ผู้เขียน หัวข้อ: อยากอยู่อย่างใหญ่  (อ่าน 1087 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
อยากอยู่อย่างใหญ่
« เมื่อ: 06 มิถุนายน 2014, 02:46:27 »




ชื่อไทย : อยากอยู่อย่างใหญ่
วันที่เข้าฉาย : 19 มิถุนายน 2557
แนวหนัง : ดราม่า
ผู้กำกับ : วุฒิชัย เจตน์ตระกูลวิทย์
นักแสดง : สรวิชญ์ สุบุญ, อาภา ภาวิไล, เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์, พิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา
จัดจำหน่าย : CDM เอนเตอร์เทนเมนท์

เรื่องย่อ อยากอยู่อย่างใหญ่

          ด.ช. ชัย ชัยปรีชา (สรวิชญ์ สุบุญ)  เป็นคนเมืองชาละวัน จากเด็กชายบ้านนอกการศึกษาแค่ ป.6  ทั้ง ๆ ที่ชัยอยากเรียนต่อใจจะขาด แต่ขาดแค่ความพร้อมของครอบครัว คำสอนของปู่ที่พูดถืงแต่อนาคตที่ดีขัดกับคำพูดของพ่อ ที่ไม่ให้ชัยเรียนต่อมัธยม แม่สงสารชัยแต่ก็ขัดพ่อไม่ได้ พ่อเพียงคิดแค่จะให้ชัยออกมาช่วยกันทำนาทำสวน เก็บดอกเก็บผลไปขาย หรือรับจ้างทำทุกอย่าง ตามอย่างพวกพี่ ๆ ที่มาช่วยกันทำมาหากิน ชัย ปาใบสมัครสอบเรียนตอนชั้นม.1 ทิ้งไป หลังจากที่พ่อไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี่ แม้คำพูดของครูพิษณุที่เคยบอกกับพ่อว่า ชัยเป็นเด็กที่เรียนเก่งที่สุดในห้องก็ตาม ภาพเก่า ๆ ของชัยในวัยเด็กป. 6 ตัดสลับกับความเสียใจเสมอ ชัยมักจะอยู่กับก๊วนเพื่อนแสบ ๆ ในห้องอย่าง ไอ้บัติ ไอ้โรจน์ ไอ้เหลียว และส้มโอ ชัยถูกยกย่องเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มเพื่อน ก็แค่เพื่อน ๆ ชอบแอบมาขอข้าวแม่ตนเองกินเป็นประจำโดยที่ไม่เคยเรียกชวน รวมถึงวีรกรรมเสี่ยงคุกกับลุงแหย่ภารโรงปากหมา ที่ใส่คลุมแต่เสื้อสูทเก่า ๆ ครึ่งท่อนไว้เท่ห์ ๆ ตลอดเวลา และมักจะได้คำตอบเท่ห์ ๆ ว่า "คนรวยเท่านั้นถึงจะได้ใส่โว้ย ใครใส่แล้วมันจะดูดีมีชาติตระกูล" ภารโรงแหย่คือเบื้องหลังการรับหวยเถื่อน ที่ชัยหวังกินค่าวิ่งจดหวยเพียงน้อยนิด แต่ปัญหากลับใหญ่ยิ่งเหลือเกิน........วัน ๆ ของชัยหมดไปกับการเด็ดถั่วเขียวในไร่กับแม่และน้องโชติที่ยังเล็ก ๆ จนมือถลอกไหม้ เสร็จจากไร่ถั่ว ก้อพาควายไปอาบน้ำ ไปกินหญ้า กับเหล่าผองเพื่อน ตื่นเช้ามาก้อหาบน้ำ เลี้ยงหมู เก็บผักบุ้ง แกะเม็ดข้าวโพด ทุกวันของชัยผ่านไปแบบจำเจ ซ้ำซาก มีเพียงส้มโอเพื่อนสาวที่คอยพูดให้กำลังใจ แบบเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างไปตามวัย

