหวัง เพราะได้กำไรจากสายหนัง และสปอนเซอร์มาแล้ว หนังที่นายทุนไม่ต้องการคือ หนังม้ามืด พระเอก นางเอกไม่ดัง เพราะทำไปแล้ว สปอนเซอร์ก็ไม่จ่ายมากถึง 20 ล้าน สายหนังก็ไม่ซื้อในราคาสูง ต้องรอลุ้นรายได้ใน กทม อย่างเดียว
สายหนัง เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้ และ 8 จังหวัดภาคกลาง ...
จะคอยกำหนดแนวหนัง และดาราที่ต้องการไปยังผู้สร้างเสมอ หากเป็นหนังไม่มีดาราดังเล่นนำ ก็จะไม่ให้ราคาสูง แต่ใจก็หวังจะเจอหนังม้ามืด ตัวอย่างหนังม้ามืดที่ผ่านมาคือ แฟนฉัน บ้านทรายทอง เป็นหนังที่ ซื้อจากผู้สร้างได้ในราคาที่ถูกมาก แต่เอาไปฉายคนดูเยอะมาก ถ้าจะเอาแบบถูกหลักการจริงๆ ราคาที่สายหนังซื้อ ควรตั้งจากความสนุกของหนัง มากกว่าหน้าหนัง
สปอนเซอร์ ...
หนังที่ไม่มีพระเอก หรือนางเอกดัง ก็อย่าหวังเลยว่าสปอนเซอร์จะซื้อโฆษณาในราคาแพงๆ ดังนั้น ผู้สร้างหนังไทยจึงแย่งคิวพระเอก นางเอกดังกันดุเดือด บางเรื่องต้องรอเป็นปี กว่าจะได้คิวว่างของ มาริโอ้ หรือเจมส์ จิ ไม่ก็ ณเดช เรื่องตัวแสดงหลัก ความต้องการก็จะไม่ต่างจากสายหนังเท่าไหร่
โรงหนังรายใหญ่ ...
ปัจจุบัน มี 2 เครือที่เป็นรายใหญ่ นอกจากจะเป็นคู่แข่งที่ดุเดือดแล้ว ในบางครั้งก็ยังจับมือกันต่อต้านโรงหนังรายใหม่ อย่างโรง 30 บาท ของ กันตนา และ โรงหนังราคาปกติของเซนทรัล ต่อต้านยังไงหรอครับ ก็เมื่อรายใหม่เพิ่งเริ่ม ยังมีจำนวนโรงไม่กี่โรง ก็เสนอทางเลือกให้ผู้สร้าง 2 ทาง ถ้าเอาหนังเข้าฉายรายใหญ่ 2 ราย ก็ห้ามเอาหนังไปฉายรายใหม่ แต่ถ้าอยากจะเอาหนังไปฉายโรงของรายใหม่ ก็ไม่ต้องเอามาเข้าโรงของรายเก่า 2 รายนี้
เมื่อมีโรงหนังน้อยราย คนดูก็ต้องซื้อตั๋วแพง ป๊อบคอร์นแพงกันต่อไป มีทางเดียวที่รายใหม่จะเข้ามาได้ ก็คือเปิดโรงพร้อมกันทั่วประเทศ 200 โรง แบบนี้ค่ายหนังก็จะไม่ต้องเกรงใจรายเก่ากันละ แต่โรง 1 สาขา ต้องใช้เงิน 1000 ล้านเลยนะ 200 โรง จะเป็นเงินเท่าไหร่ โหหหห
ผู้กำกับ ...
ผู้กำกับแต่ละคน อยากทำหนังที่แปลกแหวกแนวทั้งนั้น แต่มีไม่กี่คนหรอกที่โชคดีได้ทำหนังในแบบที่อยากจะทำจริงๆ แต่ก็ใช่ว่าฝีมือผู้กำกับจะดีทุกคน บางคนพูดขายงานเก่ง ทำไม่ได้เรื่อง บางคนพูดไม่เป็น แต่ทำเก่ง บางคนบริหารเก่ง แต่มุมมองไม่ได้เรื่อง
รัฐบาล ...
ถ้าเป็นเมืองนอก จะออกกฎหมายป้องกันการผูกขาดในธุรกิจภาพยนตร์ เช่น โรงภาพยนตร์ กับ ผู้สร้างหนัง ห้ามเป็นเจ้าของเดียวกัน และเจ้าของโรง ห้ามจัดจำหน่ายหนัง ให้รับฉายหนังแบ่ง % อย่างเดียว โดยสัดส่วนจะแบ่งไปให้ผู้สร้างมากกว่า เช่น 70 - 30 และให้ความช่วยเหลือผู้สร้าง เช่น ควบคุมราคาลิขสิทธิ์ ฯลฯ ตอนนี้ประเทศลาว มีกระทรวงภาพยนตร์แล้ว ประเทศไทยหละ จะรอ พ.ศ.ไหน วะ
คนดู ...
ก็ตัวคุณเองเลย เลือกดูหนังจากอะไร ...