          เวลาที่ผ่านไปกับภาพที่เห็นไอ้โรจน์ ไอ้บัติ ไอ้เหลียว ไปโรงเรียนในเมือง แล้วกลับมาโม้นู้นนี่นั่นให้ฟัง แต่ตนเองต้องมานั่งเลี้ยงควายทีละสี่ตัว อย่างเหงา ๆ และแอบอิจฉาในใจ จนเกิดความคิดต่อสู้ เพื่อค้นหาเป้าหมายครั้งใหม่ของตนเอง ชัยหมดความอดทน คิดได้เพียงแค่ว่าต้องหาสิ่งใหม่ๆให้กับชีวิตสักที ตัดสินใจพูดกับพ่อ กราบแทบเท้าลาแม่และปู่  ขอออกไปทำงานเผชิญโชคในวัย 12 ปี ตัดสินใจปักหลักออกเดินทางสู่เมืองกรุงเพียงลำพัง ด้วยความหวังที่ช่างไม่มีตัวตน พร้อมเงินลงทุนชีวิตเพียงไม่กี่เหรียญบาท หวังเพียงลงมือทำทุกอาชีพที่นำมาด้วยเงิน มากน้อยเป็นเพียงตัวเลข....ก้าวที่กล้าแรก เริ่มกับการทำงานในเหมืองพลอยเมืองจันทร์ เช้าแบกหินลงเขา บ่ายแบกหินลงเขา ฝนตกก้อแบกหินลงเขา แดดจะร้อนแค่ไหน ก้อแบกหินลงเขา....ความมุมานะพยายาม สิ้นสุดลงเมื่อหมดไป 3 ปี

           ชัยได้โอกาสครั้งใหม่ เมื่อพี่ชายคนโตตามมารับไปทำงานด้วย ในตำแหน่งมือสองรถสิบล้อที่พิษณุโลก ขนของขึ้น ขนของลง แล้วก้อขนของลง ขนของขึ้น คอยดูแลสภาพยาง กระจก ผ้าใบคลุม โดยที่มีใต้ท้องรถคือวิมานยามหลับใหล และข้างทางก้อคือส้วมสาธารณะชั้นดี......ไม่นานนัก ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตก้อมาถึงอีกครั้ง เมื่อน้าผู้หญิงคือน้าเหลืองมารับไป ให้ช่วยขายของชำที่บ้านที่ อ. สากเหล็ก งานสบาย ๆ เกินไป ทำให้เวลาที่ผ่านไป กลับสะสมไปด้วยความขี้เกียจและลืมความตั้งใจจริงแห่งชีวิตไปได้สักพัก แต่เมื่อวันหนึ่ง ที่พี่แจ่มพี่ชายอีกคนมาหาและรู้ว่า ตั้งแต่มาอยู่ มาช่วยทำงานกับน้าเหลืองไม่เคยได้ตังเลย จึงพากลับ พี่แจ่มเขียนที่อยู่ใส่กระดาษยัดใส่มือ ซึ่งชัยกำจนเปื่อยยุ่ย ให้มาลงรถไฟที่หัวลำโพง แล้วต่อรถเมล์สาย 25 ซึ่งก้อหลงไปตลอดทาง เพื่อไปหาพี่สาวอีกคนคือพี่เง็กที่ปากน้ำ มาช่วยเลี้ยงหลาน และงานหลักคือช่วยขายขนมหวาน ตื่นตี 5 ทุกวัน หาบขนมมาตั้งรอขายเป็นถุง ๆ ข้างถนนหน้าโรงงาน  ถุงละไม่กี่บาทแต่ต้องหอบข้าวของวิ่งหนีเทศกิจทุกวัน ๆ จนกลายมาเป็นเพื่อนรักกับคุณประกิต เทศกิจจอมโหดคนนั้นในเวลาต่อมา ขนมขายหมดเกลี้ยงทุกวันเพราะความสงสาร ชัยแจกขนมทุกคนที่มาขอ ทำให้มีลูกค้าขาประจำหรือขอทาน คนจร ต่างมายืนรอรับขนมหวานจากชัยทุกวัน ๆ หนุ่มโรงงานและสาวโรงงานที่แต่งชุดยูนิฟอร์มทำงาน ผ่านสายตาชัยทุกวัน ความเท่ห์ของชุดช่างเย้ายวนชวนฝัน ความฝันครั้งใหม่บังเกิดขึ้น เมื่อฮอนด้าและยักษ์สองหนุ่มรุ่นพี่ขี้หลีขาประจำ ทั้งโม้ทั้งฟุ้ง พูดชักชวนให้เข้าไปทำงานที่โรงงานรองเท้าตน เมื่อความรู้มีเพียงแค่ชั้นป.6 ที่ไม่อยู่ในความคิดของทางโรงงาน ที่จะรับคนเรียนน้อยมาร่วมงานด้วย ชัยแอบเฝ้ายืนแถวสมัครงานไปกับคนอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่มีความรู้ และไม่มีใครเอา...จนวันที่หกแห่งความอดทนที่มาพร้อมความกล้า สบโอกาสที่ได้อาศัยความหลักแหลมและโชคช่วยนิด ๆ จากคุณต้น ฝ่ายบุคคลคนพิจิตร คนบ้านเดียวกันนั้นเอง ได้เข้าไปทดสอบงานกับพวกที่เรียนสูงกว่าตน ชัยโชว์ความอดและทนต่องาน เข้าตากรรมการอย่างจัง ได้คัดเลือกเข้าไปฝึกงานเป็นหนุ่มโรงงานรูปหล่อตั้งแต่วันนั้นมา.........

          ปี พศ. 2534  ชีวิตในโรงงานรองเท้าของชัย  ผ่านไปอย่างมีความสุข กินน้อยใช้น้อย บทเรียนที่ได้ชัยจะเก็บไว้คิด  พร้อมประสบการณ์ที่พี่โจ้ หัวหน้าผู้สอนงานของชัยที่เก็บไว้จดจำตลอด  ชัยหนักเอาเบาสู้กับงานไม่ขาดตกบกพร่อง ทำงานควบกะได้จะควบกะทันทีที่มีคนลางาน เวลาที่ไม่ใช่เวลาทำงานมีเพียงแค่ตอนกิน ตอนเข้าห้องน้ำ และตอนนอน....แค่นั้น แต่วัยหนุ่มอย่างชัยย่อมเหมือนวัยหนุ่มทั่ว ๆ ไป ที่ต้องมีสาว ๆ คุยคบหากันเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามโอกาศ อ้อยคือสาวโรงงานผู้ใกล้ชิด บ่อยครั้งที่มีจังหวะคอยช่วยเหลือกันและกันบ้าง อ้อยหลงรักหลงปลื้มชัยในความขยัน มุมานะ ความเป็นคนดีของเขานั้นเอง...ผ่านไปกว่าสามปี ชัยได้เลื่อนมาอยู่แผนกซ่อมจักรอุตสาหกรรม รายได้ดีขึ้น เวลาว่างมากขึ้น กลับทำให้ชัยไปให้ความสำคัญกับทุกต้นเดือน หมดไปกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ สี่สหาย อย่างพี่ฮอนด้า พี่ยักษ์ วิชัย โต้ง และบรรยากาศเมามายของคาเฟ่ที่เย้ายวน..และกว่าชัยจะกลับมาได้ อ้อยต้องเทียวพร่ำเทียวพูดจนอ่อนใจ ปี พศ. 2537 จุดหักเหครั้งสำคัญในชีวิตก็มาถึง....จากการที่ทุกวันของการทำงาน ชัยจะอยู่ในสภาพมอมแมม เสื้อผ้าหน้าตาจะเต็มไปด้วยเขม่าน้ำมันเครื่องดำ ๆ ผสมเหงื่อ สะสม ๆ มาจนทำให้สภาพหน้าของชัยสิวขึ้นเกรอะกรัง ในวันนั้นที่ชัยกำลังล้างหน้าอยู่ พี่กบช่างใหญ่อีกคนในแผนกได้ยื่นสบู่ล้างหน้าให้ใช้ พร้อมบอกสรรพคุณชี้ชวนที่มากับคำถามว่า "ชัยรู้จักแอมเวย์ไหม" ชัยออกจากห้องน้ำวันนั้น ด้วยความรำคาญในคำพูดชี้ชวนสินค้ายืดยาว จำได้บ้างจำไม่ได้จะมากกว่า  แต่หลายวันผ่านไป ที่สุดชัยก็ได้ไปศูนย์แอมเวย์กับพี่กบด้วยความตัดรำคาญ พี่กบพาไปคุยกับหลาย ๆ คนที่ไม่รู้จัก ที่ดูหรูหรา พร้อมกับหลายคำถามที่ไม่เคยได้ยิน "รถญี่ปุ่นกับรถยุโรป อยากได้รถอะไร" สิ่งใหม่ ๆ คนใหม่ ๆ ความท้าทายในรายได้และอนาคต ชัยตัดสินใจก้าวเข้าสู่อาชีพนี่ จนยึดธุรกิจ MLM มาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยคำพูดดีดีจากพี่ที่รักยิ่งว่า "ถ้าอยากจะใหญ่ เราต้องเริ่มตั้งแต่วันนี่้ จากพรุ่งนี่ไป ชัยเปลี่ยนชื่อเป็นใหญ่นะ ชัยต้องใหญ่สมชื่อ......พี่จะรอวันนั้น"

          จากวันที่มีผู้ให้โอกาสจริง ๆ กับธุรกิจเครือข่าย เวลาที่ผ่านไปกับประสบการณ์ที่แข็งกล้า ถูกบ้างผิดบ้าง ซื้อบทเรียนและประสบการณ์  ตรากตรำต่อสู้  ใหญ่เดินทางชีวิตกับอาชีพนี่้อย่างตั้งใจจริง มุมานะเหมือนเดิม ไม่ถึง 6 เดือน  ใหญ่ก้าวข้ามไปสู่ตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับวันที่ฟ้าได้ส่งยุ่ง สาวสวยที่มาใหม่ กับนามบัตรกามเทพสื่อรักที่ส่งให้คู่ชีวิต ยุ่งคือสาวสวยที่เป็น 1 ในทีมขายในบริษัทฯ หยิบนามบัตรผิด ติดต่อใหญ่ผิดคน ใหญ่กับยุ่งจึงกลายมาเป็นเรื่องยุ่งกันใหญ่ โดยที่ยุ่งได้รับความร่วมมือจากโบว์ สาวน่ารักแต่พูดไม่รุ้เรื่องเพื่อนสนิท ตัวเจ้ากี้เจ้าการให้ยุ่งกับใหญ่กลายมาเป็นคนรักกันจนได้ และจากวันนั้นยุ่งก็ได้มาเป็นผู้หญิงที่เข้ามาดูแลหัวใจของใหญ่เรื่อยมา......พี่กบยังคงแนะนำหลากหลายธุรกิจให้ใหญ่ทดลองทำอยู่เรื่อย ๆ ที่ล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จเรื่อยมาทั้งตำแหน่งและรายได้....7 ปีที่มีทั้งสุขและทุกข์ เหนื่อยล้า อ่อนใจไปกับคำพูดของคนบางคน บางคำแค่นั้น พร้อมกับวิธีคิดของกลุ่มนายทุนที่เอาเปรียบตนเกินไป ใหญ่ได้พูดคุยกับยุ่งแฟนสาว ตกลงตัดสินใจหันหนีจากอาชีพที่ทำให้มีเงินมากมาย เปลี่ยนวิถีชีวิต มาเปิดร้านอาหารตามคำชักจูงของเพื่อน ๆ ใจใหญ่สมชื่อใหญ่นำเงินที่สะสมมาทั้งหมด ลงทุนกับเพื่อนกว่าสามล้าน ร้านไปได้ดีเพียงช่วงปีแรก ๆ แม้ใหญ่จะวิเคราะห์ธุรกิจร้านอาหารมาอย่างดีแล้ว แต่เพราะความไม่ถนัดจริง ความใจร้อน ทำให้ร้านอาหารแบกรับรายจ่ายมากมายไม่ไหว ปัญหาถาโถมเข้ามา จำต้องปิดกิจการลง พร้อมเงินสามล้านที่หมดไปและหนี้สินก้อนใหญ่ โบว์ ฮอนด้า เจ้สาลี่ พี่โจ้ น้าแหย่ คือผู้ร่วมชะตากรรมและปลอบปลุกกำลังใจให้กับทั้งสอง ใหญ่กับยุ่งสะสมบทเรียนเล่มต่อมาด้วยน้ำตา งานหรือธุรกิจที่เราไม่ถนัด เราไม่ชอบด้วยใจแล้ว ก็ยากที่จะเดินทางไปได้สวยงาม 
           
          ยุ่งให้สติกับใหญ่  ทบทวนอดีตเพื่อค้นหาอนาคต ใหญ่กับยุ่งจึงเดินทางกลับมาในสายงานขายเหมือนเดิม เสื้อสูทตัวแรกในชีวิตใหญ่ ยุ่งผู้หญิงที่ร่วมชีวิตร่วมสุขทุกข์เป็นคนใส่คลุมให้ เพื่อกลับไปเป็นคุณใหญ่ใหม่อีกครั้งอย่างงดงาม ความเป็นนักสู้ไกรทองจากเมืองชาละวัน ครั้นเมื่อเขาได้พบโอกาสที่แสนพิเศษ กับบริษัทฯใหม่ โอกาสทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ เขาจึงตั้งปฏิญาณกับตนเองไว้ว่า จะใช้ชีวิตโดยไม่หันกลับไปมองปัญหา แต่จะมุ่งเข้าไปสู่เป้าหมายข้างหน้าให้ได้ และก็เหมือนฟ้าลิขิต ขีดเส้นชีวิตให้หลุดพ้น เมื่อเขาพบกับเส้นทางสู่การเป็นมหาเศรษฐี พร้อมคู่ใจที่พบพานที่มาพร้อมกับอุปสรรคอย่างคุณยุ่งที่ไม่ต่างกับความสำเร็จที่ตนได้มา และการศึกษาเรียนต่อเพื่อบ่มเพาะความรู้อย่างที่ตนต้องการในวัยเด็กบา
         
          ชีวิตที่ผันแปรในทางที่ดีขึ้นของคุณใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาเป็นเจ้าของไร่สวนผลไม้  สวนยางกว่า 200 กว่าไร่  อสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย  พร้อมเจ้าของบ้านปัจจุบันหลังที่ 6 ราคากว่า 30 ล้านบาท รถยนต์หลากยี่ห้ออีก 5 คัน เดินทางท่องเที่ยวมาแทบทุกประเทศทั่วโลก พร้อมถ้วยรางวัลแห่งเกียรติยศมากมาย และชีวิตอันแสนสุขกับครอบครัวชัยปรีชา ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นในระยะเวลา 8 ปี จากจุดเริ่มต้น...ความสำเร็จเหล่านี้ เกิดขึ้นได้เพราะ คุณใหญ่ยึดมั่นหลักที่ว่า ทำต่อเนื่อง ทำสม่ำเสมอ ทำไม่หยุด พร้อมกับการรักษากฎระเบียบวินัย  จรรยาบรรณ เป็นผู้นำเป็นแบบอย่างที่ดี  ไม่นอกกรอบของบริษัท หมั่นเติมไฟในการทำงานให้แก่ทีมงานให้ลุกโชนอยู่เสมอ  จึงไม่ต้องแปลกใจที่ผู้ชายไร้การศึกษาสูงอย่าง  ดช. ชัย  ไอ้ชัย  ใหญ่  หรือคุณอนันตโชติ ชัยปรีชาจะมีรายได้กว่าล้านบาทในแต่ละเดือนมาจนถึงปัจจุบัน



<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/sVYczMwx9vc?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
ตย. ภาพยนตร์ อยากอยู่อย่างใหญ่

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/kXhqiZ-CFwE?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
Teaser อยากอยู่อย่างใหญ่














สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได