ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าวประกาศ:
ครั้งแรกของ มิตร ชัยบัญชา ตำนานพระเอกตลอดกาลบนจอ
Netflix
‘มนต์รักนักพากย์’
เตรียมออกเดินทางไล่ล่าหาความฝันไปกับรถเร่ขายยาคันนี้ได้ใน
มนต์รักนักพากย์ วันที่ 11 ตุลาคมนี้ พร้อมกันบน Netflix
กว่า 190 ประเทศทั่วโลก
•
กำกับโดย:
นนทรีย์ นิมิบุตร
•
นำแสดงโดย:
ศุกลวัฒน์ คณารศ (รับบท มานิตย์), หนึ่งธิดา โสภณ (รับบท เรืองแข), จิรายุ ละอองมณี (รับบท เก่า), สามารถ พยัคฆ์อรุณ (รับบท ลุงหมาน)
หน้าแรก
เว็บบอร์ด
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เวบบอร์ดสำหรับผู้ชื่นชอบระบบการฉายภาพเคลื่อนไหว
»
ภาพยนตร์ของเรา...การฉายภาพด้วยแผ่นฟิล์ม
»
ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์
(ผู้ดูแล:
นายเค
,
ฉัตรชัยฟิล์มshop
,
มนัส กิ่งจันทร์
) »
บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด (อ่าน 865 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นายเค
Thaicine Movie Team
Moderator
พี่น้อง thaicine Gold member
กระทู้: 3814
พลังใจที่มี 616
เพศ:
บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
«
เมื่อ:
12 มิถุนายน 2014, 02:55:32 »
บทที่ 535
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 11 มิถุนายน 2557)
ชุมทางหนังไทยในอดีต ตอน เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
สวัสดีครับทุกท่าน..
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 ผม คุณนุและคุณจุ๊บ เดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด ไปเช็คข่าวที่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
ผมกับคุณโต๊ะ พันธมิตร
เคยไปขอฟิล์มหนังไทยเก่าๆ เรื่องหนึ่งมาจากอาจารย์ประนอม แซ่เซีย..ครั้งนั้น ผมจดแต่เลขที่บ้านและเบอร์โทรศัพท์ของอาจารย์ไว้.. แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยจนกระทั่งพวกเรามีโครงการช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม เราจึงอยากรู้ว่า อาจารย์ยังเก็บฟิล์มเก่าๆ เหล่านั้นไว้หรือไม่.. โชคดีครับที่พวกเราได้พบอาจารย์และอาจารย์ก็ให้พวกเรายืมฟิล์มหนังมา 90 ม้วน..
อ่านรายละเอียดได้จากบทที่ 525 เปิดกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ของนายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=445509032260406&set=o.156185157894883&type=1&permPage=1
วันนั้น นอกจากพวกเราจะได้พบฟิล์มหนังไทยเก่าๆ แล้ว ยังเราได้ทราบอีกว่า อาจารย์ประนอม แซ่เซีย นั้นเป็น
ลูกสาวของนายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย เจ้าของโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
ด้วย ก็เลยให้อาจารย์เล่าอดีตของโรงหนังเฉลิมเอกให้ฟัง
คลิกดูจาก เปิดกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ของนายเอี่ยวเซีย แซ่เซียและประนอม แซ่เซีย
หลังจากนั้น พวกเราก็เร่งรีบตรวจซ่อมฟิล์มเพื่อฉายทำภาพให้เร็วที่สุด จะได้รีบนำฟิล์มกลับไปคืนอาจารย์..แต่เพราะฟิล์มกรุนี้มีหนังไทยเก่าๆ ที่หลายๆ คนคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ยังคงหลงเหลือ เป็นหนังไทยที่ออกฉายในช่วงปี 2514-2524 ที่เตี่ยอาจารย์ประนอมเก็บรักษาไว้ หนังกรุนี้จึงได้รับความสนใจอย่างมากจากเพื่อนๆ ใน
facebook
ยิ่งเมื่อรู้ว่า อาจารย์ประนอมกำลังจะทำบุญให้เตี่ยและบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ก็เลยเกิด
“วันขอบคุณ”
ขึ้นมา..ใครที่ร่วมเดินทางไปคืนฟิล์มกับเราได้..ก็ไปด้วยกัน.. แต่ใครที่ไปไม่ได้ ก็ฝากเงินไปทำบุญแทน.. แล้วพวกเราก็นัดหมายไปคืนฟิล์มและขอบคุณอาจารย์ในวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2557
เช้าวันที่ 7 มิถุนายน 2557
พวกเรา 7 คนได้แก่
ผม คุณนุ คุณจุ๊บ พี่อี๊ดอาทร คุณแม็กกี้ สาวแตงโปสเตอร์และพี่ตุ๊กตา จินดานุช
ก็พากันเดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด..ระหว่างทางคุณจุ๊บก็พาพวกเราแวะตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพื่อรับฟิล์มหนังไทยเรื่อง อีแต๋นไอเลิฟยู ที่เพื่อนหามาให้ เป็นหนังปี 2527 ที่ ยอดรัก-พุ่มพวง แสดงไว้ หนังหาดูได้ยากแล้วครับ.. เรียกว่า เริ่มต้นก็ฤกษ์ดีแล้วครับ จากนั้นพวกเราก็มุ่งตรงไปยังจังหวัดโคราชเพราะคุณมานะ หวายทิพย์ ซึ่งเป็นคนฉายหนังของคนแรกของโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด รอรับพวกเราอยู่ จากนั้นก็พาพวกเราไปทานอาหารที่ร้านไก่ยางสืบสิริ.. งานนี้คุณมานะและภริยา เลี้ยงดูปูเสื่อเต็มที่แถมยังมีหมี่โคราชฝากให้พวกเราทุกคน..
จากนั้นประมาณเที่ยงๆ พวกเราก็เดินทางไปหาอาจารย์ประนอมที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีคุณมานะ หวายทิพย์ นำทาง..เมื่อไปถึงก็รีบจัดแจงนำฟิล์มที่ยืมมาเก็บเข้ากรุดั่งเดิมและยืมฟิล์มส่วนที่เหลือๆ กลับมาอีกจำนวน 124 ม้วน..พวกเราแบ่งหน้าที่กันทำ บางคนก็รื้อค้นฟิล์ม.. เช็คดูว่าเป็นหนังไทยหรือไม่..บางคนก็จับฟิล์มใส่ถุงดำ..ขนฟิล์มขึ้นรถ แล้วสาวๆ ก็ช่วยปัดกวาด จัดวางจัดเก็บให้เรียบร้อย..จากนั้นก็มาถึงนาทีสำคัญคือ การฟังเรื่องราวในอดีตของโรงหนังเฉลิมเอก..
จากคุณมานะ หวายทิพย์ (คนฉายหนัง) และคุณสุจิตรา อิทธสมบัติ (คนขายตั๋วหนัง)..
ซึ่งนอกจากจะได้ประวัติความเป็นมาของโรงหนังเฉลิมเอกแล้ว ยังได้รู้เรื่องราวของโรงหนังเสรี ร้อยเอ็ด อีกด้วย เพราะทั้งคุณมานะและพี่สาวคือ คุณสุจิตรา นั้น ก็เป็นลูกเจ้าของโรงหนังเสรี ร้อยเอ็ด ด้วย..
ก่อนจะเกิดโรงหนังเฉลิมเอก นั้น ก็มีโรงหนังเสรี ซึ่งเป็นของคุณพ่อคุณมานะ หวายทิพย์กับคุณสุจิตรา อิทธสมบัติ..ต่อมาเมื่อโรงหนังเสรีเปลี่ยนเจ้าของและเปลี่ยนชื่อโรงหนังเป็น
“หลักเมือง”
แล้ว
นายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย
ซึ่งเป็นเตี่ยของอาจารย์ประนอม แซ่เซีย จึงคิดสร้างโรงหนังเฉลิมเอก ขึ้นมา..
ตอนนั้นน่าจะราวๆ ปี 2509
แต่การก่อสร้างโรงหนังของนายเอี่ยวเซียนั้น จะแตกต่างจากโรงหนังทั่วไปในยุคนั้นเพราะยุคนั้นจะเป็นการสร้างโรงหนังแบบสแตนอโลนหรือโรงหนังเดี่ยว แต่นายเอี่ยวเซียมองอนาคตไปไกลกว่า จึงได้สร้างโรงหนังให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงเพราะมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สถานบริการอื่นๆ อยู่ในตัวอาคารเดียวกัน..
รายละเอียดต่างๆ นั้นคลิกดูได้จาก เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
คลิ๊กดู...
เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
......
พี่ตุ๊กตา จินดานุช กับหนังที่ตัวเองแสดงไว้..ชะตาชีวิต
จากซ้ายไปขวา..ภริยาคุณมานะ-พี่สุจิตรา พี่สาวคุณมานะ-คุณมานะ หวายทิพย์ คนฉายหนังคนแรกของโรงหนังเฉลิมเอก กำลังจะเตรียมเล่าอดีตให้ฟัง..
ถ่ายรูปหมู่ก่อน...จากซ้ายยืน...แม็กกี้-คุณมานะ-พี่ตุ๊กตา จินดานุช-พี่สุจิตรา-ภริยาคุณมานะ-คุณจุ๊บ-พี่อี๊ด-มนัส...แถวล่างจากซ้าย...เริ่มจาก สาวแตง-ลูกและหลานพี่สุจิตรา-คุณนุ...
จากนั้นก็ล้อมวง นั่งฟังอดีตกันครับ.. รายละเอียดต้องดูจากเทปวีดีโอ..
ก่อนจะดูรูปโรงหนังเฉลิมเอก.. มาดูคุณมานะ หวายทิพย์กับภริยาและลูก เมื่อครั้งไปเปิดบริการหนังกลางแปลงที่โคราช ตอนที่ออกจากโรงหนังเฉลิมเอกแล้ว..
ต่อไปก็เป็นภาพนิ่งของโรงหนังเฉลิมเอก ที่อาจารย์ประนอม แซ่เซีย ให้มาครับ..ผมพิมพ์คำอธิบายภาพไว้แล้วครับ...
ลักษณะของโรงหนังเฉลิมเอกนั้น ไม่เหมือนโรงหนังทั่วไปในยุคนั้นเพราะตัวอาคารสร้างเป็นลักษณะศูนย์รวมความบันเทิง มีโรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิงอยู่ในตัวอาคารเดียวกันด้วยครับ..
ก่อนจะเกิดโรงหนังเฉลิมเอก นั้น ก็มีโรงหนังเสรี ซึ่งเป็นของคุณพ่อคุณมานะ หวายทิพย์กับคุณสุจิตรา อิทธสมบัติ..ต่อมาเมื่อโรงหนังเสรีเปลี่ยนเจ้าของและเปลี่ยนชื่อโรงหนังเป็น “หลักเมือง” แล้ว นายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย ซึ่งเป็นเตี่ยของอาจารย์ประนอม แซ่เซีย จึงคิดสร้างโรงหนังเฉลิมเอก ขึ้นมา..ตอนนั้นน่าจะราวๆ ปี 2509 แต่การก่อสร้างโรงหนังของนายเอี่ยวเซียนั้น จะแตกต่างจากโรงหนังทั่วไปในยุคนั้นเพราะยุคนั้นจะเป็นการสร้างโรงหนังแบบสแตนอโลนหรือโรงหนังเดี่ยว แต่นายเอี่ยวเซียมองอนาคตไปไกลกว่า จึงได้สร้างโรงหนังให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงเพราะมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สถานบริการอื่นๆ อยู่ในตัวอาคารเดียวกัน.. รายละเอียดต่างๆ นั้นคลิกดูได้จาก เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
คลิกดู.. เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
การก่อสร้างโรงหนังของนายเอี่ยวเซียนั้น จะแตกต่างจากโรงหนังทั่วไปในยุคนั้นเพราะยุคนั้นจะเป็นการสร้างโรงหนังแบบสแตนอโลนหรือโรงหนังเดี่ยว แต่นายเอี่ยวเซียมองอนาคตไปไกลกว่า จึงได้สร้างโรงหนังให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงเพราะมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สถานบริการอื่นๆ อยู่ในตัวอาคารเดียวกัน.. รายละเอียดต่างๆ นั้นคลิกดูได้จาก เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
คลิกดู.. เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
สมัยก่อน ผมนึกว่า โรงหนังถวิล ร้อยเอ็ด นั้่นเก่าแก่แล้ว แต่พอมารู้จักอาจารย์ประนอมและคุณมานะ หวายทิพย์ จึงได้ทราบว่า ยังมีโรงหนังที่เก่ากว่า ถวิลร้อยเอ็ด อยู่อีก..นี่ขนาดเราอายุขนาดนี้ ยังไม่รู้เลย แล้วคนที่อายุน้อยกว่าเรา จะเป็นอย่างไร..ทีแรกตอนที่รู้ว่า เตี่ยอาจารย์เป็นเจ้าของโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ก็ได้แต่พยายามถามที่ตั้งของโรงหนังว่า อยู่ตรงไหน คิดว่า ชาตินี้คงได้แต่เห็นอดีตที่ตั้งโรงหนังที่รื้อไปหมดแล้ว แต่พออาจารย์ไปหารูปถ่ายเก่าๆ ของโรงหนังมาให้ดู..ก็ดีใจครับที่ได้เห็นโรงหนังเก่าตั้งแต่ปี 2509 ได้เห็นภาพ ได้ฟังเรื่องราวและได้จินตนาการไปด้วย..นับเป็นบุญของพวกเราโดยแท้ที่ได้พบกับอาจารย์ประนอมผู้มีแต่ให้..
ให้เรื่องราวในอดีตของโรงหนังมาเป็นความรู้ ให้หนังที่เตี่ยเก็บไว้มาเป็นวิทยาทานแก่ผู้คนทั่วไปได้ชมได้ศึกษา..ก็อย่างที่บอกไว้ว่า ฟิล์มหนังของเตี่ยอาจารย์ที่พวกเราจุดธูปขอยืมมาฉายนั้นมีถึง 214 ม้วน..ทราบชื่อแล้วเป็นส่วนใหญ่ว่า มีเรื่องอะไรบ้าง เป็นหนังสำคัญที่หาดูที่ไหนไม่ได้..และที่ยังไม่ทราบชื่อเรื่องก็อีกหลายสิบม้วนเพราะกระเป๋าฟิล์มเปื่อยเสียหายไปก่อน แต่ตัวฟิล์มยังอยู่ ยังพอฉายเช็คชื่อเรื่องได้ ซึ่งผมจะรีบดำเนินการโดยเร็ว..บอกตรงๆครับ ใจร้อน อย่ารู้ อยากดู อยากเห็นว่าจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง..
วันที่พวกเราไปคืนฟิล์ม ไปขอบคุณอาจารย์นั้น บรรยากาศเต็มไปด้วยไมตรีจิต..อาจารย์ก็ใจดี..คณมานะและภริยาก็เอ็นดู เอื้ออาทรพวกเราเหลือเกิน..มีประโยคหนึ่งที่คุณมานะพูดกับพวกเราว่า..เห็นทีมงานแล้ว สู้งานน่าดู..ก็เลยบอกว่า ทำเสร็จแล้ว เย็นๆจะพาไปเลี้ยง ไปร้องเพลงกัน..นี่แหละครับ วันขอบคุณที่ผ่านมา...รายละเอียดต่างๆ นั้นคลิกดูได้จาก เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
คลิกดู.. เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
เมื่อคืนนี้ ผมนั่งกรอฟิล์ม ซ่อมฟิล์ม ก็เลือกๆ ฟิล์มมาจากกองที่คุณจุ๊บ วางเตรียมไว้ให้ เป็นกองฟิล์มที่ยังไม่ทราบชื่อเรื่องเพราะตอนได้มานั้น ไม่ได้อยู่ในกระเป๋าฟิล์ม.. ฟิล์มไม่ทราบชื่อนี้ได้มาประมาณ 23 ม้วน..
ม้วนแรกกรอดูแล้วก็รู้ว่าเป็นเรื่อง ลานสาวกอด (ครรชิต-เพชรา).. ต่อมาก็กรออีก 2 ม้วน ดูดารา ดูการแต่งตัวแล้ว น่าจะเป็นเรื่อง ไข่จงอาง (นาท-มยุรา).. กรอไปอีก 2 ม้วนเห็นเป็นเรื่อง ไอ้เหล็กไหล (สมบัติ-กรุง) เห็นกรุงขี่มอเตอร์ไซด์ข้ามหัวรถไฟ..แต่ว่าฟิล์มกรอบและแตกเยอะมากๆ ไม่รู้ว่าจะฉายได้หรือไม่.. กรอไปเจอก็เรื่อง เผ็ด (สมบัติ-อรัญญา)ม้วนหนึ่ง.. กรอไปเจอหนังที่ ไพโรจน์ ใจสิงห์ เล่นกับ วันดี ศรีตรัง.. แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไร.. อีกม้วนก็เห็น กรุงกับไพโรจน์ ด้วย ยังไม่ทราบชื่อ.. แล้วก็กรอเจอ สมบัติ-อรัญญา อีกม้วน แต่ยังกรอไม่เสร็จ ต้องรีบกลับบ้านก่อนเพราะใกล้ 4 ทุ่มแล้ว..
.
ตอนที่ผมนั่งกรอฟิล์มหนังนั้น ใจก็คิดๆ อยู่เสมอว่า นี่ถ้าไม่มีกรุฟิล์มของโรงหนังเฉลิมเอก ไม่มีเตี่ย ไม่มีอาจารย์ช่วยเก็บฟิล์มหนังเหล่านี้ไว้ หนังไทยเก่าๆร่วม 40 เรื่องก็คงต้องสูญพันธุ์หมดแน่.. พวกเราโชคดีจริงๆ ที่อาจารย์ท่านเมตตาให้ยืมฟิล์มมาฉาย..ไม่มีท่าน ป่านนี้หนังไทยคงตายไปอีกหลายเรื่องแล้วครับ...
ครับ ช่วงนี้ กำลังเร่งเช็คว่า กากฟิล์มที่ยังไม่รู้ชื่อหนังอีกประมาณ 20 กว่าม้วนนั้น จะเป็นเรื่องอะไรบ้าง..ก็เลยต้องเร่งกรอฟิล์มดูภาพนิ่งไปก่อนว่า ควรจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง.. เมื่อคืนนี้ก็กรออีกหลายสิบม้วนและก็พอเดาๆ ออกแล้วว่ามีหนังเรื่องอะไรบ้าง..เมื่อคืนเจอฟิล์ม
วีระบุรุษกองขยะ
เพิ่มอีก 2 ม้วน รวมแล้วก็ 8 ม้วนจบ.. ส่วนหนังที่มี กรุง-อรัญญา-ไพโรจน์-ปิยะมาศ นั้นได้มาไม่จบ มีเพียง 3-4 ม้วน คิดว่าน่าจะเป็นเรื่อง หัวใจ 100 ห้อง..
ไข่จงอาง
นั้นสรุปแล้วเจอเพียง 2 ม้วน..เจอหนังสมบัติ-อรัญญาอีก 2 ม้วน ยังเดาไม่ออกว่าเรื่องอะไร ต้องฉายดูก่อนจึงจะหาข้อมูลได้..แล้วก็หนังที่มี ไพโรจน์-วันดี แสดง ดูโทนหนังแล้ว น่าจะอยู่ใน 2 เรื่องนี้แหละครับคือ
น้ำตานาง กับ รัญจวนจิต..
ส่วนฟิล์มหนังที่มีหลากสีที่พวกเราเดาๆ ว่าเป็นหนังตัวอย่างนั้น กรอดูก็เป็นเศษฟิล์มหนังบ้าง เป็นหนังตัวอย่างบ้าง มีหนังจีนปนมานิดหน่อย แต่ที่เห็นๆ แล้วก็มีส่วนหนึ่งของเรื่อง
เพลงรักบ้านนา ปี 2520 สมบัติ-มธุรส.
. ลูกทุ่งปืนคด ก็ได้ชื่อเรื่องมานิดหน่อยครับ..
หลังจากนี้ต่อไปก็คงจะนำฟิล์มที่ทราบชื่อเหล่านี้ไปจัดเข้ากลุ่มกับฟิล์มที่ได้มาก่อนแล้วทำความสะอาดอีกครั้ง จากนั้นก็เริ่มฉายทำภาพ..สรุปรายชื่อหนังที่ได้มาจากกรุฟิล์มโรงหนังเฉลิมเอกตั้งแต่ไปยืมครั้งแรกจนถึงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็มีรายชื่อคร่าวๆ ดังนี้ครับ..
เจ้าพ่อ 7 คุก-รักเต็มเปา-คุณหญิงนอกทำเนียบ-นางงูเห่า-มันส์เขาล่ะ-ไฟเหนือลมใต้-ศึก 5 เสือ-สองเสือใจสิงห์-ล่าเพชฌฆาต-เผาขน-พ่อยอดมะกอก-2 สิงห์เอเซีย-ชะตาชีวิต-11 ม.ม.-มือปืนขี้แย-อาถรรพณ์สวาท-อีเสือ-เตือนใจ-รัดใจ-วีระบุรุษกองขยะ-ลมรักทะเลใต้-แด่คุณครูด้วยคมแฝก-อยู่กับก๋ง-ฟ้าหลังฝน-คืนนี้ไม่มีพระจันทร์-ไฟรัก-ตลกร้องไห้-อีหนูเขี้ยวเสน่ห์-น้ำผึ้งขม-ป่าอันตราย-เผ็ด-เทพธิดาโรงแรม-แม่ค้าตาหวาน-ไข่จงอาง...(แล้วก็ที่เดาว่าเป็น น้ำตานางหรือรัญจวนจิต-หัวใจ 100 ห้อง-ไอ้เหล็กไหล-ลานสาวกอด)
ซึ่งหนังทั้งนั้น บางเรื่องก็จบเรื่อง บางเรื่องก็ไม่จบนะครับ..ซึ่งต้องทยอยเช็คฟิล์มและฉายต่อไปนะครับ...
ตั้งแต่เริ่มลุยหากากฟิล์มหนังไทย 35 มม.ผมกับคุณนุ ก็แทบไม่ได้ไปหาเพื่อนๆ ที่ตลาดคลองถมอย่างที่เคยไปเลย..ทุกวันนี้ เวลาว่างทั้งหมดก็อยู่แต่กับฟิล์มหนัง..ดีนะที่วันเสาร์-อาทิตย์มีเพื่อนๆแวะไปหา ไปคุยด้วยบ้าง.. ตอนนี้ยิ่งเห็นรายชื่อหนังกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ที่เพิ่งนำมาใหม่ มีทั้งเรื่องใหม่และเรื่องเก่าที่ได้ฟิล์มมาเพิ่ม ก็ยิ่งอยากดู อยากฉายให้เร็วขึ้น.. บางทีใจอยากจะเรื่องนั้นเรื่องนี้ก่อน แต่ก็ต้องทำใจเพราะต้องเลือกฉายฟิล์มที่สภาพแย่ๆ ก่อนนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวเกิดฟิล์มเสียมากขึ้น จะฉายลำบาก.. ตอนเช้าผมบอกรายชื่อหนังบางส่วนแล้ว ตอนนี้ก็เลยรวมๆ ใบปิดมาให้ดูบ้าง.. ดูไปก็คิดไปว่า นี่ถ้าเราไม่ได้พบฟิล์มกรุนี้ ชาตินี้เราจะได้ดูไหมนี่...
ครับ หนังจากกรุฟิล์มของโรงหนังเฉลิมเอกที่เก็บฟิล์ม 35 มม.ไว้นั้น อายุฟิล์มจะอยู่ในช่วงปี 2514-2524 นับว่าเก่ามากๆ เพราะตามปกติฟิล์ม 35 มม.มักจะอายุไม่ยืนยาว.. นี่ถ้าเทียบกับฟิล์มรุ่นราวคราวเดียวกันที่ผมเคยได้มาก่อนหน้านี้ แค่ปี 252... กว่า ฟิล์มก็ยากที่จะฉายได้แล้ว ฟิล์มจะเหม็นเปรี้ยวหมด..แต่เพราะฟิล์มกรุนี้เก็บไว้ในที่ที่มีอากาศเทถ่ายได้สะดวกมาก่อน ครั้นย้ายมาเก็บที่บ้านอาจารย์ซึ่งสร้างใหม่ ตัวบ้านแม้จะก่ออิฐถือปูน แต่ก็สร้างไว้แบบโปร่งๆ ฟิล์มเหล่านี้จึงอยู่ได้สบายๆ ไม่เหม็นเปรี้ยวเหมือนอย่างที่เก็บไว้ในห้องทึบๆ อับๆ...ครับ..
ส่วนฟิล์มที่เสียหายนั้น สังเกตดูแล้ว ก็มักจะเจอปัญหาโดนละอองน้ำ ฟิล์มจึงลอกๆ บ้าง แต่ก็ไม่เหม็นเปรี้ยว ยังพอกรอฟิล์มออกมาได้ แล้วก็ฉายไปทั้งๆ ที่่ภาพลอกๆ นั่นแหละครับ.. ซึ่งช่วงนี้คงต้องเร่งฟิล์มกรุนี้เป็นพิเศษ.. ตอนนี้ บางเรื่องที่ได้ฟิล์มมาก่อนหน้านี้ หากไม่มีฟิล์มเพิ่มเติมอีก ผมก็จะเริ่มตัดต่อและโพสฉายแล้วนะครับ.. ส่วนที่ท่านเพิ่งเข้ามาเห็นนั้น หนังจากกรุนี้ผมฉายไปแล้วหลายเรื่อง เดี๋ยวผมนำลิงค์ดูหนังมาแปะไว้ด้านล่างนี้นะครับ แต่ถ้าจะอ่านเรื่องด้วย ก็ต้องไล่ดูจากลิงค์สารบัญด้านบนนะครับ..
หนังเรื่องแรกของกรุนี้ที่ฉายแล้วก็คือ..ด.ญ.ตุ๊กตา จินดานุช กับ ชะตาชีวิต ของโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เจ้าพ่อ 7 คุก (2520 สมบัติ-สรพงศ์-เนาวรัตน์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ อีเสือ (2520 กรุง-วาสนา-รุ้งลาวัลย์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ศึก 5 เสือ (2520 สมบัติ-อรัญญา-เนาวรัตน์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ นางงูเห่า (2519 สมบัติ-อรัญญา) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เตือนใจ (2522 สุพรรษา-ทวนธน) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ 11 ม.ม. (2515 ครรชิต-อรัญญา-ลือชัย) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
วันนี้ กรุฟิล์มของโรงหนังเฉลิมเอก ก็ได้ลงสู่จอแล้วครับ..วันนี้พวกเราฉายหนังกันหลายม้วน..ฉาย
วีระบุรษกองขยะ
เพิ่มอีก 2 ม้วนเพราะเพิ่งค้นเจอฟิล์ม..ฉาย
ไข่จงอาง
2 ม้วน..ฉาย
ลานสาวกอด
1 ม้วน..ฉาย
พ่อยอดมะกอก
1 ม้วน..ฉาย
คืนนี้ไม่มีพระจันทร์
3 ม้วน แล้วก็ฉาย หนังตัวอย่างรวมๆ กันอีก 2 ม้วน.. แต่ละม้วนอาการสาหัสครับ.. สีไม่ต้องบอกนะครับว่า สีซีดๆ หรือไม่ก็สีแดงๆๆ ไปเลย..
(จะต้องใช้โปรแกรมแก้สีช่วยในภายหลัง)
..
นอกจากนี้ รูหนามเตยก็เริ่มเปราะและกร่อนลง เวลาเดินผ่านเครื่องฉายก็เลยทำให้หนังมีภาพสั่นๆ หรือเหลื่อมช่องภาพบ่อยๆ ฉายแค่นี้ กว่าจะเสร็จก็ดึกเลยครับ.. แต่ที่น่าดีใจก็ตรงม้วนหนังตัวอย่างที่รวมๆ กันนั้น เราจะได้เห็นหนังไทยเก่าๆ อีกหลายเรื่องที่สูญหายไปแล้ว กลับคืนมา..มาแบบหนังตัวอย่าง สั้นบ้าง ยาวบ้าง บางเรื่องเหลือไม่ถึง 1 นาที แต่นั่นก็คือ มรดกสุดท้ายของหนังไทยที่เราภูมิใจที่มีโอกาสได้เห็นหนังเหล่านี้.. วันนี้ หนังที่เก่าที่สุดคือ
หนังปี 2511 มิตร-เพชรา
ครับ ได้มาเป็นฉากร้องเพลงระบบ 35 มม. 2 เพลงครับ เพลงแรกจบ.. แต่เพลงที่แค่เห็น มิตร ชัยบัญชา อ้าปากร้องเพลง ฟิล์มก็หมดครับ..แล้วก็ยังมีหนังดังๆ อีกหลายเรื่องนะครับ..
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มิถุนายน 2014, 01:59:50 โดย นายเค
»
บันทึกการเข้า
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120 E-Mail
soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า หมายเลขบัญชี 210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขา บางเขน หมายเลขบัญชี 041-273435-0
ติดต่อ 0909040355
ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได
นายเค
Thaicine Movie Team
Moderator
พี่น้อง thaicine Gold member
กระทู้: 3814
พลังใจที่มี 616
เพศ:
Re: บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
«
ตอบกลับ #1 เมื่อ:
14 มิถุนายน 2014, 07:03:13 »
ขอบคุณครับ..
วันนั้นกว่าพวกเราจะได้ล้อมวงนั่งฟังการสนทนา ก็เกือบจะค่ำแล้วเพราะเวลาก่อนหน้านั้นตั้งแต่บ่ายแก่ๆ พวกเราก็สาละวนอยู่กับการหาฟิล์มหนัง จัดเก็บฟิล์มหนัง นี่ขนาดไปกันตั้งหลายคน แต่ก็ยังใช้เวลานานกว่าจะแล้วเสร็จ..จากนั้นก็มานั่งล้อมวงฟังการสนทนาครับ.. วันนั้น พอพี่สุจิตราพี่สาวคุณมานะพูดถึงบริการหนังอีกแห่งหนึ่งว่า น่าจะมีฟิล์มหนังเก็บอยู่บ้าง..
พอเราไปกินอาหารเย็น ผมก็สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่แห่งนั้นอยู่ที่ไหน พอรู้ว่าอยู่ร้อยเอ็ดเช่นกัน ผมก็ขอบ้านเลขที่ไว้ พอรุ่งเช้า อ.ประนอม นำของทำบุญมาให้พวกเราที่โรงแรม ผมก็ลองถามอ.ประนอมดู ท่านก็บอกว่า รู้จัก แต่ไม่รู้ว่า เขาจะยังเก็บฟิล์มไว้หรือไม่..ว่าแล้วท่านก็พาเราไปลุยเลยครับ.. เผอิญว่า บ้านหลังนั้นจะเป็นลูกศิษย์อาจารย์ด้วยครับ ก็เลยคุยกันได้ง่าย ได้ความว่า เคยมีฟิล์มอยู่จริง เก็บฟิล์มไว้ในตึกแถว แต่เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีคนเมืองกาญจน์ฯหรือนครปฐมมาเหมาซื้อเอาไปหมดแล้วครับ..ปิดบัญชีไปอีกราย...
ส่วนวันนี้เป็นวันเสาร์ ถ้าเป็นเมื่อเสาร์ที่แล้ว ก็จะเป็นวันที่พวกเราเดินทางไปร้อยเอ็ด ไปขอบคุณอาจารย์ ไปเจอะเจอคุณมานะ.. แต่วันนี้ ผมตื่นมาแต่เช้าๆ เพราะว่า จะรีบไปหาคุณนุ.. ใจร้อนครับเพราะมีฟิล์มรออยู่อีกเยอะครับ.. ภาพข้างล่างนี้คือ บ้านคนที่เคยฉายหนังที่อาจารย์ประนอมพาไปถามข้อมูลครับ..
บริการศรีสุรจิตต์ภาพยนตร์
แต่ไม่มีฟิล์มแล้ว
ครับ..วันนี้ กรุฟิล์มของโรงหนังเฉลิมเอก ก็ได้ลงสู่จอแล้วครับ..วันนี้พวกเราฉายหนังกันหลายม้วน..ฉาย วีระบุรษกองขยะ เพิ่มอีก 2 ม้วนเพราะเพิ่งค้นเจอฟิล์ม..ฉาย ไข่จงอาง 2 ม้วน..ฉาย ลานสาวกอด 1 ม้วน..ฉาย พ่อยอดมะกอก 1 ม้วน..ฉาย คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ 3 ม้วน แล้วก็ฉาย หนังตัวอย่างรวมๆ กันอีก 2 ม้วน..แต่ละม้วนอาการสาหัสครับ..สีไม่ต้องบอกนะครับว่า สีซีดๆ หรือไม่ก็สีแดงๆๆ ไปเลย..(จะต้องใช้โปรแกรมแก้สีช่วยในภายหลัง)..
นอกจากนี้ รูหนามเตยก็เริ่มเปราะและกร่อนลง เวลาเดินผ่านเครื่องฉายก็เลยทำให้หนังมีภาพสั่นๆ หรือเหลื่อมช่องภาพบ่อยๆ ฉายแค่นี้ กว่าจะเสร็จก็ดึกเลยครับ..แต่ที่น่าดีใจก็ตรงม้วนหนังตัวอย่างที่รวมๆ กันนั้น เราจะได้เห็นหนังไทยเก่าๆ อีกหลายเรื่องที่สูญหายไปแล้ว กลับคืนมา..มาแบบหนังตัวอย่าง สั้นบ้าง ยาวบ้าง บางเรื่องเหลือไม่ถึง 1 นาที แต่นั่นก็คือ มรดกสุดท้ายของหนังไทยที่เราภูมิใจที่มีโอกาสได้เห็นหนังเหล่านี้.. วันนี้ หนังที่เก่าที่สุดคือ หนังปี 2511 มิตร-เพชรา ครับ ได้มาเป็นฉากร้องเพลงระบบ 35 มม. 2 เพลงครับ เพลงแรกจบ..แต่เพลงที่แค่เห็น มิตร ชัยบัญชา อ้าปากร้องเพลง ฟิล์มก็หมดครับ..แล้วก็ยังมีหนังดังๆ อีกหลายเรื่องนะครับ..
อย่างที่บอกไว้ว่า ฉายหนังตัวอย่างรวมๆ กัน 2 ม้วน ฉายไปก็ตื่นเต้นไปเพราะไม่นึกว่า ในหนังตัวอย่างเก่าๆ ที่กรุโรงหนังเฉลิมเอกตัดต่อและเหลือเก็บไว้ จะมีหนังสำคัญ หนังหาดูได้ยากหลายเรื่อง บางเรื่องก็สั้นๆ แต่ก็ยังพอดูออกว่าเป็นเรื่องอะไร.. อย่างเช่น เรื่องนี้เป็นหนัง 16 มม.พากย์สดๆ แต่เฉพาะเพลงเอกเท่านั้นที่ต้องถ่ายทำด้วยฟิล์ม 35 มม. เวลาฉายก็จะเหมือนที่คุณมานะบอกไว้ว่า พอถึงฉากเพลงก็จะฉายเครื่อง 35 มม.สลับไป..แล้วในม้วนรวมหนังตัวอย่างที่ผมกับคุณนุฉายดูเมื่อวานนี้ ก็เห็นภาพนี้ครับ เพชรากำลังเดินร้องเพลง..ชื่อเพลงเดาไม่ยากเพราะมีคำร้องปนๆ อยู่หลายครั้ง..แต่ผมยังไม่บอกนะครับ...
ตามปกติของการฉายฉากเพลงระบบ 35 มม.นั้น เขาจะตัดเพลงที่เป็นฟิล์ม 35 มม.มาไว้รวมกัน..พอจบเพลงก็เปิดเครื่องฉาย 35 มม.แล้วฉายเครื่อง 16 มม.ต่อไป แล้วพอถึงฉากเพลงอีก เขาก็จะเปิดเครื่อง 35 มม.ขึ้นมาฉายอีก..หลังจากจบเพลงที่เพชราร้องตามภาพข้างบนนั้นแล้ว ก็มีเพลงต่อมาก็คือ เพลงที่มิตร ชัยบัญชา ร้องจีบเพชรา..เป็นหนังปี 2511 ครับ แต่ว่าฟิล์มยังสดๆ อยู่เลยครับ..เฉพาะเรื่องนี้เป็นหนังที่หาดูไม่ได้แล้วครับ..แฟนหนังมิตรลองเดาๆ ดูนะครับว่า ควรจะเป็นเรื่องอะไร.. แล้วค่ำๆ จะมาเฉลย...
เรื่องตื่นเต้นที่ได้เห็นหนังที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นมาก่อนยังมีอีกครับ เฉพาะที่เป็นหนังตัวอย่างหรือเศษหนังที่ม้วนฟิล์มนี้ ผมนับแล้วมีถึง 13 เรื่องครับ..และนี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง ชาติอาชาไนย ไม่อยากให้เดาครับ เดี่ยวจะปวดหัว..
ส่วนเรื่องนี้เรื่อง แค้นไอ้เพลิน ครับ
นี่ก็ตัวอย่างอีกเรื่องที่ได้มาครับ.. ในม่านเมฆ..
แล้วนี่ก็อีกหนังเพลงที่โด่งดังปี 2520 ที่หาชมได้ยาก ก็ได้หนังตัวอย่างมาครับ..เรียกว่า เมื่อคืนฉายไป ยิ้มไปครับเพราะได้ดูหนังที่ตามหามานาน..เพลงรักบ้านนา..
แล้วเรื่องที่ทำให้คุณนุร้องเสียงหลงพร้อมกับอุทานชื่อหนังออกมาทันทีเห็นภาพนี้..นรกแตก..ก็ได้ตัวอย่างมานิดหน่อยครับ..ส่วนที่เหลือๆ นั้น เดี๋ยวค่ำๆ จะเข้ามาบอกอีกนะครับ..ตอนนี้ ขอตัวไปดูหนังที่หายากจากกรุโรงหนังเฉลิมเอก ก่อนนะครับ..วันนี้จะเป็นหนังดังๆ อีก 3 เรื่องที่หาชมได้อยาก..เป็นหนังกรุง-หนังอรัญญา...ครับ
เฉลยแล้ว.. และก็นำมาฉายด่วนๆ แล้วครับ มิตร-เพชรา ปี 2511 เรื่อง น้ำอ้อย ดูเรื่องและหนังได้จาก บทที่ 537 หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ น้ำอ้อย (2511 มิตร-เพชรา) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
บทที่ 537 หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ น้ำอ้อย (2511 มิตร-เพชรา) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=461218374022805&set=o.156185157894883&type=1&permPage=1
วันก่อน ผมลงภาพรวมๆ หนังจากฟิล์มกรุนี้ไปแล้วว่า เราได้หนังเรื่องอะไรมาบ้าง...
ต่อมาเมื่อพวกเราช่วยกันเช็คฟิล์มหนังเศษๆที่ได้มาอีกหลายม้วน ก็ปรากฏว่า เราได้หนังไทยเก่าๆ เพิ่มมาอีกหลายเรื่อง แต่ว่าส่วนใหญ่จะไม่จบเรื่อง บางเรื่องก็เป็นหนังตัวอย่าง บางเรื่องก็มีสั้นๆ ไม่ถึง 1 นาที แต่เพราะเห็นว่า สามารถบอกชื่อหนังได้และเป็นหนังที่ยังไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน พวกเราจึงต้องทำภาพเก็บไว้นะครับ ชื่อหนังต่างๆ ก็มีตามใบปิดข้างล่างนี่แหลครับ..
ตอนนี้
วีระบุรุษกองขยะ
ฉายมาจนครบทุกม้วนแล้วครับ แต่ยังไม่ได้เรียงลำดับม้วน ยังไม่ได้แก้สี รวมแล้วหนังได้มา 8 ม้วนจบ..
หนังเต็งอีกเรื่องหนึ่งที่พยายามฉาย พยายามลุ้นหาฟิล์มจากม้วนที่ไม่มีกระเป๋าใส่มาจนหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้เพิ่ม นั่นคือเรื่อง
คืนนี้ ไม่มีพระจันทร์
ได้มาเพียง 3 ม้วนครับ..
ดูภาพนิ่งไปก่อนนะครับ ยังไม่ได้ปรับแก้สี
คืนนี้ไม่มีพระจันทร์
ฟิล์ม 3 ม้วนนั้น ก็ยังเหลือไม่เต็มม้วนครับ ฉายมาแล้วเหลือประมาณครึ่งชั่วโมงเองครับ
คืนนี้ไม่มีพระจันทร์
อีกภาพครับ คืนนี้ไม่มีพระจันทร์
แล้วก็มีหนังอีกเรื่องที่คิดว่า หายไปแล้ว แต่ได้ฟิล์มมาจบเรื่อง 6 ม้วน แต่สภาพฟิล์มแย่มากๆ รอยแตกเต็มไปหมด พยายามฉายอย่างสุดๆ เลยครับ.. ไฟรัก
ไฟรัก สมบัติ-อรัญญา..
สมบัติ-สันติ คราประยูร จากเรื่อง ไฟรัก ครับ พอฉายจบ 6 ม้วนแล้ว ยังได้ไม่ถึงชั่วโมงครึ่งเลยครับเพราะฟิล์มเหลือมาไม่เต็มม้วนนะครับ..
เมื่อคืนนี้ ลองนำฟิล์มหนังที่ไม่มีกระเป๋า ไม่ทราบชื่อออกมาฉายดูเล่นๆ 3 ม้วน ก็พบว่าเป็นหนังเก่า ปี 2516 นำแสดงโดย ไพโรจน์-วันดี ศรีตรัง ในเรื่อง
เหลือแต่รัก
ครับ
เรื่องนี้ยังไ่ม่แน่ใจว่า จะมีกี่ม้วนครับ ต้องลองฉายค้นหาไปเรื่อยๆ
ปัญหาหนักใจของผมตอนนี้ ก็คือ ทำอย่างไรเราจะเร่งฉายหนังให้ได้เร็วๆ กว่านี้เพราะฟิล์มหนังที่ยืมมาประมาณ 120 ม้วน ถ้าเป็นฟิล์มสภาพเรียบๆ ดีๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ฟิล์มหนังงวดนี้ ส่วนใหญ่จะมีรอยแตกหนามเตยเยอะมากๆ มีคราบน้ำมันติดมาด้วย ก่อนฉายก็จะต้องเช็ค ทำความสะอาด ถ้าฟิล์มมีรอยแตกมากก็ต้องพยายามดูว่า จะฉายได้หรือไม่ ถ้าฟิล์มแตกตามปกติก็ใช้เทปติดแปะก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่หนักหน่อยก็ตรงฟิล์มมีคราบน้ำมันนี่แหละครับ เราจะต้องทำให้คราบน้ำมันหายไปก่อน จึงจะแปะเทปได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถ้าบางม้วนฟิล์มแตกและมีลักษณะเปราะเปื่อยด้วยแล้ว ก็ยิ่งจะฉายได้ยาก.. เพื่อนๆคนไหนว่างๆ วันเสาร์-อาทิตย์ ก็แวะไปช่วยกันได้นะครับ.. จะได้เห็นหนังเร็วขึ้นครับ..
ภาพข้างล่างนี้ วันดี ศรีตรัง-ดวงใจ หทัยกาญจน์ จากเรื่อง เหลือแต่รัก ปี 2516 ครับ...
มาช่วยกันหลายๆ คนก็ดีนะครับ.. หนังจะได้เสร็จเร็วๆ ตอนนี้ที่เจอปัญหาหนักมากก็คือ รูหนามเตยทั้ง 2 ข้างซ้ายขวาของฟิล์มหนังจะแตกหรือเปราะและหัก ผมลองกลั้นใจฉายดูแล้ว ก็ฉายไม่ได้ หนังจะขาดทันที หากต้องการเห็นภาพจากฟิล์มก็มีทางเดียวคือ เราจะต้องช่วยกันซ่อมฟิล์ม ลำพังผมคนเดียว ทำไม่ทันแน่ๆ เพราะเราต้องใช้เทปแปะทับรูหนามเตยเดิมเกือบทั้งหมด แต่ว่าก่อนที่เราจะแปะเทปทับได้นั้น เราจะต้องเช็คทำความสะอาดคราบน้ำมันบนฟิล์มให้หมดก่อน ไม่งั้นเทปจะแปะไม่อยู่ ซึ่งตอนนี้ผมเตรียมน้ำยาเช็คทำความสะอาดที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายไว้ให้เพื่อนๆ ช่วยกันเช็คฟิล์มแล้ว.. ถ้ามา เดี๋ยวผมจะแนะนำให้ครับ ทำไม่ยากครับ..ช่วยฟิล์มหนังเพื่อให้ฉายได้นะครับ ฟิล์มเก่ามากแล้ว ถ้าไม่รีบทำ รีบฉาย ก็จะฉายไม่ได้แล้วครับ.. เพราะเป็นฟิล์มธรรมดาที่ใกล้จะสิ้นอายุขัยแ้ล้ว ..
(ส่วนภาพประกอบ ไม่ใช่ฟิล์มเก่านะครับ)
ยินดีครับ ช่วยได้เท่าที่ช่วย หากช่วยไม่ได้ ก็ช่วยเป็นกำลังใจ ก็ยังดีครับ..
บ้านนุอยู่คลองขวาง บางบอน แต่บ้านคุณภราดร ศักดา อยู่ถึงลาดกระบัง ไกลกันจริงๆ แต่ถ้ามีใจ ไกลแค่ไหน ก็ไปถึงได้นครับ.. เมื่อคืนนี้ฉายอย่างเร่งด่วน ก็เลยดูฟิล์มที่สภาพดีๆ ไม่ค่อยแตกมาฉายก่อนชุดหนึ่ง เป็นหนังที่ได้มา 4 ม้วนครับคือ ปูลม นำแสดงโดย สมบัติ-เนาวรัตน์ ฉายผ่านไปเรียบร้อยดีครับ..วันเสาร์นี้จะลุยซ่อมลุยฉายหนังที่ฟิล์มแตกๆ แล้วครับ
มาช่วยกันหน่อย..ขาดคนซ่อมฟิล์ม..
บ้านนุ อยู่คลองขวาง บางบอน แต่บ้าน คุณภราดร ศักดา อยู่ถึงลาดกระบัง ไกลกันจริงๆ แต่ถ้ามีใจ ไกลแค่ไหน ก็ไปถึงได้นครับ..เมื่อคืนนี้ฉายอย่างเร่งด่วน ก็เลยดูฟิล์มที่สภาพดีๆ ไม่ค่อยแตกมาฉายก่อนชุดหนึ่ง เป็นหนังที่ได้มา 4 ม้วนครับคือ
ปูลม นำแสดงโดย สมบัติ-เนาวรัตน์
ฉายผ่านไปเรียบร้อยดีครับ.. วันเสาร์นี้จะลุยซ่อมลุยฉายหนังที่ฟิล์มแตกๆ แล้วครับ มาช่วยกันหน่อย.. ขาดคนซ่อมฟิล์ม..
รายงานความคืบหน้านะครับ หนังจากกรุนี้ก็ทยอยทำมาเรื่อยๆ ครับ อย่างภาพนี้ก็มาจากเรื่อง
ไข่จงอาง หนังปี 2519 นาท-มยุรา แสดงนำ
ซึ่งเราได้มาเพียง 2 ม้วนสุดท้ายครับ ลองฉายแล้ว แต่ยังไม่แก้สีนะครับ..
ดูนางเอกแล้ว ก็มาดูพระเอกของเรื่อง
ไข่จงอาง
กันบ้างนะครับ..
นาท-สายัณห์...
กำลังหนีภรรยามาเที่ยวครับ..
หนีไปเที่ยวที่นี่ครับ
วังตะไคร้
...
แล้วนี่ก็มาจากเรื่อง
เผาขน ปี 2519
ซึ่งครั้งที่แล้วได้มาก่อน 3 ม้วน ตอนนี้ได้มาอีก 3 ม้วน หนังก็จบครับ ทำแล้ว แต่ยังไม่แก้สีครับ..
เผาขน
.. ครับ
นี่ก็
เผาขน เช่นกัน หนังปี 2519 ของ คมน์ อรรฆเดช
..
ท้ายๆ เรื่องก็มี
คมน์ อรรฆเดช
เป็นตำรวจโผล่มาด้วยครับ..
แล้วที่ได้ฟิล์มมาเพิ่มอีกก็คือเรื่อง
พ่อยอดมะกอก ปี 2518
ครับ คราวนี้ได้ม้วนที่ 1 มาแล้วครับ..
นางเอก จากเรื่อง
พ่อยอดมะกอก
ครับ.. เผาขน
ส่วนพระเอกปลอมตัวมาเป็นฮิบปี้ครับ..
พ่อยอดมะกอก
..
เมื่อครั้งที่แล้ว พวกเราได้ฟิล์ม ไฟเหนือลมใต้ ปี 2520 มาแล้ว 4 ม้วน แต่ครั้งนี้ค้นเจออีก 3 ม้วน ก็ฉายได้จบเรื่องแล้วครับ..อรัญญากำลังเล็งยิงใคร..
ก็จะยิงคนนี้แหละครับ พระเอกของเรื่อง กรุง ศรีวิไล ไฟเหนือลมใต้..
ไฟเหนือลมใต้ ไปถ่ายที่เชียงใหม่ แล้วนีก็ถ่ายที่ ลัดดาแลนด์ ด้วย แต่ว่า เขาไม่ได้ถ่ายให้ป้าย ลัดดาแลนด์ ครับ ภาพนี้อรัญญากำลังนั่งรถม้าในลัดดาแลนด์..
นอกจากนี้ ยังถ่ายฉากยิงกันในโรงหนังทิพยเนตรรามาด้วย แต่ว่าไม่ได้ถ่ายให้ติดป้ายชื่อโรงหนังครับ..
ก็เป็นอันว่า ไฟเหนือลมใต้ ได้มาครบแล้วครับ เพียงว่าฟิล์มกระโดดบ้างครับ...นี่ฉากจบครับ
ส่วนหนัง 16 มม.เรื่อง รัดใจ ปี 2508 สมบัติ-พิศมัย นั้น ฟิล์มเสียหายมากๆ นี่ผมเลือกภาพที่ดูแล้วดีที่สุดมาให้ดูนะครับ ฉากนี้เกี่ยวกับรถไฟฯ นำมาฝากอ.พุทธพร ส่องศรี ครับ ดูไม่ออกว่าที่ไหนครับ
รัดใจ ปี 2508
ที่เห็นหน้าชัดที่สุด ก็ได้แค่นี้แหละครับ ฟิล์มลอกๆ ทั้ง 4 ม้วนครับ
ต่อมาก็เป็นหนังที่ถือว่า ฟลุ๊คสุดๆ ในการค้นหาเพราะกระเป๋าเขียนชื่อว่า
ระเริงชล
แม้จะมีวีซีดีกันแล้ว แต่เพราะความอยากได้หนังที่มีเส้นฝนมาฉายดู พวกเราก็เลยนำฟิล์มมาทั้งหมดเลย ปรากฏว่า เมื่อฉายดู กลับกลายเป็นหนังเรื่อง
ลมรักทะเลใต้ ปี 2514 สมบัติ-เพชรา..
ลมรักทะเลใต้
เป็นหนังเพลงที่มีเพลงมาก มีนักร้องหลายคนมาร่วมแสดง คนนี้เขาบอกว่า เป็น
สรวง สันติ..
ส่วนคนนี้ก็
พนม นพพร
เล่นเยอะและร้องหลายเพลง เพลงท้ายๆ มาเดินร้องอยู่แถววงเวียนใหญ่ ครับ หนังทำเสร็จแล้ว แต่ยังไม่แก้สีนะครับ ตอนนี้ดูภาพนิ่งไปก่อนครับ
ส่วนนี่ก็ พระเอก-นางเอก
ลมรักทะเลใต้
...
นี่ก็มีใน
ลมรักทะเลใต้ ปี 2514
ครับ วงดิอิมพอสซิเบิ้ล... หนังได้มาครบ 8 ม้วนครับ ขาดตอนท้ายนิดหน่อย..
นักร้องคนนี้ก็มาครับ
สมัย อ่อนวงศ์..
ยืนกับตลกสี่สี..
เรื่องนี้
สมบัติ
ก็ร้องเพลงเองด้วยครับ..
แม่ผ่องศรี วรนุช
ก็มา..
แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์
ก็มาด้วยครับ ลมรักทะเลใต้..
เป็นหนังที่รวมนักร้อง รวมตลกหลายคนครับ.. ตรงกลางคือ หม่อมชั้นพวงวัน..
เห็นเขาไปพักที่บังกะโล.. ก็เลยนำภาพมาให้ดู คงไม่มีลักษณะแบบนี้แล้วมั้งครับ..
แล้วก็เรื่องท้ายสุดที่เพิ่งลองฉายดูได้เพียงม้วนเดียว ฟิล์มแตกเสียหายมากๆ ต้องซ่อมดีๆ ก่อน จึงจะฉายได้ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่า จะมีใครมาช่วยผมซ่อมบ้างครับ..
สองเสือใจสิงห์ หนังปี 2520
..
ภาพสุดท้ายคืนนี้แล้วครับ
สองเสือใจสิงห์
.. จะรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ งานหนักๆ กำลังรอครับ..
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 มิถุนายน 2014, 09:41:11 โดย นายเค
»
บันทึกการเข้า
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120 E-Mail
soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า หมายเลขบัญชี 210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขา บางเขน หมายเลขบัญชี 041-273435-0
ติดต่อ 0909040355
ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได
นายเค
Thaicine Movie Team
Moderator
พี่น้อง thaicine Gold member
กระทู้: 3814
พลังใจที่มี 616
เพศ:
Re: บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
«
ตอบกลับ #2 เมื่อ:
25 มิถุนายน 2014, 09:51:14 »
วันนี้
เราสามคนคือ ผม คุณจุ๊บ คุณนุ
ก็พบสัจจะธรรมข้อหนึ่งในการซ่อมฟิล์มหนังเก่าๆ ให้ฉายได้ง่ายๆ แล้วครับ หลังจากเราที่พยายามซ่อมตามที่เคยเห็นๆ เขาทำกันมา..แต่วิธีที่เขาทำกันมานั้น ทั้งยุ่งยากและก็ใช้เวลานานมากๆ เหนื่อยด้วย วันนี้ พอเรานำฟิล์มที่มีรอยลอกๆ เนื้อฟิล์มเปื่อยและเปราะ เรียกว่า ตอนลองฉายหนังดูนั้น พอเดินเครื่องฉายปุ๊บ ฟิล์มก็ขาดปั๊บทันที หรืออย่างมากก็เดินไปได้แค่ 20-40 วินาที ฟิล์มก็ขาดอีก... จากนั้น พวกเราก็ลองนำฟิล์มที่ขาดๆ นั้น มานั่งวิเคราะห์กันว่า ทำไมฟิล์มถึงได้ขาดเร็วเหลือเกิน.. จากนั้นก็พากันลองการซ่อมฟิล์มแบบสัจจะธรรมแห่งชีวิต..เพียงแค่คิดมุมกลับแบบธรรมดาๆ จากนั้นก็ลองฉายดู ปรากฏว่า ตรงที่เคยขาดๆ กลับไม่ขาดแล้ว.. เมื่อสรุปได้ว่า เราต้องซ่อมฟิล์มแบบนี้แล้ว เราก็หยุดฉายฟิล์มเปื่อยๆ หันมานำฟิล์มที่สภาพยังดีมาฉายรอ..
ส่วนคุณจุ๊บก็นำฟิล์มม้วนที่แตกๆเปื่อยๆ นั้นไปนั่งซ่อมตามสัจจะธรรมที่ค้นพบเพียงคน..ผมกับคุณนุก็ฉายหนังฟิล์มดีๆ ไปก่อน..คืนนี้ คุณจุ๊บนอนค้างที่บ้านคุณนุ ส่วนผมกลับบ้านก่อน พรุ่งนี้จะซื้อข้าวปลาไปฝากแต่เช้า.. พอเราค้นพบวิธีซ่อมฟิล์มแบบนี้แล้ว ก็มานั่งคิดว่า ถ้าได้เพื่อนๆ มาช่วยกันคนละม้วน สองม้วน คิดว่า ไม่นานก็เสร็จนะครับ.. เกือบลืมบอกไป วันนี้มีเพื่อนคือ คุณภราดร ศักดา แวะไปหา ไปดูพวกเราทำงาน ก็อยู่กับเราจนค่ำๆ นั่นแหละครับ ถึงลาได้กลับบ้านที่ลาดกระบัง..บอกว่า คราวหน้าจะแวะมาช่วยอีก.. อ้อ..วันนี้ฉายหนังรวมๆ ตัวอย่างอีกม้วนหนึ่ง ก็พบว่าส่วนหนึ่งของหนังเรื่อง นรกแตก-เลือดในดิน และอีกหลายเรื่องครับ...
วันนี้ มี
คุณ Maxkie Mitt
กับน้องเจเมืองไทย ภัทรถาวงศ์ มาช่วยซ่อมฟิล์มครับ.. แล้วทุกคนก็ได้รู้ว่า คำว่า สาหัสนั้นเป็นอย่างไร..วันนี้พวกเรา 5 คน เริ่มลงมือช่วยกันคนละม้วนไปเรื่อยๆ จนเกือบบ่าย 3 จึงหยุดไปฉายหนังกัน คงมีแต่คุณจุ๊บกับคุณแม็กกี้ที่ลุยซ่อมฟิล์มต่อ..รู้ว่า เพื่อนๆ เหนื่อยกันมากครับ แต่ทำไงได้ หากไม่ซ่อมหนักๆ แบบนี้ หนังก็ฉายไม่ได้ครับ..วันนี้ เราฉายได้อีก 2 เรื่องแบบฟิล์มไม่ครบเรื่อง นั่นคือ หัวใจ 100 ห้อง กับ สุดหัวใจ.. ส่วนเงินที่คุณอ้วนหรือตัวเล็ก Chanyapat Mee-arsa ฝากคุณแม็กกี้มานั้น ผมรับลงบัญชีไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งหน้าแล้วนะครับ ขอบคุณทุกท่านครับ..
เดี๋ยวอีกไม่นาน พวกเราคงจะสรุปรายชื่อหนังจากกรุฟิล์มโรงหนังเฉลิมเอกว่า ได้มาแบบจบเรื่อง กี่เรื่อง..และได้มาแบบไม่จบเรื่อง อีกกี่เรื่อง.. ครับ จากนั้นจะต้องนำไฟล์หนังทั้งหมด มาปรับแก้สีใหม่อีกครั้งหนึ่ง.. แล้วจึงจะนำไฟล์หนังกระจายไปไว้กับเพื่อนๆ นะครับ.. ช่วยกันเก็บช่วยกันรักษาไว้ให้สมกับที่เตี่ยอาจารย์ประนอมอุตส่าห์เก็บฟิล์มให้ไว้ลูกหลานได้ดูกันอีกนะครับ..
Maxkie Mitt
ร่วมด้วยช่วยกัน ตามแต่กำลังครับ
Maxkie Mitt
แต่ละม้วนฟิล์มชำรุดมากๆครับ รูหนามเตยแตกตลอดเป็นช่วงๆเลยครับ
Maxkie Mitt
คุณจุ๊บกำลังแปะฟิล์ม ที่รูหนามเตยแตก เชื่อหรือไม่ฟิล์มที่อยู่ข้างๆคุณจุ๊บนั้น ใช่เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนในการซ่อมครับ
Maxkie Mitt
ขอบอกว่างานซ้่อมฟิล์มครั้งนี้ ต้องใจรักหนังไทยจริงๆครับ เพื่อนๆท่านใดถ้าว่างๆมาช่วยกันได้นะครับ ยังมีอีกหลายม้วนค้าบ อิ อิ
ขอบคุณ
อ.พุทธพร
เรื่องข้อมูลสถานีรถไฟจากเรื่อง รัดใจ มากๆ ครับ..หนังเรื่องนี้ ฟิล์มลอกๆ เสียหายทั้งเรื่อง แม้จะได้มาประมาณ 1.30 ชม. แต่ก็ดูยากครับ ผมคงไม่ตัดมาโพสแล้วล่ะครับ..ส่วนเรื่องซ่อมฟิล์มหนังนั้น ประเดี๋ยวคุณมานะจะนึกว่า ฟิล์มทุกม้วนที่ยืมมาจะเสียหายเหมือนกันหมด ความจริงไม่ใช่นะครับ สมมุติว่า ฟิล์มที่พวกเรายืมมานั้นมี 100 ม้วน ก็จะมีฟิล์มที่เสียหายหนักๆ แบบนี้ประมาณสัก 10 ม้วนเองครับ ก็เลยต้องแยกออกมาซ่อมหนักๆ ก่อน ส่วนที่ซ่อมเล็กๆน้อยๆหรือเพียงแค่กรอฟิล์มไป-กลับและเช็ครอยต่อเก่าๆ นั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ เรียกว่า ซ่อมแซมเล็กน้อย.. ลองคิดดูว่า ฟิล์มอายุตั้งแต่ปี 2514-2524 เก็บไว้ได้นานถึงปี 2557 โดยสภาพฟิล์มเสียหายเล็กน้อยหรือบางเรื่อง ไม่เสียหายอะไรเลย ก็ต้องเรียกว่า กรุโรงหนังเฉลิมเอกนี้เก็บฟิล์มได้อย่างดีเยี่ยมแล้วครับ..
ส่วนการซ่อมแซมฟิล์มนั้น เราไม่ได้ไปยึดตำรับตำราอะไรครับ.. เราทำแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน มันก็คงจะไม่สกปรกอะไรเพิ่มขึ้นกว่านี้หรอกครับ ฟิล์มเหล่านี้ล้วนมีคราบน้ำมันชโลมอยู่เพราะสมัยก่อนเครื่องฉายหนังเดินเร็วและเดินหนักมาก แถมยังมีแสงไฟจากเตาอ๊าคส่องสว่างอีก ฟิล์มก็ร้อน ก็เปราะได้ง่าย เขาก็เลยต้องเอาน้ำมันเครื่องผสมชโลมฟิล์มไว้ คนรุ่นใหม่ๆ ที่ได้ฟิล์มเก่าๆ มาแบบนี้ ไม่เข้าใจธรรมชาติของการฉายหนังกลางแปลง ก็ก่นก็ด่าคนรุ่นเก่าๆ ว่า เอาน้ำมันมาชโลมฟิล์มทำไม..ก็บอกตรงนี้ไว้เลยครับว่า ถ้าฟิล์มไม่มีน้ำมันชโลมไว้แบบนี้ ป่านนี้คงแห้งกรอบและฉายไม่ได้แล้วครับ.. มีน้ำมันดีกว่าไม่มีน้ำมันนะครับ น้ำมันนั้น เราเช็คออกได้ เวลาฉายก็เช็ดซ้ำอีก ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าไม่มีฟิล์มฉายนี่ซิครับ น่าเสียใจมากกว่า..
คุณ Araya Pamonprawat
ครับ เรื่อง
รัดใจ สมบัติ-พิศมัย
นั้น ฟิล์มลอกมากเสียยิ่งกว่าเรื่อง ชาตินักสู้ ที่ลือชัยเล่น ลอกยิ่งกว่าเรื่อง เ
พลงสวรรค์นางไพร สมบัติ-ภาวนา
ครับ ดูภาพรวมๆ แล้ว ก็คิดว่า ยากที่จะตัดต่อให้เป็นเรื่องเป็นราวมาฉายได้เพราะไม่มีช่องว่างตรงไหนที่ภาพจะไม่ลอกครับ..แต่ถ้าจะดูแบบมั่วๆ ไป ให้เห็นว่ามีหนังอยู่แบบลอก ก็จะตัดมาให้ดูนะครับ.. ตอนนี้มาดูภาพนิ่งจากฟิล์มหนังตัวอย่างที่พบเพิ่มเติมจากอีกม้วนหนึ่ง ก็ยังคงได้มาแบบสั้นๆ นะครับ คราวนี้ได้ชื่อหนังมาด้วย
นรกแตก
.. ภาพยังไม่ปรับแก้สีนะครับ..
นรกแตก
กำลังสักยันต์คชสีห์ชูงวงให้พระเอกครับ..
ฉากบู๊ระหว่าง
สมบัติ-กรุง.. นรกแตก
จากตัวอย่างที่ได้มา
อีกมุมครับ
กรุง-สมบัติ นรกแตก
อีกภาพครับ
นรกแตก
จากฟิล์มหนังตัวอย่างที่อยู่ปนๆกัน
แล้วก็ได้หนังตัวอย่างเรื่อง
ผู้หญิงมือสอง
มาด้วยครับ เรื่องนี้ไปถ่ายทำต่างประเทศตลอดเรื่อง
พระเอกของเรื่องครับ..
ผู้หญิงมือสอง
นี่ก็ยังเป็น
ผู้หญิงมือสอง
ครับ..ตอนจะตัดมาโพสนั้น จะต้องแก้สีก่อนนะครับ..
ไพโรจน์-พิศมัย จากเรื่อง ผู้หญิงมือสอง
ถ่ายทำในต่างประเทศ ดูภาพนี้แล้ว นึกว่านั่งแถวๆ นาเกลือ..
แล้วก็ได้ตัวอย่างเรื่องนี้มาด้วยครับ
มือปืนนมสด
..
สมบัติ-อรัญญา จาก มือปืนนมสด..
หนังเรื่องเคยทำวีซีดีออกมาแล้วครับ
จากนั้นก็เจอตัวอย่าง
รักเต็มเปา
.. ซึ่งหนังเต็มๆ เรื่องก็ได้มาเช่นกัน แต่ยังไม่ได้ตัดต่อมาโพสครับ
ได้ตัวอย่างเรื่อง
เลือดในดิน
มาด้วยครับ..
ครับ เอาเป็นว่า รัดใจ นั้น ผมจะพยายามเลือกตัดหนังมาฉายนะครับ..แต่คงไม่ลำดับเรื่องราวนะครับ ส่วนเรื่อง ลมรักทะเลใต้ นั้น ภาพดูได้สบายๆ ครับ เพลงก็เยอะ เฉพาะเรื่องนี้ คิดว่า อาจจะตัดมาฉายเยอะกว่าเรื่องอื่นๆ นะครับ.. แล้วนี่ก็เป็นฉากจบของหนังตัวอย่างที่สมัยก่อนเราจะได้ยินเขาประกาศว่า ฉายที่นี่เร็วๆ นี้.. แล้วเด็กๆ อย่างเราก็พากันดีใจว่า อีกไม่นานจะได้ดู แต่ที่ไหนได้ รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ ก็ยังไม่เห็นหนังมาฉายสักกะที..
มาแล้วครับ ฟิล์มส่วนที่เราค้นพบเพิ่มเติม นรกแตก ผมนำสองส่วนนี้มาต่อรวมกันและโพสอีกครั้งครับ..
ตัวอย่าง นรกแตก (2522 สมบัติ-กรุง) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ตัวอย่าง นรกแตก (2522 สมบัติ-กรุง) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม
เมื่อคืนนี้ พวกเราฉายหนังปี 2522 เรื่อง
อยู่กับก๋ง
ของ
คมน์ อรรฆเดช
.. ดูแล้ว หนังมีครบ 6 ม้วนจบ..ไม่น่าเชื่อว่า ฟิล์มหนังปี 2522 ของกรุโรงหนังเฉลิมเอกชุดนี้ จะอยู่ดีมากๆ สีออกแดงๆ แล้ว สภาพฟิล์มเป็นเส้นฝน แต่ก็ยังดูดี ดูชัด เราฉายผ่านเครื่องไปอย่างสบายๆ นิ่มๆ จนอดคิดไม่ได้ว่า นี่ถ้าหนังไทยในยุคนั้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น นรกแตก เสือภูเขา ฯลฯ ถูกเก็บไว้ที่บ้านเตี่ยอาจารย์ประนอมแล้ว หนังก็คงไม่ตาย คงไม่เน่า พวกเราก็คงจะมีหนังดูอีกเยอะแยะเหลือครับ..
อยู่กับก๋ง
นี้สมัยที่ผมฉายหนังกลางแปลงที่จังหวัดสุรินทร์ เรียกว่าเป็นหนังแถม พอฉายม้วน 1 ทีไร คนดูก็ลุกขึ้นกลับบ้านกันแล้ว สมัยนั้นคนดูเขาไม่ชอบหนังชีวิตแบบนี้ เขาชอบแต่หนังเพลง หนังบู๊ๆ อีกเรื่องที่ฉายรุ่นเดียวกันคือ อีโล้นซ่า ของเฮียหลอ สภาพฟิล์มก็พอๆ กับเรื่องอยู่กับก๋ง แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่ากากฟิล์มไปอยู่ที่ไหนแล้ว.. พอฉายอยู่กับก๋ง ไปก็คิดถึง อีโล้นซ่า..เพราะใจหนึ่งก็คิดว่า อยู่กับก๋ง ที่อยู่กับกรุโรงหนังเฉลิมเอกนั้น น่าจะเป็นฟิล์มตัวเดียวกันกับที่เคยปล่อยเร่ฉายในเขตอีสานคือ สุรินทร์-บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ-โคราช.. เพราะเถ้าแก่ผมเคยบอกว่า เคยนำฟิล์มไปแลกเปลี่ยนที่ร้อยเอ็ดด้วยครับ...
Maxkie Mitt
เนื้อเรื่องดี มีคติสอนใจครับ เรื่องอยู่กับก๋ง หาตัวแสดงเหมาครับ ดูแล้วใกล้เคียงกับนิยายที่ หยกบูระพาเขียนเอาไว้ครับ ได้ฟิล์มมาหกม้วนถือว่าโชคดีครับพี่มนัส ยังจำตอนจบที่ก๋งพูดสอนหยกด้วยประโยคยาวๆปิดท้าย บทดีมากเลยครับ
ใช่
อยู่กับก๋ง
เป็นหนังดีมีคติสอนใจ..บางฉากที่ฉายก็ไม่เคยเห็นจากวีดีโอด้วยครับ..ภาพนี้เพิ่งฉายเสร็จ ยังไม่ปรับแต่งอะไรนะครับ..
ตัวละครหลักๆ จึงอยู่แค่ ก๋ง กับ หยก ครับ..
จุดเด่นของหนังก็คือ ดึงดาราดังที่เล่นเป็น เปาปุ้นจิ้น มาเล่นเป็น ก๋ง..
เมื่อวานฉายหนัง ก็เผอิญไปเจอหัวหนังเขาแปะตราไฟว์สตาร์รุ่นเก่าไว้ ก็เลยตัดมาให้ดูครับ ฟิล์มยังไม่แก้สีนะครับ..
ฟิล์มตัวอย่างหนังเรื่อง
ป่าอันตราย ปี 2519
ที่เห็นพรรคพวกเรานั่งช่วยกันแปะซ่อมฟิล์มครับ ยังฉายไม่ครบเรื่องเลยครับ..
แต่ที่ฉายหมดแล้ว อยู่ระหว่างตัดต่อและแก้ปรับสี ก็คือ
หัวใจ 100 ห้อง
หนังปี 2517 ของ วินิจ ภักดีวิจิตร.. ภาพนี้
อรัญญา
ครับ
หัวใจ 100 ห้อง
จะมี
กรุง-อรัญญา-ไพโรจน์-ปิยะมาศ
แสดงนำ..
กรุง
จาก
หัวใจ 100 ห้อง..ปี 2517
พอฉายเสร็จ ก็จะต้องนำไฟล์ภาพมาตัดต่อ เรียงเรื่องอีกเพราะเราฉายแบบไม่รู้ว่า เป็นหนังม้วนไหน อาศัยว่า ฉายจบแล้ว จึงมานั่งดูหนังและลำดับเรื่อง จากนั้นก็รวมเป็นไฟล์ต้นฉบับตามสีของหนังของที่ได้มาก่อน.. แ้ล้วสุดท้ายก็จะมาปรับแก้สีอีกครั้งให้เหมือนธรรมชาิติที่สุดครับ..
หนังเรื่อง หัวใจ 100 ห้อง นี้ ต่อมามีการนำกลับมาสร้างใหม่อีก แต่เปลี่ยนชื่อเป็น หัวใจห้องที่ 5 รุ่นที่ ภัสสร-ยุรนันท์ แสดงนำครับ
ตอนนั้น
ปิยะมาศ
ดังมาแล้วจาก ขัง 8 คุณวินิจ ก็เลยนำมาเล่นเรื่องนี้อีก หัวใจ 100 ห้อง ปี 2517 พวกเราค้นหาจากฟิล์มที่ไม่มีกระเป๋าได้มาเกือบครบ..หนังจบเรื่องแล้ว แต่ขาดม้วนที่ 1 ไปครับ..
ครับ ช่วงนี้ พวกเรากำลังเร่งซ่อมฟิล์มและฉายหนังกันอยู่นะครับ.. วันเสาร์-อาทิตย์นี้ เห็นว่า คุณจุ๊บจะเข้าไปซ่อมฟิล์มส่วนที่เหลือๆ ให้อีก เพื่อนๆ ท่านใดอยากจะไปหา ไปช่วยซ่อมฟิล์ม ก็ไปได้นะครับ ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย จะได้เสร็จเร็วๆ ตอนนี้เหลือหนังที่รอซ่อม รอคิวฉายอีกประมาณ 10 เรื่องครับ..หากเสร็จเร็ว เราก็จะได้รีบไปหาอาจารย์ประนอมกัน..
วันก่อน ผมนำฟิล์ม 3 ม้วนสุดท้ายของหนังเรื่อง
มันส์เขาล่ะ สมบัติ-นัยนา ปี 2521
มาฉาย แล้วก็นำไปต่อรวมๆกันกับ 3 ม้วนแรกที่ยืมมาก่อน ก็ถือว่า เราได้หนังมาครบจบเรื่องแล้วครับ เพียงแต่หนังจะโดดๆ ไปบ้างครับ แต่ก็ยังพอดูรู้เรื่อง.. ส่วนภาพข้างล่างนี้ พอผมฉาย มันส์เขาล่ะ จบ 3 ม้วนแล้ว ผมก็ไปหยิบฟิล์มอีกม้วนหนึ่งมาลองฉายทดสอบดู.. ที่ต้องบอกว่า ฉายทดสอบดู ก็เพื่อจะเช็คว่า เราจะต้องซ่อมฟิล์มแค่ไหน เพียงไร จึงจะฉายผ่านเครื่องได้ง่ายๆ หนังเรื่องนี้ปี 2521
เรื่องแรกของนางเอก อำภา ภูษิต คือ ฟ้าหลังฝน..
ถึงจะเคยออกแผ่นวีซีดีมาแล้ว แต่ก็เป็นระบบภาพเต็มจอ ภาพจึงขาดสัดส่วนที่แท้จริงจากตากล้องที่อุตส่าห์ตั้งใจถ่ายทำไว้ พอผมเห็นว่า กรุโรงหนังเฉลิมเอก ยังมีกากฟิล์มเรื่องนี้อยู่ครบ 6 ม้วน ก็เลยยืมมาฉายครับ.. อยากจะบันทึกประวัติศาสตร์ของหนังเรื่องนี้
ฟ้าหลังฝน
เป็นหนังชีวิตรักที่โด่งดังมากๆ ในยุคนั้น เรียกว่า ดังไม่แพ้หนังบู๊ๆ คนดูติดใจกระทั่่งหนังเรื่องนี้แจ้งเกิดให้กับ อำภา ภูษิต เลยล่ะครับ..
อำภาเคยเล่าให้ฟังว่า
ตอนเทสหน้ากล้อง ฉากนี้แหละครับที่ทำให้อำภาได้เล่นหนังเรื่องนี้ เขาจะให้อำภาแสดงฉากนี้ มองหน้าพระเอก
วิฑูรย์ กรุณา..
ครับ.. แล้วที่บอกว่าอยากบันทึกประวัติศาสตร์ก็เพราะคิดว่า ในสายอีสานนั้นอาจจะมีฟิล์มเพียง 1-2 ก๊อบปี้ ผมเองก็เคยดูจากจอหนังกลางแปลงในสมัยนั้น แต่เส้นฝนไม่เยอะเท่านี้ เข้าใจว่า ตอนนี้คงไม่มีฟิล์มรุ่นนี้เหลือแล้วครับ.. ไหนๆ กรุโรงหนังเฉลิมเอกก็อุตส่าห์เก็บไว้ ก็เลยจะนำมาฉายบันทึกประวัติศาสตร์สักหน่อยว่า
ฟ้าหลังฝน
ชุดนี้จะมีเส้นฝนมากขนาดไหน..เพราะอย่าลืมว่า หนังดีต้องมีเส้นฝน..นะครับ
ภาพจากฟิล์มเรื่อง
มันส์เขาล่ะ ปี 2521
เสร็จแล้ว รอแต่ปรับแก้สีครับ..
ภาพจากฟิล์มเรื่อง
มันส์เขาล่ะ ปี 2521
เสร็จแล้ว รอแต่ปรับแก้สีครับ..
วันนี้ พวกเราลองนำฟิล์มที่เพื่อนๆ ช่วยกันนั่งแปะเทปตามวิธีการที่เราคิดได้ แล้วก็มาลองฉายดูครับ นั่นคือเรื่อง ป่าอันตราย..ฉายแล้ว ก็ไม่เสียหลายที่คุณจุ๊บ คุณแม็กกี้ น้องเจและคุณนุ นั่งหลังคดหลังแข็งซ่อมกันเป็นวันๆ เราซ่อมมาได้ก่อนเพียง 2 ม้วน ก็นำมาฉายดูทั้งสองม้วน ก็เรียกว่า ผ่านได้ไม่ยากครับ เครื่องฉายสามารถเคลื่อนฟิล์มที่แตกๆ ไปได้แล้วครับ..ตอนนี้เหลือฟิล์มแตกๆ แบบนี้อีกหลายม้วนครับ พรุ่งนี้ ต้องลุยกันต่อไปครับ..
วันนี้ พวกเราลองนำฟิล์มที่เพื่อนๆ ช่วยกันนั่งแปะเทปตามวิธีการที่เราคิดได้ แล้วก็มาลองฉายดูครับ นั่นคือเรื่อง ป่าอันตราย..ฉายแล้ว ก็ไม่เสียหลายที่คุณจุ๊บ คุณแม็กกี้ น้องเจและคุณนุ นั่งหลังคดหลังแข็งซ่อมกันเป็นวันๆ เราซ่อมมาได้ก่อนเพียง 2 ม้วน ก็นำมาฉายดูทั้งสองม้วน ก็เรียกว่า ผ่านได้ไม่ยากครับ เครื่องฉายสามารถเคลื่อนฟิล์มที่แตกๆ ไปได้แล้วครับ..ตอนนี้เหลือฟิล์มแตกๆ แบบนี้อีกหลายม้วนครับ พรุ่งนี้ ต้องลุยกันต่อไปครับ..
เห็นว่า จะมีเพื่อนๆ มาช่วยกันซ่อมฟิล์มกันอีก วันนี้ พวกเราก็เลยต้องเหลือฟิล์มแตก ๆ ไว้ 2 ม้วนเพื่อรอให้เพื่อนๆ มาช่วยซ่อมกันวันเสาร์หน้านะครับ..พอซ่อมแล้ว วันนั้นก็จะฉายให้ดูเลยครับ จะได้รู้ว่า ซ่อมฟิล์มง่ายหรือยาก.. วันนี้ คุณนุ คุณจุ๊บ นั่งดูเรื่อง ป่าอันตราย ที่ลงทุนซ่อมฟิล์มไว้อีกม้วนแล้ว ก็เป็นอันจบเรื่องครับ..
รัดใจ
นั้น ต้องรออีกหน่อยนะครับ.. วันนี้ มาดูกองกากฟิล์มที่
อ.มนูญ สุภาพ Manoon Movie
ไปถ่ายรูปมาให้ดูนะครับ กากฟิล์มชุดนี้เก็บไว้เยอะมาก แต่อากาศร้อนอบอ้าว ก็เลยเสียหายเกือบหมดทั้งๆ ที่ฟิล์มอายุน้อยกว่าฟิล์มโรงหนังเฉลิมเอก.. เจ้าของหวงครับ แต่ผู้ใหญ่เป๋ สวนป่าน ก็ไปแงะๆ ออกมาได้ตลอด คือว่า ต้องการใช้รีลเหล็กที่อยู่ในกระเป๋านะครับ..
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 กรกฎาคม 2014, 18:31:39 โดย นายเค
»
บันทึกการเข้า
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120 E-Mail
soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า หมายเลขบัญชี 210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขา บางเขน หมายเลขบัญชี 041-273435-0
ติดต่อ 0909040355
ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได
นายเค
Thaicine Movie Team
Moderator
พี่น้อง thaicine Gold member
กระทู้: 3814
พลังใจที่มี 616
เพศ:
Re: บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
«
ตอบกลับ #3 เมื่อ:
01 กรกฎาคม 2014, 18:31:51 »
ฟิล์มกรุนี้ อายุประมาณปี 2525
เรื่อยมา ส่วนใหญ่จะเป็นหนังจีนเกือบหมด มีหนังไทยไม่มาก.. พอผู้ใหญ่เป๋ได้ฟิล์มมาก็จะมาฝากให้คุณศักดิ์ที่ราชบุรี จัดการแงะเอาฟิล์มทิ้งและนำรีลเหล็กไปใช้.. แต่เพราะทั้ง
ผู้ใหญ่เป๋-อ.มนูญ-คุณศักดิ์
ตลอดจนคนในเว็บไทยซีเน..รู้่ว่า พวกเราตามหาหนังไทยเก่าๆ แม้จะไม่จบเรื่อง ก็เอา..เขาก็เลยช่วยกันครับ คือ ช่วยดูว่า ถ้าเป็นกระเป๋าหนังไทยแล้ว เมื่อเปิดกระเป๋าดู ถ้าเห็นว่า ฟิล์มยังพอฉายได้ซึ่งอาจจะได้เพียงนิดหน่อยๆ คุณศักดิ์ก็จะตัดฟิล์มส่วนนั้นๆ เก็บไว้ให้พวกเราครับ..
ตอนนี้ เห็น อ.มนูญบอกว่า คุณศักดิ์ตัดเศษๆ หนังไทยไว้ให้พวกเราหลายม้วนแ้ล้วครับ.
เรื่องนี้
สายัณห์ สัญญา
เล่นไว้ เห็นว่า มีเหลือมานิดหน่อย ฟ้าบันดาล
แต่บางกระเป๋าก็เน่าจนหมดปัญญาครับ.
.
ส่วนฟิล์มที่ใช้ไม่ได้จริงๆ คือ ทั้งเหม็น ทั้งบิด ทั้งงอนั้น คุณศักดิ์ก็จับใส่ถุงดำนำไปทิ้งครับ..
สิ่งที่เหลือจากการทนเหนื่อย ทนเหม็น นอกจากได้เศษฟิล์มหนังไทยสั้นๆ ไว้ให้พวกเราแล้ว ก็คือ รีลเหล็กเหล่านี้แหละครับ เอาไว้ใส่หนังใหม่ๆ ต่อไปครับ..
ตุ๊กตา จินดานุช
วัยเสเพล " พี่ตุ๊กตาพากย์เป็นน้อง แคเร็น คล่องตรวจโรค ค่ะ คุณ ต๊ะ พากย์เสียงตัวเอง คุณ ต๊ะ เป็นคนมีความสามารถมาก เสียดายไม่ค่อยได้เห็นผลงานต่อ ๆ มาอีก จำได้ว่า นั่งพากย์ไปก็ชื่นชมการแสดงที่เป็นธรรมชาติมาก ๆ ของนักแสดงท่านนี้...
วัยเสเพล
เป็นหนังรุ่นเก่าครับ..ไม่รู้ว่า คุณศักดิ์จะตัดเศษๆ ไว้ให้ได้แค่ไหน เสียดายหนังครับ หนังเต็มๆ เรื่อง ไม่มีแล้วครับ..
การที่พวกเราตามหากากฟิล์มหนังไทยเก่ามาฉายดูกันนั้น อย่างหนึ่งก็เพราะอยากตามหาหนังที่หายไปกลับมาดูอีก แต่การเจอะเจอกากฟิล์มหนังนั้น ก็ใช่ว่า จะเจอะเจอแต่หนังที่หายๆ ไป หนังที่ยังเหลือหรือหนังที่ทำแผ่นวีซีดีหรือดีวีดีแบบชัดๆ ออกจำหน่ายแล้ว พวกเราก็ยังเจอกากฟิล์มอีก..บางคนถามว่า เจอหนังแบบนี้จะนำกลับมาฉายทำไมเพราะแผ่นดีวีดีก็ชัดอยู่แล้ว.. ก็จริงครับ เรามีแผ่นแล้ว แต่ความที่พวกเราอุตส่าห์ไปเจอะเจอ เราก็อยากรู้ว่า ฟิล์มเก่าๆ เหล่านั้นจะฉายได้แค่ไหน เพียงไร จะมีเส้นฝนมากมายขนาดไหน ก็เลยขอนำกลับมาฉายดูเล่นๆ ดูเป็นประวัติศาสตร์ว่า นี่คือ กากฟิล์มปี 2517 หนังเรื่องแรกของ
วิยะดา อุมารินทร์
ที่กรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด อุตส่าห์เก็บไว้หลังเลิกกิจการ..
ฟิล์มปี 2517
เก็บไว้ธรรมดาๆ ในบ้าน ก็ยังฉายได้ ฉายเพื่อพิสูจน์เนื้อฟิล์มว่า เก็บอย่างไร จึงจะคงทนนะครับ..ตอนฉายก็ได้แต่คิดเล่นๆว่า นี่ถ้าไม่มีแผ่นดีวีดีเรื่องนี้ออกมาก่อน รับรองว่า กากฟิล์มชุดนี้จะเป็นประวัติศาสตร์เลยครับ.. ฉายแล้วก็นำภาพนิ่งจากฟิล์มที่ยังไม่ปรับแก้สีมาให้ดูสัก 2-3 ภาพนะครับ..
วิยะดา อุมารินทร์
กับกากฟิล์มเรื่อง
เทพธิดาโรงแรม ปี 2517
สรพงศ์ ชาตรี
เรื่องนี้เล่นด้วยและช่วยกำกับด้วยครับ
เทพธิดาโรงแรม ปี 2517
อีกเหตุผลหนึ่งที่นำฟิล์มกระเป๋านี่กลับมา ก็เพราะชอบคิดเข้าข้างตัวเอง เรื่อง คาดไม่ถึงนี่แหละครับ.. อย่างเช่น กระเ๋ป๋าหนัง
เรื่อง ระเริงชล
นั้น เห็นแค่ข้างกระเป๋าเขียนไว้ ก็รู้ว่า คุณโต๊ะทำวีซีดีออกจำหน่ายนานแล้ว แต่เราก็ยังนำฟิล์มในกระเป๋ากลับมา..แล้วเรื่องคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นจริงๆ พอฉายดูแล้ว แทนที่จะเป็นหนัง
ระเริงชล สมบัติ-เพชรา
กลับกลายเป็นว่าในกระเป๋า คือฟิล์มเรื่อง
ลมรักทะเลใต้ สมบัติ-เพชรา..
นี่แหละครับคือ อีกเหตุผลที่พวกเราต้องนำฟิล์มกลับมาจนหมด..
เรื่องการตามหาฟิล์มหนังไทยเก่าๆ นั้นมีทั้งเรื่องที่คาดไม่ถึงและเรื่องที่คิดไม่ถึง..ครับ คาดไม่ถึงว่าจะเจอหนังเรื่องนั้นๆ และคิดไม่ถึงว่าหนังเรื่องนั้นๆ จะเสียหาย...ดังนั้น การได้กากฟิล์มมาแต่ละครั้งจึงเป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกมีความสุข ความภาคภูมิใจที่อย่างน้อยๆ คนอย่างพวกเราๆ ก็ช่วยหนังไทยเก่าๆ ได้เหมือนกันครับ..
หนังเรื่อง
สิงห์ล่าสิงห์
ไม่ว่าจะเป็นหนังรุ่น 16 มม.หรือ 35 มม.ที่สร้างโดยคุณนำดี วิตตะ นั้น ยืนยันมาแล้วว่า คุณนำดี เองก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยเพราะปล่อยฟิล์มขายไปหมดตั้งแต่หนังยังดังๆ อยู่แล้วครับ.. ส่วน สิงห์ล่าสิงห์ รุ่น 16 มม.นั้น ผมกับคุณโต๊ะพันธมิตร เคยตามไปถึงอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ไปเจอลุงแก่ๆ ที่เคยฉายเป็นคนท้ายๆ เขาเล่าเรื่องให้ฟังแล้ว แต่ตอนนั้นผมไม่มีกล้องบันทึกวีดีโอไว้ และสุดท้ายเขาก็บอกว่า พอหมดยุคหนัง 16 มม.เขาก็เก็บฟิล์มกับเครื่องฉายไว้สักพัก จะเอามาฉายแต่ละครั้ง ก็ถูกมองด้วยสายตาดูถูกดูแคลน เขาก็เลยเลิำำกๆ ไป แล้วในที่สุดเมื่อมีการย้ายบ้าน เขาก็เลยขายทิ้งไปเป็นของเก่าๆ ไป ไม่รู้ว่า ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนแล้วครับ...แต่มีอีกที่หนึ่ง จากประวัติที่รับฟังมาเป็นเจ้าแรกในจังหวัดอุดรฯ ที่ฉายหนังขายยาและเมื่อเลิกกิจการก็เก็บฟิล์มหนัง 16 มม.ไว้เยอะที่สุด..
จะเป็นหนังที่สร้างก่อนปี 2500 เรื่อยมาจนถึงหนังปี 2513... เขาเก็บไว้แบบหวงๆ ไม่เคยคิดจะให้ใครกระทั่งเมื่อเสียชีวิตไป ลูกหลานก็ยังเก็บอยู่ ยังไม่มีใครเข้าไปเจาะได้ แต่ก็นั่นแหละ เขาเก็บเพราะเป็นของบรรพบุรุษ..ซื้อขายใครไม่ได้ตามธรรมเนียม ผมเองก็เคยคิดจะไปเจาะเหมือนกัน แต่ติดขัดบางประการ เพิ่งรู้ข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้เองว่า ฝันของนักดูหนังไทยเก่าๆ ได้สลายไปหมดแล้วเพราะได้รับคำยืนยันจากคนในพื้นที่บอกว่า สภาพสถานที่เก็บฟิล์มเหล่านี้ไว้ ม้วนหนัง 16 มม.กว่า 200 ม้วน ม้วนหนัง 35 มม.เป็นเป็นร้อยๆ ม้วน ได้เสียหายไปหมดแล้วเพราะพายุฝนที่ตกกระหน่ำเมื่อหลายเดือนก่อน..สูญพันธุ์ไปทั้งกรุแล้วครับ..
ฟิล์มจากกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด นั้นเป็นฟิล์ม 35 มม.ช่วงปี 2514-2524
ซึ่งเราโชคดีมากๆ ที่อาจารย์ประนอมให้ยืมมาฉายทำภาพไว้ก่อน แต่ฟิล์มกรุหนังขายยาอุดรตามภาพข้างล่างนี้ ตอนนั้น ผมเองก็ยังคุยต่อไม่ได้เพราะผู้ดูแลบอกว่า มีคนอื่นมาขอแล้ว..ถ้าเขาไม่เอา จะโทรมาบอกผม..ผมก็เลยทำใจรีๆรอๆ อยู่นาน แต่ไม่นึกเหมือนกันว่า ฟ้าฝนและธรรมชาติจะลงโทษแรงขนาดนี้ หนังทั้งกรุเสียหาย เปียกน้ำฝนหมด..ถามว่า ผมเสียใจไหม ก็ต้องบอกว่า เสียใจครับที่เราไม่มีโอกาสจะได้เห็นหนังไทยเก่าๆ จากกรุนี้อีก ยิ่งมารู้ๆ ว่า กรุนี้ซื้อฟิล์ม 16 มม.เก็บไว้เยอะมากๆ เป็นหนังช่วงปี 2500-2513 ด้วย ก็ยิ่งเสียดายครับ ณ วันนี้ พวกเราก็มืดแปดด้านในการติดตามหากรุฟิล์มเก่าๆ แบบนี้แล้วเพราะไม่รู้ว่า จะมีใครเก็บฟิล์มไว้เยอะอย่างนีี้อีก..เสียดายที่ฟิล์มอุตส่าห์อยู่มานาน แต่ก็มาตายน้ำตื้นๆ แบบนี้ โกรธตัวเองที่มัวแต่รอๆๆๆๆ ไม่งั้นก็คงได้เห็นหนังไทยเก่าๆ อีกหลายสิบเรื่อง ซึ่งอาจมีเรื่องที่เพื่อนๆ คาดการณ์ไว้ด้วยครับ.. พรุ่งนี้ พวกเราหลายคนจะไปช่วยกันซ่อมฟิล์มกรุโรงหนังเฉลิมเอกที่เหลืออีกกันต่อนะครับ..ใครว่างจะแวะไปเยี่ยมเยียนก็เชิญนะครับ..จะได้ช่วยกันให้เสร็จเร็วๆ ครับ..
พรุ่งนี้ มีคิวฉาย ตำหนักเพชร ด้วยครับ
ไม่รู้ว่าจะเห็นมิตร-เพชรา มากแค่ไหน...
ครับ คิดว่า อีกไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ฟิล์มจากกรุโรงหนังเฉลิมเอก ก็คงจะซ่อมและฉายเสร็จสิ้น..แม้ว่า เราจะยังมีฟิล์มอีกชุดใหญ่ๆ ที่ยืมมาจากคุณโอ เทพมงคล ขอนแก่น รอคิวอยู่และยังมีฟิล์มที่เพื่อนๆช่วยกันไปหา ไปยืมมาอีกหลายเรื่อง รอคิวต่ออีกเช่นกัน จะเรียกว่า ช่วงนี้แทบไม่ว่างเลย แต่เวลาที่พวกเรานั่งซ่อมฟิล์มและฉายหนังกัน ก็ยังอดคิดถึงฟิล์มกรุอุดรฯข้างต้นนี้มิได้..ที่คิดๆ ก็คิดว่า ของมันเห็นๆ อยู่แล้ว แต่ทำไมมันต้องสูญพันธุ์ไปแบบง่ายๆ เช่นนี้.. เท่าที่ได้รับฟังมาเรื่องความรักความหวงฟิล์มของกรุอุดร ก็ไม่ต่างอะไรกับกรุโรงหนังเฉลิมเอก เพียงแต่วิธีการเก็บไว้เท่านั้นที่เขาเก็บต่างกัน กรุโรงหนังเฉลิมเอก อ.ประนอม เก็บฟิล์มไว้ในบ้านพักตัวเอง มองเห็นอยู่ทุกวันว่า ฟิล์มยังอยู่ ว่างๆ ก็ปัดกวาด ปัดฝุ่นเพราะเบื้องหน้าที่กองฟิล์มเหล่านั้นตั้งวางอยู่ ก็คือ ทีี่ตั้งรูปถ่ายบรรพบุรุษเจ้าของฟิล์มที่จุดธูปไหว้ทุกวัน.. แต่ฟิล์มกรุอุดรนั้น เขาเก็บไว้ในโกดังเก็บของเก่า มีเพียงบ้านคนงานอยู่ใกล้ๆ มีอะไรก็เอาเข้าไปกองๆ ไว้..ก็ไม่ว่ากันครับเพราะเป็นโกดังเก็บของ เขาก็เก็บอย่างนี้ตลอดมา ไม่เห็นเป็นอะไร แต่วันดีคืนดี หลังคาโกดังก็ผุก็พัง เมื่อเจอฟ้าเจอฝน ก็เปิดก็เปิงหมด น้ำฝนก็ไหลลงสู่กองฟิล์ม..แถมผนังรอบโกดัง ก็ผุพังไปเรื่อยๆ นึกภาพออกนะครับว่า ฟิล์มจะทนอยู่ได้อย่างไร ก็ต้องเปียก ต้องชื้นและต้องตายไปในที่สุด..
น่าเสียดายไหมครับ.. ฟิล์มเหล่านั้นเจ้าของไม่เคยคิดขายให้ใครเพราะเป็นของบรรพบุรุษเช่นกัน ตามธรรมเนียมแล้ว ถ้าใครไปถามซื้อ ก็เหมือนไปดูถูกดูแคลนเขาเพราะปัจจุบันเขาก็มีกิน ไม่เดือดร้อนอะไร คนที่ไปถามซื้อถามหาก็ต้องหน้าม้านออกมาหมด.. ซึ่งเขาไม่ขาย เขาก็ไม่ผิดอะไร.. ของๆ เขา เขาเก็บมานานเป็น 30-40 ปีแล้วครับ..ดังนั้น คนที่คิดจะเจาะก็เลยไม่กล้าเอ่ยปาก นั่นหมายถึง คนที่คิดจะเจาะแล้วนำไปขายต่อนะครับ..ความคิดที่จะต้องออกไปหาซื้อฟิล์มแบบนั้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว พวกเราก็เคยคิด แต่ก็จากประสบการณ์ที่พวกเราไปหาฟิล์มที่
หลวงพ่อที่วัดบ้านดง อุตรดิตถ์ เรื่อง ชุมทางหาดใหญ่
ที่ผ่านมา ทำให้รู้เราว่า การจะเข้าไปซื้อของเก่าเก็บนั้น ใช้ไม่ได้กับธรรมเนียมไทยๆ ผมยังจำคำหลวงพ่อวัดบ้านดงได้เลยว่า นี่ถ้ามาขอซื้อ ขอเอาไป ฉันก็ให้ไม่ได้ แต่นี่โยมมาขอฉาย ขออัดวีดีโอไป ฉันก็ให้ได้..
จากนั้นเป็นต้นมา พวกเราก็ไม่กล้าจะเอ่ยปากขอซื้อกับใครอีกเพราะกลัวเขาจะไม่ขาย..
กรุโรงหนังเฉลิมเอก
ก็เช่น บอกตรงๆ ว่าถ้าเราเอ่ยปากขอซื้อ ก็มีหวังจบเกมคือ ของเตี่ย ขายไม่ได้.. แต่เพราะเรามีกลุ่ม มีเพื่อน มีการใช้ฟิล์มในการเผยแพร่ ให้ความรู้แก่สาธารณะ ไม่ใช่เอาไปเก็บ ไปดูอยู่คนเดียว อ.ประนอมจึงให้พวกเรายืมฟิล์มมาได้ครับ.. กรุอุดรก็เช่นกัน ผมติดต่อไว้ก่อนนานเป็นเดือนๆ ก่อนที่จะไปหาอ.ประนอมเสียอีก แต่ก็ติดขัดตรงที่ว่า เจ้าของเขาบอกว่า มีคนมาขอแบบเราแล้ว.. แต่เขายังไม่มาเอา ถ้าเขาไม่มาเอา จะพิจารณากลุ่มของเราอีกทีหนึ่ง..นั่นแหละครับ ผมถึงรีๆรอๆ จนได้ข่าวพายุฝนถล่มฟิล์มเสียหายหมดครับ..
Regis Madec
ไม่เป็นไรครับคุณ มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต . เราพยายามดีที่สูดแล้ว. บ้างคนไม่อยากให้เราช่วยก็ลำบากมากครับ. อาจจะเป็นเวรกรรมของหนังไทยเก่าครับ. เราคิด งอนาคตดีกว่าครับ. ยังมีหลายเรื่องที่เราต้องช่วยครับ. ที่ลุงสมาน ศรีกระสอน เจ้าของบริการหนังกลางแปลง “แสงทวีฟิล์ม” ยังมีหนังไทยให้ช่วยใช่ไหมครับ?
วันนี้มีคุณภราดร แวะมาช่วยซ่อมฟิล์มทีบ้านครับ
แหม..สำนวนฝรั่งก็แรงนะครับ
คุณ Regis Madec..
ใช้คำว่า เป็นเวรกรรมของหนังไทยเก่า..ความจริงๆ ต้องบอกว่า เป็นกรรมของคนรอดูหนังด้วยครับ.. เพราะทุกวันนี้ ฟิล์มหนังไทยเก่าๆ นั้น ตามหาฟิล์มยากจริงๆ ที่เหลือๆ เห็นๆ ก็อาจจะเป็นฟิล์มชุดสุดท้ายแล้วก็ได้ อนาคตของหนังไทยเก่าจึงดูเหมือนไม่มีอะไรให้ได้หวังเลยครับ แต่ละกรุก่อนหน้านี้ก็เคยเจอทั้งฝนตก น้ำท่วม ดินโคลนถล่มมาแล้ว ฟิล์มก็มีชุดเดียวด้วย พอเจอเหตุการณ์แบบนั้น ก็หมดกัน หนังก็สูญพันธุ์ไป ผมถึงอยากให้คนที่มีฟิล์มหนังไทยเก่าๆ อยู่ในมือตอนนี้ คิดห่วงอนาคตด้วย อย่ารักอย่าหวงไว้คนเดียวเลยครับ แบ่งๆ กันมาทำสัญญาณภาพสำรองไว้ก่อนดีกว่าก่อนที่ฟิล์มจะเสียหายไปมากกว่านี้..
วันนี้ พวกเราสามคนบวกกับอีกหนึ่งคือ คุณภราดร ก็ช่วยกันซ่อมฟิล์มเพื่อจะฉายให้ได้ในวัันพรุ่งนี้..ก็บอกตรงๆ ว่า เหนื่อยครับ อายุมากๆ นั่งนานๆ ก็ปวดเมื่อยไปหมด..แรงกายชักจะถดถอย แต่แรงใจยังพอไหว ไหวเพื่อจะรอให้เห็นภาพเหล่านั้นกลับมาโลดแล่นบนจอหนังอีกครั้ง..วันนี้ก็ฉายหนังได้ไม่กี่เรื่องเพราะเราเน้นไปที่การซ่อมฟิล์ม.. ส่วนหนัง 16 มม.เรื่อง ตำหนักเพชร ฟิล์มก็โดนน้ำลอกเป็นแห่งๆ แต่พอดูได้ ฉายมายาวประมาณ 20 กว่านาที เป็นฉากท้ายๆ เรื่องแล้วครับ บทจะอยู่ที่ ธานินทร์ อินทรเทพ ที่เล่นเป็นลูกเพชรา เพชราออกให้เห็น 3-4 ฉาก ส่วนมิตร ชัยบัญชา นั้นออกฉากเดียว เล่นเป็นพ่อแล้วครับ...
วันนี้ ตอนนั่งกรอฟิล์มที่โดนละอองน้ำฝนและความชื้นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นหนังที่เพื่อนไปหามาได้ เป็นหนังที่หลายคนอยากจะดูครับ พระเอกคือ ไพโรจน์ สังวริบุตร..ปรากฏว่า ฟิล์ม 7 ม้วนนั้นโดนน้ำจนภาพลอกหมดเลย เห็นหน้าพระเอก-นางเอกเพียงแว่บๆ แล้วก็ภาพก็ลอกๆ แว่บๆ แบบนี้เรื่อยๆไปจนหมดทุกม้วน..คิดว่า ถ้าฉายได้ก็คงจะนำภาพลอกๆ เหล่านั้นมาใส่เพลงเอกของหนังให้ดูแทนนะครับเพราะเส้นเสียงก็ลอกเกือบหมด.. ไม่ฉาย ก็ไม่ได้เพราะเป็นหนังสำคัญจริงๆ .. ส่วนกรุฟิล์มของลุงสมานที่นครพนมนั้น ส่วนใหญ่เป็นหนังจีนครับ ที่เหลือๆ เป็นหนังไทย ก็เป็นหนังไม่ค่อยเก่าแล้วครับ...
สัจจะ มหาโจร
ลืมบอก..พี่มนัส..นักเลงมหาหิน...มีเหลือ3ม้วนกับ..หัวใจขายฝาก..ที่อยู่กับพี่แกละ..อุทัยธานี..ผมให้ข้อมูลไว้สมัยไทยฟิล์มแล้ว..คาดว่ายังไม่มีใครไปเอานะครับ
ประเดิม สง่าแสง
วันนี้
คุณแมกกี้มาช่วยซ่อมฟิล์มหนังกรุง ศรีวิไล ครับ
ครับ
นวลฉวี
สินจัย แสดงนั้น มีวีซีดีและดีวีดีลิขสิทธิ์ออกจำหน่ายนานแล้วครับ.. ขอบคุณคุณสัจจะ มหาโจร แจ้งข่าวเรื่องฟิล์มครับ.. วันนี้ คุณแม็กกี้มาเป็นแรงงานปะซ่อมฟิล์มให้ด้วยครับ.. ระหว่างซ่อมไป ตาก็ดูหนังจอโทรทัศน์ไปด้วย..ผลปรากฏว่า จะดูหนังเสียมากกว่า..เพราะคุณนุเล่นฉายหนังกรุง หลายเรื่องให้ดู ตาก็เลยจ้องแต่จอทีวีครับ..
ส่วนวันนี้ เราลองนำฟิล์มที่โดนน้ำลอกๆ มาฉายดู 5-6 ม้วนเพื่อจะเก็บภาพให้ได้ แต่ก็ลำบากครับเพราะเก็บได้แต่ภาพลอกๆ ของฟิล์ม ส่วนเนื้อหนังจริงๆ ได้น้อยครับ.. เรียกว่า เสียเวลาไปมากกับหนังฟิล์มลอกๆ แต่ก็ต้องทนทำไปเพราะนี่อาจเป็นก๊อบปี้สุดท้ายที่เราเจอครับ. กะไว้ว่า ถ้าจะฉาย ก็คงจะใช้เพลงเอกของหนังมาวางประกอบแทนเสียงเดิมที่ไม่ชัดครับ.. เกือบลืมไป เมื่อวานนี้วันที่ 5 กรกฎาคม 2557.. ซึ่งก็เป็นวันครบรอบ 9 ปีแล้วที่ผมเริ่มเขียนบอกกล่าวเล่าเรื่องราวหนังไทยในอดีตผ่านระบบอินเตอร์เน็ต..ผมเขียน "ชุมทางหนังไทยในอดีต" ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 ที่เว็บไทยฟิล์ม... และก็มาต่อที่ระบบ facebook นี้.. มาถึงวันนี้ก็ทำให้ได้รู้จักเพื่อนๆ ที่รักหนังไทยเพิ่มมากขึ้น ได้พากันช่วยกันทำให้หนังไทยเก่าๆ กลับฟื้นคืนมาอีกหลายเรื่อง..แม้จะเป็นงานที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แต่พวกเราก็ทำด้วยความภาคภูมิใจ.. นี่แหละครับที่ว่า คุณค่าหนังไทย อยู่ที่ใจของคุณ.. ขอบคุณทุกท่านที่อยู่ร่วมกับเรามาโดยตลอด..
Sitha Yoothong
ขอบคุณครับ คุณมนัสที่อนุรักษ์หนังไทย แม้จะเป็นงานที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แต่ก็ทำด้วยความภาคภูมิใจ..มองอีกด้านคุณมนัสเป็นคนโชคดีมากกว่าอีกหลายคนที่มีความคิดเดียวกันกับคุณมนัส แต่ไม่สามารถจะทำได้อย่างคุณมนัส และไม่มีโอกาสทำแบบเช่นคุณมนัส ผมว่ามีคนแบบนี้มากมายที่เฝ้ามองเอาใจช่วยอยู่ครับ
ตอนนี้ กำลังคิดๆ ว่า เมื่อเสร็จจากฟิล์มกรุโรงหนังเฉลิมเอกแล้ว ก็จะเร่งฟิล์มที่ยืมมาจากคุณโอ เทพมงคล ขอนแก่น ทันที..กะเอาไว้ว่า ถ้าเสร็จแล้ว ก็จะนำฟิล์มไปคืนอาจารย์ประนอมและไปคืนฟิล์มให้คุณโอวันเดียวกันเลย.. ไล่วันดูคร่าวๆ แล้ว น่าจะเป็นราวๆ ช่วงวันหยุดวันแม่เดือนสิงหาคม 2557 นี้นะครับ..
ช่วงเข้าพรรษานี้ มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน กะว่าจะเร่งทำฟิล์มกรุโรงหนังเฉลิมเอกกับฟิล์มของคุณโอ เทพมงคล ให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะได้กำหนดวันเดินทางไปร้อยเอ็ด-ขอนแก่น กันนะครับ..
วันที่พวกเราฉาย
"ตำหนักเพชร" มิตร-เพชรา
ซึ่งอาจารย์จรัสกับคุณอานนท์เธียเตอร์ ยืมฟิล์มมาให้ม้วนหนึ่งนั้น..สิ่งที่พบก็คือ ฟิล์มหนังทั้งม้วนซึ่งยาวประมาณ 20 นาที โดนความชื้นจากละอองน้ำเข้าไปในเนื้อฟิล์ม จึงทำให้เนื้อฟิล์มทั้งม้วนเสียหาย จะมีก็บางส่วนที่มีภาพพอให้เห็นบ้าง แต่โดยรวมๆ ดูแล้วเหนื่อยใจครับ..อย่างเฟรมนี้ กว่าจะได้ภาพนิ่งของเพชรามาเฟรมหนึ่ง ก็ไล่แทบตาย...
ตำหนักเพชร เป็นหนังปี 2507 โดย มิตร-เพชรา
จะรับบทในชั้นพ่อ-แม่แล้วครับ..ทั้งม้วนที่ได้มานั้นมี มิตร ชัยบัญชา ออกฉากนี้ฉากเดียวครับและภาพที่ออกมาก็ลอกๆ เบลอๆ จนเกือบไม่เห็นหน้าแล้วครับ..
ส่วนผู้ที่ได้รับบทเด่นๆ ใน
ตำหนักเพชร
ก็จะเป็น
ธานินทร์ อินทรเทพ
ซึ่งดูแล้วน่าจะเล่นเป็นลูกชายของเพชรา แต่ตอนต้นๆ จะไม่รู้ว่าเป็นแม่ตัวเอง เพิ่งมาเฉลยในม้วนที่เราได้ฟิล์มมาครับ.. ตอนนี้ กำลังรอน้องเจ ธนภัทร ว่าจะมีเพลงในหนังหรือไม่ ถ้ามีก็คงจะใส่เพลงประกอบและนำมาโพสเพื่อไม่ให้กลายเป็นหนังสูญพันธุ์นะครับ..
ครับ ใกล้จะถึงวันเข้าพรรษาแล้ว.. เข้าพรรษาปีนี้ พวกเราหลายคนจะไปจำศีลอยู่ที่บ้านคุณนุ..แต่ว่าไม่เกี่ยวกับพิธีทางศาสนาอะไรหรอกครับ เพียงแต่ว่า พวกเราจ้องหาวันหยุดยาวๆ แบบนี้เพื่อจะช่วยกันเร่งซ่อมฟิล์ม ฉายฟิล์มกันให้เสร็จเร็วๆ กรุโรงหนังเฉลิมเอกนั้นคงไม่มีปัญหาแล้วเพราะเหลือฉายอีกไม่กี่เรื่อง ก็เสร็จ ก็ปิดกรุได้.. ถัดมาก็ยังเหลือฟิล์มอีกชุดใหญ่ๆ ที่พวกเราไปหอบหิ้วมาจากบ้านคุณโอเทพมงคล ขอนแก่นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 57 ก็กะกันเอาไว้ว่า ยังไงยังไง ก็ต้องให้เสร็จให้หมดภายในวันหยุดยาวนี้ให้ได้.. แต่ยังครับ ยังไม่หมด เสร็จจากกรุคุณโอแล้ว ก็ยังมีฟิล์มอีกหลายเรื่องที่เพื่อนๆ หามาให้อีก..พวกเราก็จะรีบทำเหมือนกัน ใครว่างจะแวะไปเยี่ยม ไปหา เชิญได้นะครับ.. เหตุที่พวกเราต้องเร่งเต็มทีก็เพราะพวกเรามีภารกิจจะต้องเดินทางไปส่งฟิล์มคืนอาจารย์ประนอมที่ร้อยเอ็ดอีก ซึ่งคาดว่า อาจจะเป็นเสาร์-อาทิตย์ก่อนถึงวันแม่แห่งชาตินะครับ ช่วงนั้นมีวันหยุดยาว 4 วัน.. 3 ทุ่มแล้วครับ.. คงต้องรีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ปฏิบัติการช่วยหนังไทยจากกากฟิล์มก็จะเริ่มขึ้น..
ถ้าเป็นสมัยก่อน พอถึงวันหยุดยาวๆ แบบนี้ มหรสพที่ขายดีที่สุดก็คือ โรงหนังหรือหนังกลางแปลง..แต่มาถึงปัจจุบัน วันหยุดยาวๆ แบบนี้ ผู้คนก็มีทางเลือกอื่นๆ ในการแสวงหาความสุขความสำราญ.. หนังไทยเก่าๆในอินเตอร์เน็ตก็เหมือนกันครับ ถึงวันหยุดยาวๆ คราใด ก็เป็นอันเงียบเหงาเพราะเพื่อนๆ จะหายหน้าไปธุระอื่นๆ กันหมด..เป็นธรรมดาครับเป็นธรรมดา.. ช่วงนี้ ผมกับเพื่อนก็เลยมุ่งหน้าจะไปเร่งทำหนังเก่าๆ ที่ค้างกันอยู่ให้เสร็จไวๆ ครับ..
มัวแต่เร่งซ่อมฟิล์มกัน ก็นึกๆ แต่ว่าเป็นวันหยุดยาวๆ ก็เลยไม่คิดจะไปไหนกัน เราสามคนนั้นใจมันอยู่ที่ฟิล์ม.. ครับ ระหว่างฉายหนัง คุณโต๊ะพันธมิตรก็โทรมาถามว่า ไปคลองถมหรือเปล่า วันนี้วันเสาร์แล้วน่ะ.. ผมก็บอกว่า ไม่ได้ไปครับ ผม นุและจุ๊บ กำลังซ่อมฟิล์มอยู่ครับ แต่ไม่แน่ว่าจะมีเพื่อนๆ คนอื่นๆ ไปคลองถมหรือเปล่า.. แล้วคุณโต๊ะก็ถามว่า ทำหนังอะไรบ้าง....... คุยกันเสร็จ แกก็บอกว่า ถ้างั้นไม่เข้าคลองถมแล้วล่ะ.. พอวางหูปุ๊บ นุก็ถามว่า ใครโทรมา..ผมก็บอกว่า คุณโต๊ะโทรมาถามว่า พวกเราจะไปคลองถมหรือเปล่า..นุก็เลยบอกว่า ไปได้ไง ฟิล์มเต็มบ้าน..... แล้วก็บอกว่า ทำไม ไม่ชวนคุณโต๊ะมาคุยที่บ้านแทนล่ะ.. ช่วงนี้คลองถมไปไม่ได้อีกนาน.. เป็นอันว่า ตอนนี้วันเสาร์นั้น เพื่อนๆ คงไม่ได้เห็นหน้าเราสามคนอีกนานครับ..
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 กรกฎาคม 2014, 14:02:06 โดย นายเค
»
บันทึกการเข้า
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120 E-Mail
soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า หมายเลขบัญชี 210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขา บางเขน หมายเลขบัญชี 041-273435-0
ติดต่อ 0909040355
ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได
นายเค
Thaicine Movie Team
Moderator
พี่น้อง thaicine Gold member
กระทู้: 3814
พลังใจที่มี 616
เพศ:
Re: บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
«
ตอบกลับ #4 เมื่อ:
17 กรกฎาคม 2014, 14:02:22 »
และแล้ว สิ่งที่พวกเรารอคอยก็มาถึง..วันหยุดยาวๆ ที่ผ่านมา เราสามคนคือ ผม คุณนุ คุณจุ๊บ ก็ช่วยกันเร่งหนังกรุโรงหนังเฉลิมเอก จนหมดแล้ว จากนั้นก็ไปเร่งฟิล์มของคุณโอเทพมงคล ขอนแก่น จนเสร็จเช่นกัน ตอนนี้ก็เหลือเพียงแต่ ตัดต่อ ลำดับภาพและแปลงไฟล์เก็บไว้ครับ..ตอนนี้ ก็มานั่งคิดๆ กันว่า เราจะนำฟิล์มไปคืนอาจารย์ประนอมและคุณโอเทพมงคลในคราเดียวกันเลย ลองไล่ๆ ดูวันหยุดแล้ว เห็นทีจะอยู่ในช่วงวันหยุดยาวๆ ที่ใกล้วันแม่แห่งชาติครับ..อาจจะเป็นวันเสาร์ที่ 9-10 สิงหาคมนะครับ..กำลังคิดว่า เราจะตรงไปขอนแก่นก่อนและมา ร้อยเอ็ด.. หรือว่าจะไปร้อยเอ็ดก่อน แล้วไปขอนแก่น ดีครับ..
ขอบคุณคุณมานะ หวายทิพย์ มากๆครับที่ช่วยเหลือพวกเราตลอดมา..วันที่ที่เราคิดจะเดินทางนั้นเป็นวันหยุดยาวหลายวัน อาจมีเพื่อนหลายคนติดธุระเยี่ยมญาติเหมือนกัน แต่ผมก็ยังอยากฟังความเห็นอยู่นะครับ.. ส่วนแตง โปสเตอร์ นั้นถามตลอดทุกครั้งเวลาจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดว่า ค้างคืนใช่มั้ยคะ... ก็ระยะทางไป-กลับเกือบพันกิโล ไม่ค้างได้งั้นครับ..
Aartoanr Roopchom
ขอบคุณพี่มานะเป็นอย่างมากครับที่คอยช่วยเหลือพวกและให้การต้อนรับพวกเราอย่างดีเยี่ยมเสมอมา ในตัวแล้วไปวันหยุดยาวก็ดีครับมนัสพวกเราจะได้มีเวลาไม่รีบร้อนมากหนักส่วนจะไปขอนแก่นก่อนหรือไปร้อยเอ็ดก่อนก็แล้วแต่สดวกครับแต่ที่แน่ๆมันต้องค้างคืนครับน้องแตงคนสวยถ้าจะตีรถไปกลับก็สงสารพี่เที่ยงแกส่วนจะข้างคืนที่ใหนนั้นพวกเราค่อยมาตกลงกันอีกทีหนึ่งละกันครับ เราไปด้วยแน่นอนครับมนัส
ตุ๊กตา จินดานุช
สูตรเดิม ถ้าน้อง แตง ไป พี่ถึงจะไปได้ และได้ไปถ้ามีที่พอนะคะ แต่เกรงว่าคราวนี้คงลำบาก เพราะจะเป็นการขนฟิล์มมากกว่าเดิม หรือหากมีสตรีท่านใดอยากร่วมเดินทางไปด้วยคราวนี้ คุณ มนัส คงต้องอนุมัติ คราวนี้เนาะ ! ก็เราได้ไปมาแว๊ววว ! แต่ในใจ.. อยากไปอีกอ่าาา อิ !
เมื่อตอนบ่ายๆ ผมโทรไปหาคุณโอ เทพมงคล ขอนแก่น ลองถามดูแล้วว่า ถ้าวันที่ 9-10 สิงหาคมนี้ จะอยู่หรือเปล่า พวกเราจะนำฟิล์มไปคืนให้.. ก็ได้รับคำตอบว่า อยู่ๆ ครับ ไม่ได้ไปไหน..แต่ระหว่างคุยกันนั้นก็มีเสียงดังๆ เข้ามาตลอด ผมก็เลยถามว่า เสียงอะไรดังจัง คุณโอก็บอกว่า กำลังอยู่แถวๆ ศาลหลักเมือง ขอนแก่น คืนนี้มีฉายหนังแก้บนกันอีกครับ..
สรุปว่า
พวกเราคงเดินทางไปร้อยเอ็ด-ขอนแก่นในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 9-10 สิงหาคมนี้นะครับ.. ฟังๆจากคุณมานะ หวายทิพย์ แล้ว เราคงต้องไปโคราชก่อนเหมือนเดิม แล้วค่อยเดินทางไปร้อยเอ็ดพร้อมกัน เพื่อคืนฟิล์มและเก็บฟิล์มใส่กระเป๋าให้อาจารย์ให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อไปหาคุณโอที่ ขอนแก่น นะครับ.. ระยะทางจากร้อยเอ็ดไปขอนแก่นก็เพียง 120 กว่ากิโลเมตร.. ขอฟังความเห็นเพื่อนๆ ที่จะร่วมเดินทางไปหน่อยครับว่า จะค้างที่ร้อยเอ็ด แล้วเช้าค่อยเดินทางไปขอนแก่น หรือว่า จะไปค้างที่ขอนแก่นดีครับ..ไปขอนแก่นครั้งนี้คุณโอก็มีฟิล์มเก่าๆ ให้เราช่วยค้นด้วยครับ.. ฝากพี่มานะช่วยบอกอาจารย์ประนอมด้วยนะครับว่า ถ้าเราไปวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ท่านจะอยู่บ้านหรือเปล่าครับ..ถ้าได้คำตอบแล้ว ผมจะรีบจองรถตู้พี่เที่ยงทันทีเพราะกลัวว่า วันหยุดยาวๆ แบบนี้ รถจะไม่ค่อยว่างครับ..
นี่คือ หนังเรื่อง
ไอ้เหล็กไหล ปี 2518
ซึ่งเหลือกากฟิล์มมาเพียง 2 ม้วนสั้นๆ ถึงแม้ว่า คุณโต๊ะพันธมิตรจะทำวีซีดีออกจำหน่ายจากกากฟิล์มอีกชุดหนึ่งแล้ว แต่เราก็ยังอยากลองฉายดูว่า ฟิล์มชุดนี้จะมีเส้นฝนมากน้อย แตกต่างกันอย่างไร.. และเรื่องนี้เองที่เราตัดสินใจฉายเป็นเรื่องสุดท้ายของกรุโรงหนังเฉลิมเอก.. ครับ..วันนี้ก็เลยนำภาพนิ่งจากฟิล์มมาฝากครับ.. ส่วนเรื่องการเดินทางไปร้อยเอ็ดในวันที่ 9-10 สิงหาคมนี้นั้น ผมโทรไปจองรถตู้พี่เที่ยงแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ เขากำลังจะเปลี่ยนคิวให้เรา ถ้าแลกได้ จะรีบโทรมาบอกผม..ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ เราต้องหารถตู้คันอื่นแทนนะครับ.. วันเสาร์นี้คิดว่า ไปคลองถมได้นะครับ ถ้า
คุณ Eak Kung
ว่างๆ ก็แวะมาเจอกันหน่อยนะครับ มีของจะให้นะครับ.. ส่วนเพื่อนๆที่จะเดินทางไปคืนฟิล์มด้วยในครั้งนี้ ว่างๆ ก็แวะมาคุยกันได้นะครับ..
Sompot Kongrod
หนังเรื่องไอ้เหล็กไหล เป็นหนังดังมากๆของสมบัติ เมทะนี ต่อจากหนังเรื่องคมเคียว ซึ่งโด่งดังในปี พ.ศ.2516 และต่อมาสมบัติ เมทะนีก็กลับมาโด่งดังอีกครั้งในภาพยนต์เรื่องชุมแพ ซึ่งแสดงคู่กับนางเอกใหม่ชื่อธัญรัตน์ โลหะนันท์ ในราวปี พ.ศ.2520
พี่เทีี่ยงคนขับรถตู้โทรมาหาผมแล้วครับ.. คุยกันแล้วก็เลยต้องเปลี่ยนวันเดินทางเป็นวันอาทิตย์-จันทร์ที่ 10-11 สิงหาคมแทนนะครับ.. ผมจองรถไว้แล้วครับ คาดว่าจะเดินทางได้จำนวนเท่าเดิมคือ 7 คนครับ ท่านใดจะไปด้วย แจ้งชื่อได้เลยครับ.. แล้วท่านใดว่างๆ วันเสาร์นี้ คุยกันที่ร้าน เคเอฟซี คลองถม นะครับ
ว่างๆ จากภารกิจช่วยหนัง พวกเราก็ไปนั่งพูดคุยกันเพื่อหาแหล่งข่าว จะช่วยหนังกันต่อไป..เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา พวกเราก็ไปกันหลายคน บางคนก็นัดกันมาก่อน บางคนก็มาแบบไม่ได้นัด..ภาพนี้จากกล้องพี่ตุ๊กตา จินดานุช ถ่ายไว้นะครับ..แรกๆ พี่ตุ๊กตาก็คิดว่า จะมาคุยกันและมาฝากเงินช่วยค่าเดินทางไปคืนฟิล์มที่พวกเราจะเดินทางไปร้อยเอ็ดในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ เพราะทีแรกคิดว่า คุณแตง โปสเตอร์ จะไม่ได้เดินทางไปด้วยในครั้งนี้ แต่พอทราบว่า สาวแตงโปสเตอร์ จะร่วมเดินทางไปด้วยตามสูตรเดิม พี่ตุ๊กตาก็รีบตกปากรับคำร่วมเดินทางไปกับพวกเราอีกครั้งหนึ่ง..และเท่าที่ผมสอบถามดู ก็เป็นอันว่า พวกเราไปได้ครบ 7 คนเหมือนเดิมครับ. ยังไง ผมฝากพี่มานะ หวายทิพย์ ช่วยแจ้งอาจารย์ประนอมให้ทราบล่วงหน้าด้วยนะครับ..
แล้วที่เห็นๆ ในภาพนี้ ก็จะมีคุณโต๊ะพันธมิตร มาคุยด้วย ถัดไปก็เป็น
น้องบัว หทัยชนก มงคล คุณ Maxkie Mitt คุณนุ น้องเจเมืองไทย ภัทรถาวงศ์ แล้วก็พี่แต๋ว แฟนพันธุ์แท้ มิตร ชัยบัญชา..
ก็คุยๆเรื่องหนังไ่ทยเก่าๆ แล้วก็คุยเรื่องที่คุณโต๊ะพันธมิตรไปกำกับหนังเรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง เวอร์ชั่นล่าสุดนี่แหละครับ.. พอคุณโต๊ะรู้ว่า พวกเราจะไปร้อยเอ็ด ไปขอนแก่น ก็เลยนั่งนึกๆ ว่า แถวนั้นจะมีแหล่งฟิล์มเก่าๆ ที่ไหนอีก..แล้วก็นึกออกมาที่หนึ่งที่คุณโต๊ะเคยไปเอาใบปิดหนังมาเมื่อปีหรือสองปีที่แล้ว ตอนนั้นเห็นในบ้านเขามีฟิล์มหนังเก่าๆ อยู่ด้วย ซึ่งเป็นอำเภออยู่ไม่ไกลจากขอนแก่น นัก.. แต่คุณโต๊ะก็บอกว่า ถ้าจะไปจริงๆ ก็ให้เราสอบถามคุณโอ เทพมงคลก่อนว่า เคยไปเอามาก่อนหรือไม่ เพราะตอนนั้นคุณโต๊ะได้แจ้งข่าวนี้แก่คุณโอด้วยเพราะตอนนั้น พวกเรายังไม่ได้ทำโครงการช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม 35 มม. เดี๋ยวผมจะเช็คข่าวจากคุณโออีกครัั้งหนึ่งเพราะถ้าแหล่งข่าวนี้ยังมีอยู่ เราอาจจะต้องเปลี่ยนแผนการเดินทาง เราจะอาจจะไปคืนฟิล์มอาจารย์ที่ร้อยเอ็ด แล้วก็ไปค้างคืนที่ขอนแก่น หรืออาจจะสุ่มๆ ไปค้างที่แหล่งข่าวนี้ระบุเลยก็ได้ จะได้มีเวลาค้นหาฟิล์มให้มากขึ้นนะครับ..
อานนท์เธียเตอร์-อ.จรัส จันทร์พรหมรัตน์ มีงานอีกแล้วครับ...
คลิกดู..
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=261892374009834&set=a.169966823202390.1073741826.169961976536208&type=1&theater
เช้าวันที่ 8 มิถุนายน 2557 ตอนที่เพื่อนเรากำลังไปถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกที่ บึงพลาญชัย ร้อยเอ็ด..ผม คุณนุ คุณจุ๊บ ก็เดินตามอาจารย์ประนอม เดินดุ่มๆไปยังสถานที่แห่งนี้เพราะพี่สาวของคุณมานะ หวายทิพย์ บอกว่า แต่ก่อน ณ ที่แห่งนี้เขาเคยฉายหนัง 16-35 มม.เขาอาจจะเก็บฟิล์มไว้บ้าง ลองไปถามดู.. พวกเราน่ะไม่รู้จะเริ่มต้นกันอย่างไร..ก็ร้อนถึงอาจารย์ประนอมทันที ท่านพาเราสามคนเดินดุ่มๆ ไปหาคนในบ้านหลังนี้..ถามๆๆๆ แล้วก็ได้ความว่า ขายฟิล์มทิ้งไปหมดนานแล้ว..ตอนนี้ไม่มีแล้ว..พวกเราก็พากันกลับโรงแรมที่พักเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ..แต่ก่อนจะกลับ อาจารย์ประนอมให้กระดาษน้อยๆ ผมแ่ผ่นหนึ่ง ผมเปิดออกอ่านดู เป็นชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของบริการหนังแห่งหนึ่ง..พอผมอ่านชื่อออกมาและพูดเปรยๆว่า เขาขายไปหมดแล้ว ไม่ใช่หรือ..อาจารย์ประนอมก็บอกว่า เออน่า..ลองโทรไปคุยดู..ผมก็เก็บหมายเลขโทรศัพท์นั้นจนถึงวันนี้..แล้วเมื่อภารกิจฟิล์มกรุโรงหนังเฉลิมเอกเสร็จสิ้นลง เรากำลังจะเดินทางไปคืนฟิล์ม ผมก็ลองโทรศัพท์ไปตามหมายเลขที่อาจารย์เขียนให้ ผมก็แนะนำตัวว่า ได้เบอร์มาจากอาจารย์ประนอม แล้วก็ถามถึงว่า ยังพอมีฟิล์มหนังเก่าๆ รุ่นฟิล์มดำหรือฟิล์มธรรมดาอยู่หรือไม่..ปลายสายตอบว่า ยังพอมีอยู่ แต่ต้องค้นดูก่อนว่ามีเรื่องอะไรบ้าง..ผมก็เน้นว่า เราอยากได้ฟิล์มเก่าๆ ขอให้เป็นหนังไทย จะสีแดงก็ไม่เป็นไร ยิ่งถ้าได้รุ่นสมบัติหรือกรุงด้วย ก็ยิ่งดีครับ ลองค้นๆให้หน่อย..
จากนั้นผมกับพี่คนดังกล่าวก็พากันคุยเรื่องกิจการหนังกลางแปลงเก่าๆ ในอดีตที่พี่และผมมีเหมือนๆ กัน..เรื่องชักสนุกแฮะ ผมก็เลยบอกว่า ผมจะเดินทางเข้าไปหาอาจารย์ประนอมวันที่ 10 สิงหาคมนี้ พี่ว่างหรือเปล่า แล้วผมจะแวะไปหาน่ะครับ.. เผื่อจะได้ฟิล์มอะไรกลับมาบ้าง.. ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง.. นอกจากนี้ เมื่อบ่ายๆที่ผ่านมา ก็มีเพื่อนคนหนึ่งเขียนในกล่องข้อความถามว่า หนัง 3 เรื่องนี้(บอกชื่อให้) เคยนำมาเทเลซีนแล้วหรือไม่ ผมก็ต้อบว่า ยัง.. เพื่อนคนนี้ก็ใจดีครับบอกว่า ฟิล์มยังอยู่ที่เขา เขาเก็บไว้ จะให้ยืมมาทำภาพไว้ก่อน..ก็คิดว่า จะขึ้นไปเอาพร้อมๆ กันกับวันไปคืนฟิล์มอาจารย์ประนอมนี่แหละครับ..
(ปล.เรื่องหนึ่ง พันนา เล่น..อีกเรื่องหนึ่งมี มี ยอดรัก สลักใจ ด้วยครับ....)
เมื่อวานนี้ หลังจากที่พี่มานะ หวายทิพย์ บอกว่า ให้หลานสาวติดต่ออาจารย์ประนอมแล้วว่า พวกเราจะเดินทางไปหาอาจารย์ วันที่ 10 กรกฎาคม 2557 นี้.. ผมก็นั่งคิดๆ ว่า ตกลงเราจะค้างคืนกันที่ไหนดี ระหว่างร้อยเอ็ดกับขอนแก่น..เพราะยังตัดสินใจไม่ได้ ทางขอนแก่นก็มีฟิล์มให้เราไปหา..แล้วทางร้อยเอ็ดก็เริ่มมีความหวังเล็กๆ ขึ้นมาเพราะเบอร์โทรที่อาจารย์ประนอมให้ผมไว้นั้น ปลายสายบอกว่า ยังพอมีฟิล์มดำเก็บไว้บ้าง แต่ขอเวลาค้นๆ ดูก่อนว่า จะเป็นเรื่องอะไร..
ระหว่างที่คิดๆ อะไรเรื่อยเปื่อยนั้น บ่ายๆ อาจารย์ประนอมก็โทรมาหาผม..
“..ลูกๆ จะมาหาแม่วันไหน จะค้างคืนไหม แม่จะจองโรงแรมไว้ให้..” เสียงจากอาจารย์ประนอมที่เรียกพวกเราว่า “ลูกๆ” และแทนตัวท่านว่า “แม่” ดังขึ้นมาทันทีที่รับสาย
พอผมตอบว่า ไปถึงบ่ายๆ
วันที่ 10 สิงหาคม..
ไปกัน 8 คนเหมือนเดิม ชุดเดิมทั้งหมด แล้วผมก็บอกว่า ตอนนี้กำลังคิดๆ อยู่ว่า จะต้องค้างที่ไหนระหว่างร้อยเอ็ดกับขอนแก่น ท่านก็บอกว่า ตกลงได้ยังไง รีบบอกแม่น่ะ ถ้าเป็นค้างที่ร้อยเอ็ด จะได้ไปจองโรงแรมให้...
ระหว่างพูดคุยกันนั้น ผมก็บอกถึงเรื่องที่ผมโทรไปคุยกับคนฉายหนังอีกคนหนึ่งที่อาจารย์ให้เบอร์โทรไว้ โดยบอกว่า เขายังพอมีฟิล์มดำเก็บไว้บ้าง.. อาจารย์ประนอมก็รีบบอกว่า “เอาอย่างนี้ เดี๋ยวแม่จะไปหาเขา เผื่อว่าจะได้รู้ว่าเป็นหนังเรื่องอะไรบ้าง ถ้าขอฟิล์มเขามาได้ ก็จะเอามาไว้ที่บ้านแม่เลย ลูกๆ จะได้ไม่เสียเวลา...”
ผมก็บอกว่า ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องไปเร่งเขา เอาไว้ไปถึงวันนั้น ค่อยไปหาก็ได้ครับ จะได้พูดคุยกับเขาด้วย..
อาจารย์ประนอมก็บอกว่า “ไม่เป็นไร คนนี้แม่รู้จัก เดี๋ยวแม่จัดการเอง...”
นี่แหละครับ อาจารย์ประนอมที่นอกจากจะให้พวกเราหยิบยืมฟิล์มมาฉายแล้ว ตอนนี้ ท่านก็ยังช่วยเป็นธุระ ช่วยประสานงานให้พวกเราด้วย.. ท่านทำให้ขนาดนี้ ก็อดไม่ได้หรอกครับที่จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังครับ...
จริงๆ แล้ว พวกเราเกรงใจอาจารย์ประนอมมากๆ ครับ แต่ผมก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูด...เพราะผมเคยพูดเปรยๆ แล้ว ท่านก็บอกว่า ถ้าเกรงใจนัก ก็ไม่ต้องมา..ก็เลยต้องเงียบครับ.. อย่างเรื่องฟิล์มหนังที่อาจารย์ประนอมไปติดต่ออีกเจ้าหนึ่งให้นั้น ผมเองก็เกรงใจ อยากจะไปช่วยเขารื้อ ช่วยเขาหาด้วย แต่อาจารย์ประนอมก็บอกว่า แม่ไปคุยกับเขาแล้ว เขาบอกว่า จะรื้อค้นให้เอง ว่าเหลือหนังเรื่องอะไรบ้าง..ผมเองก็คุยกับเจ้าของหนังแล้วว่า จะเหลือน้อย เหลือมาก ไม่จบเรื่องก็ได้ ขอให้เป็นหนังไทยเก่าๆ รุ่นฟิล์มดำ ก็อยากได้ทั้งนั้นครับ. เหตุที่อาจารย์ประนอมท่านต้องไปช่วยจัดการให้พวกเรานั้นเพราะท่านกลัวว่า เราจะเสียเวลาเพราะผมบอกท่านว่า เราจะต้องไปคืนฟิล์มที่ขอนแก่นและไปหาฟิล์มที่อื่นอีกด้วย..พอเจอสถานการณ์อย่างนี้ ผมมานั่งคิดๆ แล้ว รู้สึกว่า อยากจะอยู่คุยกับอาจารย์นานๆ อยากจะพาอาจารย์ประนอมไปทานอาหารด้วยกัน ครั้งที่แล้ว พอเราเสร็จธุระ ก็ต้องรีบไปอาบน้ำและพี่มานะก็พาพวกเราไปทานอาหาร แต่อาจารย์ไม่ได้ไปด้วย..
ถ้าครั้งนี้ ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อก ก็คิดว่า เราจะใช้เวลานำฟิล์มเก็บคืนที่เก่าไม่นาน หากฟิล์มอีกเจ้าหนึ่งไม่ยุ่งยาก เราก็คงมีเวลาพูดคุยกันกับอาจารย์มากขึ้น และเราก็คงต้องนอนค้างที่ร้อยเอ็ดจะดีกว่า พอรุ่งเช้าสัก เราค่อยวิ่งรถไปขอนแก่นสักชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง จากนั้นก็คืนฟิล์มให้กับคุณโอ เทพมงคล.. และรับฟิล์มกลับมาอีก ถ้ามีเวลาพอ เราก็ลุยไปดูฟิล์มเจ้าอื่นอีก..คาดว่า บ่ายๆ เราก็ตีรถกลับกรุงเทพฯได้นะครับ...ท่านอื่นๆ ว่าอย่างไรบ้างครับ
คุณจารุณี ใจแก้ว ศิษย์เก่าก้นกุฏิ
"ชุมทางหนังไทยในอดีต"
มาแต่ยุคแรกๆ เมื่อปี 2553 แต่ก่อนก็อ่านก็เขียนคอมเม้นท์แทบเม็ด ไม่ตกหล่น แม้จะอายุไม่ทันหนังเก่าๆ ที่ผมเขียน แต่ก็พยายามศึกษา พยายามค้น มาถกมาถามกัน..แต่ระยะหลังๆ นี้คงค้นพบตัวเองว่า ชอบเพลง ชอบร้องเพลงมากกว่าหนัง ก็เลยหันไปเอาดีทางพูดเรื่องเพลงลูกทุ่งเก่าๆ บางเพลงก็เก่าเกิ้น เราเองยังไม่เคยฟังเลย..ทุกครั้งที่คุณจารุณีเห็นผมพูดถึงการเดินทางไปหากากฟิล์มหนังตามต่างจังหวัด ก็ได้แต่บ่นๆ ว่า อยากไปด้วยๆๆ แต่เพราะตัวอยู่ญี่ปุ่น ก็ไม่สะดวกจะไปจะมา..ก็มีเพียงเครั้งหนึ่งที่คุณจารุณีมาเมืองไทย พวกเราก็เลยชวนไปเที่ยวงานลานดารา มยุรา ธนะบุตร ที่หอภาพยนตร์ฯ ศาลายาครับ..
เวลาผมเอ่ยปากบอกเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊กว่า จะไปหาฟิล์มต่างจังหวัดหรือแม้แต่กระทั่งตอนที่บอกว่า คุณนุฯจะซื้อเครื่องฉายหนัง 35 มม.คุณจารุณีก็มีน้ำใจช่วยเงินมาด้วย.ใจก็คิดๆ ว่า ถ้ากลับเมืองไทยวันไหน ก็อยากจะร่วมขบวนการตามล่าหาฟิล์มหนังกับพวกเราด้วย.. แล้วเผอิญว่า ช่วงนี้ ผมทราบว่า คุณจารุณีบินกลับมาเยี่ยมบ้าน มาหาแม่ วันแม่ครับ..ผมก็เลยเข้าไปบอกในกล่องข้อความว่า พวกเราจะเดินทางไปร้อยเอ็ด-ขอนแก่น วันที่ 10-11 สิงหาคมนี้..ก็บอกไปทั้งๆ ที่รู้ว่า คงไปกับเราไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าไม่พูดไม่บอกก็จะเสียน้ำใจกันครับ.. มาดูว่าคุณจารุณีโอดอะไรในเฟสบุ๊กบ้างครับ..
บางครั้งบางที ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่า ภารกิจที่พวกเราๆ ทำๆอยู่ทุกวันนี้อยู่ในสายตาใครกันบ้าง..งานเผาศพ พันนา ฤทธิไกร เมื่อวานนี้ ทำให้ผมเจอคนหลายคนที่เพิ่งมาเผยตัวเมื่อเห็นหน้าผม เขาบอกว่า แอบส่อง แอบตามติดตามเรื่องราวของพวกเรามานาน แต่ไม่เคยแสดงตัวมาก่อนครับ.. มีหลายคนพูดกับพันนาว่า ถ้าวันนั้น พันนาไม่ขายที่ขายทางเอาเงินมาสร้าง เกิดมาลุย ภาค 1 ก็คงไม่มีชื่อพันนา ฤทธิไกร และก็ไม่มีวันนี้หรอกครับ.. 9 ปีมาแล้วที่ผมเขียนเล่าเรื่องราวทางอินเตอร์เน็ต แม้บางครั้งจะรู้สึกเหมือนอยู่โดดเดี่ยว เหมือนทำงานได้ไม่เต็มกำลัง อยากทำให้มากกว่านี้ แต่ก็ติดขัดหลายทาง คิดๆ ไป ถ้าวันนั้น ผมหยุดเขียน ผมก็คงไม่รู้หรอกว่า วันนี้ยังมีเพื่อนนิรนามอีกหลายคนแอบมอง แอบเป็นกำลังให้เราอยู่นะครับ.. เพิ่งมาเห็นปฎิทินว่า วันที่ 10 สิงหาคมนี้เป็นวันสารทจีนด้วยครับ..แล้วก็ยังอยู่ในช่วงวันแม่ด้วย..งวดนี้รถคงติดน่าดูครับ..
ตุ๊กตา จินดานุช
คิดอยู่เหมือนค่ะ แต่ดีที่เราเดินทางหลังเค้า 1 วัน และกลับก่อนเค้า 1 วัน แต่ไม่เป็นไรทัวร์เราจอดไปตลอดทาง 555 สังเกตุจากคราวที่แล้วนะคะ เลยไม่ห่วงเรื่องยืดเส้นยืดสายกับกระหายน้ำ..แต่สะเบียงคงต้องพร้อมเพรียงนะคะ..เรียงคิวรอกินมื้อเที่ยงตามปั้ม..มะไหว !!
แม้ว่า กากฟิล์มของอาจารย์ประนอมและของคุณโอ เทพมงคล พวกเราจะฉายกันหมดแล้ว แต่ก็ยังมีฟิล์มเก่าๆ อีกหลายเรื่องที่คุณจุ๊บหามาเซอร์ไพร์สคนฉายหนังอย่างเราๆ..แต่เพราะช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา พันนา ฤทธิไกร เสียชีวิต ผมก็เลยต้องสลับหนังพันนา ฤทธิไกร ขึ้นมาฉายทั้งอาทิตย์ บางเรื่องแม้ว่าจะทำรีมาสเตอร์ภาพไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ปรับแก้สี ก็เลยไม่ได้เข้าไปฉายหนังที่ค้างๆ อยู่.. เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็ว่าจะเข้าไปฉายหนังอีก แต่เพราะวีดีโอเทปที่ผมไปถ่ายงานพระราชทานเพลิงศพ พันนา ฤทธิไกร ครั้งแรกพอตัดต่อเสร็จ เสียงเกิดดีเลย์ขึ้นมา ก็เลยต้องแก้เสียงใหม่อีก..ว่าจะไปฉายหนัง ก็เลยไปไม่ได้อีก ต้องมานั่งแก้ดีเลย์..สุดท้ายก็เป็นเพราะคลิปที่ถ่ายๆ มานั้น ผมตัดๆ แยกเป็นคลิปย่อยๆ ได้ประมาณ 300 คลิป..
เครื่องคอมฯ อีกตัวก็เลยรวมสัญญาณไม่ไหว ไฟล์มันใหญ่เกินไป เสียงก็เลยดีเลย์.. ต้องใช้อีกเครื่องแทน จึงสำเร็จ.. แต่การที่เสียงดีเลย์นี้ก็ทำให้ผมมีโอกาสดูเทปแบบละเอียดขึ้น จึงทำให้มองเห็นหน้านักแสดงสตั้นแมนพันนาอีกหลายคนครับ ตอนถ่ายๆๆ ก็มองไม่รู้นะครับ.. กลับมาเรื่องไปร้อยเอ็ด-ขอนแก่น กันต่อนะครับ..งวดนี้ดูพวกเราๆ จะเงียบๆ ยังไงชอบกล..ไม่รู้ว่า คุณจุ๊บจะมีอะไรเซอร์ไพร์สกลางทางอีกหรือเปล่า.. คุณเล็กบอกอยากไปด้วย แต่งวดนี้คงไม่ไหวแล้วครับ ทั้งรถก็ปาไป 8 คนแล้ว.. ถ้าไปซักครึ่งตัวก็พอไหวนะครับ..
Praderm Sangaseang
อยากให้พี่เล็กไปด้วยจริงๆ แต่ฟิล์มประมาณ 200 ม้วนที่จะนำไปคืนอาจารย์ประนอมก็เต็มรถแล้วครับ ไป 8 คน มีที่ให้นั่งได้ 2 แถว ที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับก็วางฟิล์มเต็มพิกัด
วันที่ 10-11 สิงหาคมนี้
พวกเราก็จะเดินทางไปส่งฟิล์มคืนอาจารย์ประนอมที่ร้อยเอ็ด..ส่งฟิล์มคืนคุณโอที่ขอนแก่น.. มานั่งคิดๆ ดู มันก็ช่างประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ในอดีตจริงๆ นะครับ..
ผมเองเริ่มเก็บหนังที่เป็นวีดีโอเทปมาตั้งแต่ประมาณปี 2530 พร้อมๆ กับเริ่มหาเพื่อนที่รักหนังไทย คุยกันเรื่อยมา ส่วนใหญ่ก็จะเจอกันปีละครั้งสองครั้ง ครั้งที่เจอเพื่อนมากที่สุดก็ต้องเป็นงานรำลึกการจากไปของ มิตร ชัยบัญชา.. สมัยนั้นเรายังไม่เล่นอินเตอร์เน็ต ก็อาศัยเจอกันที่ตลาดคลองถม.. กระทั่งประมาณเดือนสิงหาคม 2541 ผมก็เจอกับคุณโต๊ะ พันธมิตร (แต่ตอนนั้น ต่างคนต่างไม่บอกว่าเป็นใครกัน.. ก็คบกันมาเรื่อยๆ คุยกันทุกวันเสาร์-อาทิตย์ที่คลองถม) จนเมื่อถึงวันงานรำลึก 28 ปีมิตร ชัยบัญชา วันที่ 8 ตุลาคม 2541 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง จึงทราบว่า คนที่ผมคุยด้วยคือ คุณโต๊ะ พันธมิตร นักพากย์ชื่อดัง เขานำหนังมิตร อัศวินดาบกายสิทธิ์ มาฉายในงานด้วย..
เราคบกันเป็นเพื่อนเรื่อยมา คุณโต๊ะมีความมุ่งมั่นที่จะหาฟิล์มหนังมิตรมาฉายให้เราดู.. ผมก็เห็นด้วยและคอยช่วยงานมาตลอด..กระทั่งเสร็จงานมิตรที่เฉลิมกรุง ก็ราวๆ ก่อนสิ้นเดือนตุลาคม 2541 เราก็รู้ว่าที่บริการมานะภาพยนตร์ สุรินทร์ เขามีฟิล์มหนังมิตรเรื่อง เพชรตัดเพชร อยู่ คุณโต๊ะก็อยากได้ฟิล์มมาฉายโรงอีก.. แต่เจ้าของไม่ยอม..แต่ยอมให้เราไปฉายดูได้ เราจึงเดินทางไปดูหนังเพชรตัดเพชร ที่จังหวัดสุรินทร์กัน.. และเมื่อดูหนังจบ นั่นนับเป็นก้าวแรกที่ทำให้คุณโต๊ะ พันธมิตร คิดจะช่วยหนังไทยเก่าๆ ให้กลับมาอีกในรูปแบบวีดีโอเทป
แต่ปฐมเหตุแห่งการช่วยหนังไทยจริงๆ ก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2542 หรือเมื่อ 15 ปีที่แล้ว.. วันนั้นเป็นวันแม่แห่งชาติ.. คนอื่นๆ เขาพากันไปหาคุณแม่ แต่คุณโต๊ะพาผมไปหาฟิล์มหนังเก่าๆ จะนำมาทำวีดีโอเทปครับ.. และก็บังเอิญเหลือเกินที่จังหวัดแรกที่ไปนั่นก็คือ ร้อยเอ็ด..และก็บังเอิญอีกที่ผมมาทราบภายหลังว่า กรุฟิล์มกรุแรกที่เราไปพบนั้น ก็ยังมาเกี่ยวข้องกับอาจารย์ประนอมเพราะคุณปรีชา พรหมเสน คนที่ไปหากากฟิล์ม 16 มม.มาให้พวกเรานั้น เขามาบอกในภายหลังว่า ไปขอฟิล์มมาจากอาจารย์ประนอมนี่แหละครับ..ตอนนั้นคุณปรีชาตั้งบริการหนังชื่อ ราชาภาพยนตร์ อยู่ร้อยเอ็ด คุณโต๊ะให้เขาช่วยหากากฟิล์มหนัง วันนั้น 12 สิงหาคม 2541 เราก็ได้ฟิล์มหนังมิตรเรื่อง ไทรโศก มา(ออกวีซีดีแล้ว).. และได้เศษฟิล์มเรื่องอื่นๆ เช่น น้องนางบ้านนา-บ้านสาวโสด-ลูกแมว กลับมาด้วย...
จากนั้นคุณโต๊ะก็มุ่งมั่นนำหนังไทยเก่าๆ มาออกวีซีดี-ดีวีดี...มาถึงวันนี้ คุณโต๊ะหยุดหาฟิล์มหนังแล้ว แต่พวกเรากำลังทำๆ อยู่ ทำทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่า จะหยุดลงอีกเมื่อไร.. หนัง 16 มม.ก็หาได้ยากแล้ว พวกเราก็เริ่มช่วยหนัง 35 มม.บ้าง จะได้ฟิล์มมาน้อยหรือมาก ก็ไม่เกี่ยง ขอให้เป็นหนังไทยเก่าๆ จะเป็นฟิล์มสีแดงๆ บิดๆ งอๆ เราก็เอา.. เอามาเพื่อทำภาพเก็บไว้ก่อนที่จะไม่มีภาพบนฟิล์มเหลืออยู่...
(ภาพประกอบ-คุณนุบอกว่า คุณโต๊ะเพิ่งหาเจอและส่งมาให้ดู.. เป็นภาพเมื่อตุลาคม 2541 วันที่ไปดูหนัง เพชรตัดเพชร ที่สุรินทร์..
จากซ้ายคือ ผม-คุณโต๊ะพันธมิตร-เก๋ ดอกคำหรือแรมโบ้ ที่เคยแสดงหนัง-อ๊อด เพื่อนผม
เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว)
Maxkie Mitt
จากวันนั้นจนถึงวันที่เราจะไปร้อยเอ็ดอีกครั้งนึง ก็เกือบ16ปีเต็มเลยนะครับพี่่มนัส เป็นเหตุบังเอิญ ทั้งวันและเดือนที่ตรงกัน รวมทั้งกรุของคุณแม่ประนอมด้วยเช่นกันครับ ในรูปนี้พี่มนัสเหมือนชาวมุสลิมมากเลยค้าบ อิ อิ อิ
16 ปีแห่งความหลัง..ภาพนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการที่คุณโต๊ะ พันธมิตร คิดจะทำวีดีโอหนังไทยเก่าๆ ออกจำหน่าย หลังจากที่เดินทางไปสุรินทร์เพื่อดูหนังเรื่อง เพชรตัดเพชร เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2541....
Maxkie Mitt
ภาพนี้แตกต่างกับภาพแรก ตรงฉากหลังที่เอาช้างออกไป ...เหมือนเลื่อนแต่ฉากหลังออกไป เหมือนเราชมละครเวทีเลยครับ ขนาดยืนยังรักษาตำแหน่งเดิมกันทุกคนเลยครับ พี่มนัส อิ อิ
ความจริงแล้ว ภาพนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย..เพราะตอนนั้นคุณโต๊ะไม่นิยมให้ใครถ่ายรูป แต่ว่าเพื่อนผมที่ชื่ออ๊อด (ขวาสุด ตายไปแล้ว) เขาก็เป็นนักพากย์ด้วย เขาก็อยากจะถ่ายรูปกับคุณโต๊ะพันธมิตร ก็เลยขอถ่ายหน่อย..ฝ่ายคุณโต๊ะก็บอกว่า อยากจะถ่ายกับคนตัวเล็กเก๋เก๋ ดอกคำ ที่เคยเล่นหนังสายอีสานกับพวกเฉลิมพล-ดาร์กี้ มาก่อนด้วย ก็เลยได้ถ่ายกัน 2 รูป ตอนนั้นเป็นกล้องฟิล์มด้วย..ผมก็เพิ่งเห็นรูปจากไลน์ที่คุณโต๊ะส่งให้คุณนุนี่แหละครับ..
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 สิงหาคม 2014, 01:01:54 โดย นายเค
»
บันทึกการเข้า
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120 E-Mail
soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า หมายเลขบัญชี 210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขา บางเขน หมายเลขบัญชี 041-273435-0
ติดต่อ 0909040355
ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได
นายเค
Thaicine Movie Team
Moderator
พี่น้อง thaicine Gold member
กระทู้: 3814
พลังใจที่มี 616
เพศ:
Re: บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
«
ตอบกลับ #5 เมื่อ:
30 กรกฎาคม 2014, 21:49:27 »
ใกล้จะถึงวันเดินทางไปคืนฟิล์มแล้วน่ะครับ..เดี๋ยวใกล้ๆ วันไป ผมกับคุณจุ๊บและคุณนุ ก็คงจะไปนับและเตรียมๆ จับฟิล์มใส่ถุงดำเตรียมไว้นะครับ..รถตู้เราจะวิ่งเส้นทางเดิมนะครับ เกรงใจพี่ตุ๊กตา จินดานุช ที่ต้องตื่นเช้าๆ ถ้าจะเปลี่ยนมารอขึ้นรถสายๆ เกือบ 7 โมงที่ตลาดนนท์กับผมก็ได้นะครับ.. ส่วน
พี่อี๊ด Aartoanr Roopchom กับ Maxkie Mitt
คงนัดหมายที่เดิม แต่อย่าลืมเดินไปรออีกป้ายหนึ่งนะครับ..ส่วนฟิล์มหนังของคุณโอนั้น ตกลงกันไว้ว่าเฉพาะฟิล์มทองหรือหนังใหม่ๆ ที่ครบจบเรื่องที่ใส่กระเป๋าหรือกล่องมานั้น ต้องคืนอยู่แล้ว แต่เฉพาะหนังฟิล์มสีเฟดๆ หรือฟิล์มธรรมดาที่ไม่ครบเรื่องนั้น คุณโอจะขอคืนแต่รืลเปล่าๆ นะครับ เราจะต้องกรอฟิล์มออกเก็บไว้ที่บ้านครับ..
ตุ๊กตา จินดานุช
พึ่งกลับจากพากย์หนังที่กันตนามาค่ะ เป็นแพคคู่พากย์กะลูกชาย อิ ๆ .. เลยยังไม่คลิกไลค์เม้นท์ข้างบนเพราะยังมองไม่เห็นรูปจากมือถือเลยนาก๊ะ !! สรุปขึ้นรถจุดเดิมตีห้าครึ่งถูกต้องไมก๊ะ ?
วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคมนี้ มีเพื่อนๆ คนไหน จะไปคลองถมบ้างครับ..ทีแรกผมก็คิดว่า เสาร์นี้อาจจะไม่ได้ไป แต่เพราะมีเหตุต้องทำธุระและจะเสร็จบ่ายแก่ๆ ครั้นจะเข้าไปบ้านคุณนุฯเพื่อฉายหนังอีก ก็คงจะไม่สะดวก ก็เลยคิดว่า จะแวะไปหาพี่แต๋วและเพื่อนๆ ที่คลองถมดีกว่า ไม่ได้ไปหลายเสาร์แล้วนะครับ..
เสาร์ที่แล้ว ก็ไปงานพระราชทานเพลิงศพ พันนา ฤทธิไกร ได้เห็นตัวเป็นๆ ของเพื่อนรุ่นน้องคนในซอยเดียวกันที่สุรินทร์ เราคบกันมาตั้งแต่เด็กๆ เวลามีหนังหรือมีอะไร ก็จะเดินเกาะกลุ่มกันไป..ผมไปเก็บเศษฟิล์มมาฉายเล่นๆ ใต้ถุนบ้าน เขาก็มาเล่นด้วย แต่ตอนโตๆ ขึ้นมาหน่อย เขาก็ไปเล่นยิมนาสติก ไปหัดเตะต่อยมวยจีน..ส่วนผมก็ไปหัดฉายหนัง พากย์หนัง..กระทั่งย้ายแยกกันไป ผมมาเรียนกรุงเทพฯ นานๆ จะกลับบ้านสุรินทร์สักครั้ง เวลากลับไป ก็ไม่ค่อยเจอเพื่อนๆ เหล่านั้น รู้อีกทีเพื่อนคนที่ชื่อ บรรพต กิหมื่นไวย์ Banphot ST ก็ไปอยู่แสดงหนังกับทีมพันนา ฤทธิไกร แล้ว ท่านคงเห็นจากหนังที่ผมนำมาโพสนะครับ..
แต่ในกลุ่มเดียวกันนี้ ก็ยังมีเพื่อนตัวเล็กๆ อีกคนหนึ่ง เราก็คบกันแบบเดียวกัน ไปไหนไปกัน ยิงนกตกปลา ก็พากันไป. ก็อีกนั่นแหละ มารู้อีกทีก็เห็นเพื่อนตัวเล็กๆ นี้อยู่บนจอหนังแล้ว พอเล่นหนังไปได้สักพัก ภูเก็ตแฟนตาซี ก็พาเพื่อนตัวเล็กๆ ไปแสดงประจำที่ภูเก็ต ก็ห่างหายกันไปอีก..กระทั่งมีเฟสบุ๊กนี่แหละครับ ผมจึงได้เจอเพื่อนทั้งสองคนนี้..ไหนๆ ก็โพสรูปเพื่อนตัวเล็กๆ ที่ถ่ายกับคุณโต๊ะพันธมิตรไปแล้ว วันนี้ ก็โพสหนังที่เขาเล่นซะเลย..เขาเล่นไว้หลายเรื่องครับ มีบทพูดด้วย ไม่ใช่โป้งแอ๊ะ แต่ว่า วีดีโอไม่ค่อยสวย ผมก็เลยตัดแต่ที่ฟิล์มสวยๆ มาให้ดูนะครับ..
คลิกชม.. ตัวอย่างหนังบางส่วนที่ เก๋เก๋ ดอกคำ (แรมโบ้ เมืองสุรินทร์) แสดงไว้
วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคมนี้ พวกเราจะเดินทางไปร้อยเอ็ดกันแล้วนะครับ.. มีเพื่อนเราอยู่คนหนึ่งที่พอรู้ว่า พวกเราจะไปช่วยหนัง ก็บอกตลอดมาว่า อยากไปด้วย แต่ความที่อยู่ไกลถึงฮ่องกง เวลามาเมืองไทย ก็ไม่ตรงกับวันที่พวกเราไปหาฟิล์มหนังอีก เขาคนนั้นก็คือ คุณRegis Madec ครั้งนี้ พอรู้ว่า เราจะไปก็โอนเงินช่วยค่าใ้ช้จ่ายมาให้อีกแล้วครับท่าน ต้องขอบคุณ ฝรั่งที่รักหนังไทยเก่าๆ ครับ ก็เลยแจ้งให้เพื่อนๆทราบนะครับ
ทราบจากคุณมานะที่โทรมาบอกตั้งแต่สายๆ วันนี้แล้วว่า ช่วงวันดังกล่าวมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ ผมก็กะเอาไว้ว่า จะแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบในวันเสาร์ที่คลองถม..แต่ว่าตอนนี้ คิวเดินทางก็ยังเดินไปตามเดิมนะครับ เพียงแต่ว่า เราออกเดินทางมุ่งตรงไปร้อยเอ็ด.. ทันทีครับ.. คุณมานะเล่าให้ฟังด้วยว่า พี่ชายของอาจารย์ประนอมได้ทราบเรื่องที่พวกเรายืมฟิล์มมาด้วยและได้เข้าไปดูหนัง ดูเทปที่เราถ่ายบันทึกประวัติโรงหนังเฉลิมเอกไว้ ท่านดีใจมากๆ ครับที่เรื่องราวในอดีตยังมีคนเห็นคุณค่า..ครับ..
เมื่อวานนี้ ผมขอให้คุณมานะ หวายทิพย์ ช่วยไปดูฟิล์มในเครื่องฉายหนังที่เคยโพสรูปไว้ ที่อยู่ในตลาดย่าโม.. ผมบอกว่คุณมานะว่า ช่วยไปขอดูให้หน่อย ถ้าเห็นเป็นหนังไทย ก็ให้ลองติดต่อดูว่า เราจะเอาฟิล์มเรื่องอื่นๆ ไปแลกได้ไหม.. คุณมานะก็ใจดี ไปดูมาให้เรียบร้อย..เป็นหนังข่าวทหารจี.ไอ.ครับ ไม่ใช่หนังไทย..ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะเข้าใจว่า เจ้านี่เป็นการโชว์เครื่องฉายหนัง ก็เลยต้องมีฟิล์มหนังติดไว้กับเครื่องด้วย และก็ไม่แน่ว่า เขาจะได้ฟิล์มหนังอะไรมาโชว์ ถ้าเป็นหนังไทยที่เราๆ ไม่มี ก็มีหวังได้ลุ้นนะครับ.. วันนี้ เดี๋ยวก็จะออกไปทำธุระก่อน เสร็จแล้ว ค่ำๆ ก็จะไปคลองถมครับ...
ครับ ผมว่า จะเขียนตั้งแต่เมื่อดึกๆ ของวันเสาร์แล้วนะครับ แต่ก็มีเหตุให้ต้องทำเรื่องอื่นๆ ก่อน พอรุ่งเช้าวันอาทิตย์ ก็ต้องเร่งรีบไปบ้านคุณนุเพราะนัดกับคุณจุ๊บไว้ว่า จะเข้าไปจัดการเรื่องบรรจุฟิล์มลงถุงดำเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปร้อยเอ็ด-ขอนแก่นอย่างที่รู้ๆ กัน ทีแรกก็คิดว่า พวกเราจะเข้าไปเตรียมตัวในวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคมนี้ แต่เผอิญว่า เมื่อคืนวันเสาร์นั้น คุณโต๊ะพันธมิตร มาเล่าให้ฟังว่า เมื่อ 2-3 ปีมาแล้ว เคยไปหาใบปิดหนังเก่าๆ อยู่ที่แห่งหนึ่ง ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯนัก แต่ว่า ก็แต่ได้แต่ชะเง้อมองข้ามรั้วบ้านเฉยๆ แล้วก็มองเห็นภายในบ้านหลังนั้นมีกระเป๋าฟิล์มหนัง 35 มม.เต็มไปหมด ทราบมาว่า ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเข้าไปเจาะกรุนี้ได้เลย ก็เห็นๆ ว่าพวกเราชอบทางนี้ ก็เลยจะพาพวกเราไปดูบ้านหลังที่ว่านี้..
ทำนองว่า ไม่ได้ฟิล์มหนัง ได้เห็นหน้าบ้านก็ยังดี ก็เลยต้องเปลี่ยนคิวกะทันหันอย่างที่เขียนมาข้างต้น..วันนี้ก็เลยไปจัดแจงเตรียมของอย่างที่บอก..แถมท้ายด้วยการฉายหนังเก่าๆ ดูกันอีกเรื่องหนึ่งที่บอกว่า เก่ามากๆ เป็นหนังยุค 16 มม.ไม่มีเสียงครับ.. เกือบลืมไป..เมืือคืนวันเสาร์ พอคุณโต๊ะพันธมิตร รู้ว่า พวกเราจะต้องเดินทางไปคืนฟิล์มที่ร้อยเอ็ด-ขอนแก่นในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคมนี้ ก็เลยช่วยเงินค่าใช้จ่ายมาอีกรายครับ.. ตอนนี้ มีเพื่อนช่วยมาแล้ว 3 รายคือ คุณตัวเล็ก แฟนหนังมิตร-คุณRegis Madec แล้วก็คุณโต๊ะพันธมิตร ครับ..
เรื่องงานมิตรนั้น รอฟังคุณเอ็มนะครับว่า จะได้จัดวันไหน แต่คงเป็นวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ก่อนถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2557 นะครับ ตอนนี้กำลังเตรียมหนังมิตรอยู่ครับ.. ส่วนเรื่องการเดินทางไปร้อยเอ็ด-ขอนแก่น นั้น ก็เป็นไปตามที่พี่อี๊ดบอกครับว่า เราตรงไปร้อยเอ็ด..แล้วหลังจากคืนฟิล์มเสร็จแล้ว อ.ประนอมก็จะพาไปหาข้อมูลจากที่หนึ่งซึ่งนัดไว้แล้วครับ..เย็นๆค่ำๆ ก็ว่าจะพาอ.ประนอมไปทานอาหารด้วยกันกับพวกเรานะครับ..แล้วก็พักค้างคืนที่ร้อยเอ็ด..
เช้าวันรุ่งขึ้นก็เดินทางไปขอนแก่น ไปคืนฟิล์มให้คุณโอ แล้วก็หาฟิล์มเก่าๆ กลับมาอีกครับ..ส่วนฟิล์มหนังที่คุณจุ๊บบอกว่า จะเซอร์ไพร์สนั้น ฟิล์มมาเร็วกว่ากำหนดครับ..เราไม่ต้องไปรับ ฟิล์มมาเอง เป็นหนัง 16 มม. ไม่มีเสียง หนังเก่ามาก
ปี 2494 รุ่น สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์
เป็นพระเอกครับ เมื่อคืนเราฉายดูแล้วครับ หนังจบครบสมบูรณ์ รอแต่ว่า จะหารายละเอียดหนังมาเติมมาเพิ่มเพราะไม่รู้ว่า พระเอก-นางเอก คุยอะไรกัน.. แต่วันนี้ เพื่อเอาใจ
คุณพุทธพร ส่องศรี
และคนรักรถไฟฯ ก็เลยนำภาพจากหนังเรื่องนี้มาฝากก่อนครับ มีฉากรถไฟอยู่ 2 ครั้ง ตามภาพแรกๆ ขึ้นเครื่องบิน-ต่อรถไฟไป กาบู.. แล้วอีกครั้งก็นั่งรถไฟไปลงยะลา ครับ..
Maxkie Mitt
รับทราบตามนั้นครับพี่มนัส.....พูดถึงหนังสุรสิทธิ ดูภาพนิ่งแล้ว ฟิล์มยังสีสวยแบบที่คุณนุบอกเลยครับ..แถมเป็นหนังก่อนปี 2500ด้วย..หายากๆมากครับ อิ อิ
รับแจ้งเพิ่มเติมจากกล่องข้อความ.. ตอนนี้มีผู้บริจาคเพิ่มอีก 2 รายพร้อมๆ กัน เงินช่วยหนังไทยครับ
คุณจารุณี ใจแก้ว กับ คุณเอก Eak Kung
เพิ่งโอนมาสดๆ ร้อนๆ ครับ ขอบคุณมากครับ..
ครับ
หนังสุรสิทธิ์ สัตยวงศ์
เรื่องนี้ ฟิล์ม 16 มม.ที่ได้มานั้นเรียกว่า สมบูรณ์มากๆ เพราะเริ่มเห็นตั้งแต่ตราบริษัทผู้สร้าง ไปจนจบเรื่องถึงสวัสดี ยังอยู่ครบ.. ความยาวฉายแล้วได้ประมาณ 1.50 ชม. จบเรื่องเลยครับ ถ่ายทำที่ภาคใต้ มีน้ำตกสวยๆ ธรรมชาติงามๆ หลายแห่ง.. น่าเสียดายที่ยังไม่มีบทพากย์หรือเรื่องย่อ ก็เลยไม่รู้จะโพสฉายอย่างไรดี..ภาพนิ่งที่เหลือๆ ก็มีเพียงใบปิดหนัง 1 ภาพเท่านั้น..เป็นเรื่องเซอร์ไพร์สสำหรับที่คนรักประวัติศาสตร์หนังไทย จะต้องทึ่งจริงครับเพราะไม่นึกว่า จะมีคนเก็บฟิล์มหนังเก่าขนาดนี้ไว้ เท่าที่ตรวจดูสภาพฟิล์มแล้ว เข้าใจว่า เป็นฟิล์มชุดที่ 2 ของหนังที่ออกฉายเมื่อปี 2494 คือว่า ผู้สร้างถ่ายไว้ 1 ชุดเป็นต้นแบบ แล้วจึงพิมพ์ซ้ำขึ้นมาฉายอีก 2-3 ตัวนะครับ..
ตรวจเห็นฟิลฺ์มม้วนท้ายมีรอยไหม้ของแสงถ่านจากเตาอ๊าคด้วย เข้าใจว่า มีการฉายในยุคที่หนัง 35 มม.กลางแปลงเริ่มเป็นที่นิยมด้วย ก็เลยมีการนำฟิล์มมาฉายผ่านเตาอ๊าคเพื่อฉายให้ดูจอใหญ่ขึ้น.. คิดว่า สาเหตุที่ฟิล์มชุดนี้ยังอยู่ดีก็เพราะว่า เมื่อยุคพระเอกสุรสิทธิ์ไปแล้ว คนก็จะไม่ดูหนังสุรสิทธิ์ จะดูแต่หนังมิตร หนังไชยา หนังสมบัติ แสดง..ฟิล์มตัวนี้ก็เลยถูกเก็บถูกลืมไว้เฉยๆ มาจนถึงปัจจุบันนะครับ..โชคดีที่รอดมาได้ นี่ถ้าเป็นฟิล์ม 35 มม.ในรุ่นปีเดียวกัน ป่านนี้ก็คงพังไปหมดแล้วครับ... สำหรับเรื่องการเดินทางไปคืนฟิล์มและหาฟิล์มอีกครั้งที่ร้อยเอ็ด-ขอนแก่นและทางผ่านนั้น ทีแรก พวกผมก็ไม่อยากรบกวนเพื่อนฝูงเพราะครั้งที่แล้ว ก็รบกวนมาแล้ว..แต่ก็มีเพื่อนบางคนติงว่า การไปทุกครั้งก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะได้ฟิล์มหนังเรื่องอะไรมา ก็มีค่าใช้จ่ายตามมาเสมอ เราจะแบกไหวหรือ..
ก็บอกตรงๆ ว่า แบกไม่ไหวหรอกครับ แต่ไหนๆ ก็ลงมือทำมาแล้ว ก็ต้องก้มหน้าทำต่อไป ทำไปเพราะใจรัก อยากจะเห็นหนังไทยเก่าๆ กลับมาอีก..บางครั้งแม้ว่าเราจะไม่ได้ฟิล์มกลับมา แต่ก็ยังได้ข้อมูลมาศึกษาถึงเรื่องราวต่างๆ จากผู้คนที่เกี่ยวข้องกับอดีตของหนังมาฝาก..อีกอย่างก็ถือว่า เป็นกิจกรรมของกลุ่มที่จะออกเดินทางไปเปิดหูเปิดตาบ้างนะครับ นี่ถ้าฟิล์มไม่เต็มรถก่อน เราก็คงจะได้เพื่อนๆ ไปช่วยกันอีกหลายคนนะครับ..แต่เพื่อนๆ ที่ไปไม่ได้ ก็ไม่เคยแล้งน้ำใจ ตัวไปไม่ได้ ก็มีแก่ใจช่วยค่าใช้จ่ายด้วย จะเท่าไรที่เพื่อนให้มา เราก็ถือว่าเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันนะครับ.
ช่วยหนังไทยวันนี้ ก่อนที่จะไม่มีหนังไทยให้ช่วยครับ.. ฝากถึงพี่ ตุ๊กตา จินดานุชด้วยครับ ถ้าหากไม่อยากตื่นเช้าเกินไป ก็เปลี่ยนมาขึ้นรถที่ตลาดนนทบุรีพร้อมๆ กับผมและแตง โปสเตอร์ เวลา 7 โมง ก็ได้นะครับ เพราะกว่าคุณนุกับคุณจุ๊บ จะจัดของขึ้นรถเสร็จ ก็คงนานครับ..เดี๋ยวรอนานๆ จะเซ็งก่อน.. ผมกะว่า รถจะมาถึงตลาดนนท์ประมาณ 7 โมง และเลยไปรับพี่อี๊ดกับแม็กกี้ ไม่เกิน 7.30 ครับ..
Maxkie Mitt
ขอบคุณน้องอิง และเอกคุงเพื่อนรักมากๆครับ ครั้งที่แล้วก็ช่วย ครั้งนี้ก็ช่วยสมทบทุนในการเดินทางให้อีก ..ส่วนหนัง16 มม เรื่องนี้ถือเป็นบันทึกสถานทีีท่องเที่ยวตามธรรมชาติของภาคใต้ในสมัยก่อนปี 2500 วึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วย ถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญมากๆในเชิงศึกษา เป็นข้อมูลได้เลยครับ น่าทึ่งมากครับ อาจจะเป็นภาพเคลื่อนไหวสีธรรมชาติของรถไฟไทยที่เก่าที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ก็ได้ครับ
ชื่อสถานีกาบู คือสถานีรามันในปัจจุบันครับ
ลืมอีกนิด นอกจากมีน้ำตก มีรถไฟแล้ว ยังมีการชนวัวด้วยครับ
คุณพุทธพร ส่องศรี
.. ผมเกริ่นถึงหนังไทยปี 2494 ตามภาพนิ่งที่โพสไว้ข้างบน 2 วันมาแล้ว..บอกด้วยว่า พระเอกคือ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ แต่ก็ไม่มีใครสงสัยเลยว่าเป็นหนังเรื่องอะไร... เมื่อสักครู่ ผมเปิดกล่องข้อความอ่าน ก็ทราบว่า คุณพุทธพร ส่องศรี คนรักรถไฟเป็นชีวิตจิตใจ..ก็บอกว่า ได้โอนเงินช่วยหนังไทยที่พวกเราจะไปร้อยเอ็ด-ขอนแก่น ครั้งนี้มาให้แล้ว (ความจริง อาจารย์ก็ช่วยทุกๆ ครั้งที่พวกเราไปนะครับ) แต่โอนเงินครั้งนี้ ดูจะแปลกหน่อยเพราะมีการโอนให้มีเศษติดมา 1 บาทด้วย ไม่รู้อาจารย์จะมีเคล็ดอะไรหรือเปล่า.
ส่วนงานมิตรปีนี้นั้น ก็อย่างที่บอกๆ ไว้แล้วว่า หนังที่จะฉายก็คือ ชุมทางหาดใหญ่.. ที่พวกเราไปช่วยมาจากวัดบ้านดง อุตรดิตถ์ ตอนนี้ หนังตัดต่อเสร็จแล้ว ปรับแสง ปรับสีแล้ว แต่ไตเดิ้ลไม่มี ผมก็สร้างขึ้นใหม่แทนเพราะจำเป็นต้องใส่เพลงเอกของเรื่องเข้าไป ไม่ทำ ก็ไม่มีที่ใส่เพลง แต่ทำภาพเป็นสีซีเปียนะครับ..จากนั้นก็ลองนำบทพากย์หนังที่เพื่อนๆ ช่วยกันทำขึ้นซึ่งมี 2 ชุด..มาลองไล่ปากนักแสดงกับบทพากย์ดู.. ก็พบว่า ใกล้เคียงกัน เพียงแต่ต้องรวบคำบางคำให้กระชับขึ้นเพราะมันจะเกินปากดาราไปนะครับ.. เดี๋ยวก่อนถึงวันงานประมาณสักเดือนหนึ่ง ผมจะเปิดกระทู้พูดถึงอีกนะครับ..
แตง โปสเตอร์
อยากรู้ค่ะพี่มนัสว่าเป็นหนังเรื่องอะไร 2494 สุดยอดเลย อดคิดไม่ได้ว่าขอให้เป็นเรื่อง สามหัวใจ ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านค่ะที่ร่วมด้วยช่วยกัน น้ำใจไม่เคยหมดจากคำว่าเพื่อนจริงๆค่ะ
Praderm Sangaseang
หนังปี 2494
ให้คำจำกัดความหนังไม่ถูกเลยครับว่าเป็นหนังแนวไหน ได้ยินชื่อคิดว่าเป็นสารคดีท่องเที่ยว ตัวหนัง มีทั้งแนวชีวิต แนวบู๊ ขับรถตามล่าไล่ยิงกัน รวมรสหนังจริงๆ สงสัยติดสไตล์หนังอินเดียมา อิอิ
นางเอกหนังปี 2494 ครับ ออกฉากแรกก็ควักปืนมายิงเลย
พระเอก นางเอก ของเรื่องครับ
วันเสาร์นี้
คุณโต๊ะพันธมิตร
จะพาพวกเรา 3 คนไปดูบ้านหลังหนึ่งที่เก็บฟิล์มหนังเก่าๆ ไว้ แต่บอกไว้ก่อนว่า การไปดูครั้งนี้ก็เพื่อถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก..ส่วนความหวังนั้น ริบรี่ครับ แต่ก็ต้องไปดูให้เห็นกับตา.. ว่าครั้งหนึ่งมันยังมีอยู่.. หลังจากนั้น ไม่แน่ว่า พวกเราจะแวะไปคลองถมหรือเปล่า..แต่แน่ๆ คืนวันเสาร์ คุณจุ๊บก็จะไปค้างคืนที่บ้านคุณนุฯ เพื่อที่จะได้ตื่นเช้าๆ เช้าวันอาิทิตย์ที่ 10 ภารกิจหนักๆครับ ขนฟิล์มขึ้นรถ..เพื่อเดินทางไปร้อยเอ็ด-ขอนแก่นครับ..ขอบคุณเพื่อนๆที่ช่วยค่าใช้จ่ายมา ณ ที่นี้ด้วยครับ..
ภารกิจคืนฟิล์มที่ยืมมา.. และออกไปช่วยหนังไทยเก่าๆ ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคมนี้..นอกจากพวกเรา 7 คนจะไปครบทีมแล้ว ก็ยังมีเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊กที่ประสงค์จะไปด้วย แต่ว่า รถเต็มซะก่อนเพราะนอกจากจะมีเรา 7 ประจัญบาน แล้ว บนรถก็ยังเต็มไปด้วยฟิล์มหนังที่จะนำกลับไปคืนอาจารย์ประนอม..และไปคืนคุณโอเทพมงคล ขอนแก่น..แต่บางคนถึงไปไม่ได้ หรือไม่ได้ไปเพราะติดธุระอื่นๆ ก็ยังมีน้ำใจช่วยสมทบทุนปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย แม้เราไม่ได้เอ่ยปาก..ซึ่งผมก็ทยอยบอกรายชื่อมาเรื่อยๆ ว่าตอนนี้มีใครบ้างแล้ว
เริ่มจากคุณตัวเล็ก หรือ อ้วน.. คุณโต๊ะพันธมิตร คุณ Regis Madec คุณEak Kung คุณจารุณี ใจแก้ว คุณพุทธพร ส่องศรี..
ครับ..
ป.ล.ก่อนที่เพื่อนๆ จะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋านั้น ดูรูปเก่าๆ ครั้งแล้วก่อนนะครับ..
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 สิงหาคม 2014, 13:42:13 โดย นายเค
»
บันทึกการเข้า
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120 E-Mail
soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า หมายเลขบัญชี 210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขา บางเขน หมายเลขบัญชี 041-273435-0
ติดต่อ 0909040355
ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได
นายเค
Thaicine Movie Team
Moderator
พี่น้อง thaicine Gold member
กระทู้: 3814
พลังใจที่มี 616
เพศ:
Re: บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด
«
ตอบกลับ #6 เมื่อ:
14 สิงหาคม 2014, 13:42:45 »
ใกล้วันเดินทางเข้ามาแล้วครับ... วันนี้สายๆ ผมโทรไปจองโรงแรมที่พักที่ร้อยเอ็ดไว้แล้ว 4 ห้องเหมือนเดิม พอบอกว่า เคยมาพักแล้ว ตอนนั้น อาจารย์ประนอมเป็นผู้มาจองให้.. โรงแรมก็บอกว่า ถ้างั้นก็จะให้ราคาพิเศษเหมือนอาจารย์ประนอมด้วยครับ.. จากนั้นก็โทรไปคุยกับคุณจุ๊บ บ่นๆ ว่า ฟิล์มหนังเซอร์ไพร์สเรื่อง
โตนงาช้าง
ก็ได้มาก่อนแล้ว คราวนี้จะมีอะไรเซอร์ไพร์สใหม่อีกหรือเปล่า.. คุณจุ๊บก็บอกว่า ขอเช็คก่อนว่า ตามเส้นทางที่ผ่านๆ นั้น จะแวะไปที่ไหนได้บ้าง.. ฝ่ายผมก็ลองติดต่อหนุ่มคนหนึ่งที่ชอบหนังพันนา เห็นเขาบอกว่าซื้อฟิล์มไว้เรื่องหนึ่ง ก็เลยถามๆ ว่าอยู่แถวไหน ก็ได้ความว่าอยู่มหาสารคาม ก็เลยบอกว่า จะเข้าไปหา ไปยืมฟิล์มได้ไหม เขาก็บอกว่า ได้ มาเลย..
เมื่อคืนนี้ พอผมบอกว่า มีเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ไปกับเราครั้งนี้ ช่วยค่าใช้จ่ายมาบ้างแล้ว เริ่มจาก
คุณตัวเล็ก หรือ อ้วน.. คุณโต๊ะพันธมิตร คุณ Regis Madec คุณ Eak Kung คุณจารุณี ใจแก้ว คุณพุทธพร ส่องศรี..ก็ปรากฏว่า คุณภราดร ศักดา
ก็แจ้งมาในกล่องข้อความว่า ได้โอนเงินมาช่วยอีกคนหนึ่งแล้วครับ.. ก็เลยแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบ
วันนี้ ตอนสายๆ อาจารย์ประนอมโทรมาถามว่า พวกเราจะพักกันที่ไหน ผมก็ตอบว่า พวกเราตกลงใจจะพักค้างคืนกันที่ร้อยเอ็ดและบอกว่า พอเก็บฟิล์มเสร็จแล้ว เย็นๆ จะพาอาจารย์ไปกินข้าว ไปคุยกัน ครั้งที่แล้วมัวแต่รีบๆ ก็เลยไม่ได้กินข้าวกับอาจารย์..ผมบอกว่า ผมโทรไปจองโรงแรมที่พักไว้แล้ว 4 ห้อง คนโรงแรมก็บอกว่า จะให้ราคาเดียวกับอาจารย์ประนอมด้วย..เท่านั้นแหละครับ อาจารย์ก็รีบบอกว่า เดี๋ยวแม่จะไปจ่ายค่าโรงแรมให้เอง..ผมก็บอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกเราจ่ายเอง ท่านก็บอกว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร.. ลูกๆ อุตส่าห์มากันไกลๆ จากนั้นก็ถามว่า ฟิล์มหนังฉายได้หรือเปล่า..ผมก็บอกว่า ก็ฉายจนหมดแล้วครับ..จากนั้นก็ถามถึงเรื่องฟิล์มเก่าๆ ที่อื่นๆ อีก ท่านก็บอกว่า ถามแล้ว มีแต่เขาบอกว่า เขาทิ้งหมดแล้ว ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม แถมยังบอกให้อาจารย์ทิ้งไปด้วย มันฉายไม่ได้แล้ว..
นั่นแหละครับ ท่านถึงถามเราว่า ฟิล์มที่เอามา ฉายได้หรือไม่..ผมก็เลยอธิบายว่า ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว เครื่องฉายบางยี่ห้อ ก็ฉายฟิล์มนี่ไม่ได้แล้วครับ แต่เราใช้เครื่องที่ยังฉายได้ ตามปกติที่เขาทิ้งฟิล์มนั้นก็เพราะเห็นหนังเป็นสีแดงๆ เป็นเส้นฝน เขาไม่กล้าฉายกลางแปลง กลัวหนังขาด กลัวโดนโห่ เขาถึงทิ้งฟิล์ม แต่พวกเราฉายเชิงอนุรักษ์ ขาดก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ต่อด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ขอให้มีภาพมีฟิล์มฉายก็ดีแล้วครับ..พออาจารย์ฟังจบ อาจารย์ก็ได้แต่บ่นๆ เสียใจที่คนเหล่านั้นทิ้งฟิล์มไปเมื่อเห็นว่า ไม่สามารถฉายหนังกลางแปลงได้..ก็ทิ้งไป น่าเสียดาย.. ครับ.. อย่าลืมนะครับ พวกเราเดินทางเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม..นี้ พี่ตุ๊กตา ถ้าจะขึ้นรถที่เดิม อย่าลืมเย็นๆ โทรไปนัดพี่เที่ยงด้วยนะครับ..
ขอบคุณทุกท่านครับ.. ก่อนจะไปถึงร้อยเอ็ดนั้น วันนี้ 10 โมงเช้า คุณโต๊ะพันธมิตร ก็พาเราสามคน (ผม-นุ-จุ๊บ) นั่งรถไปที่แห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากกรุงเทพฯนัก ไปเพื่อจะดูว่า เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว บ้านหลังนี้เคยมีฟิล์มหนัง 35 มม.อยู่เยอะมากๆ..ไปดูว่า ตอนนี้ยังอยู่หรือไม่เพราะทราบว่า เจ้าของที่เป็นคนฉายหนังเสียชีวิตไปนานแล้ว..ไปถึงก็เลียบๆเคียงๆสอบถามจากบ้านใกล้ๆ จนได้เบอร์โทรมา..แล้วคุณนุฯก็เป็นคนโทรไปหา...ได้เรื่องเลยครับ..พรุ่งนี้เจ้าของจะเข้าไปบ้านหลังนั้นพอดี.. คุณโต๊ะก็เลยบอกว่า พรุ่งนี้จะเข้าไปบ้านหลังนั้นอีกเพราะดูๆ แล้วก็ยังมีกระเป๋าฟิล์มเหลืออยู่ แต่มองไม่ชัดว่าเป็นหนังเรื่องอะไรบ้าง..
พรุ่งนี้เจ้าของบ้าน จะมาเปิดบ้านและมีแนวโน้มสูงมากๆ ว่า ถ้าฟิล์มยังมี ยังใช้ได้ เขาจะให้พวกเรามาอนุรักษ์ มาฉายดูกันครับ..ร้อนและแรงขนาดนี้ คุณโต๊ะซึ่งมีนัดพากย์หนังพรุ่งนี้ ยังเปลี่ยนคิวพากย์กะทันหัน มาพากย์บ่ายๆ วันนี้แทนเลยครับ..ตอนขากลับ ยังบอกว่า ถ้าเจอหนังอะไรแปลกๆ จะหิ้วมาไว้ก่อน ส่วนที่เหลือให้พวกเรานัดกันไปดูกันอีกรอบหนึ่งครับ.. เป็นอันว่า พรุ่งนี้ เรา 7 ประจัญบาน มุ่งหน้าร้อยเอ็ดตามปกติเพราะกรุทางนี้ คุณโต๊ะจะจัดการให้เอง... เริ่มต้นก็ชักสนุกแล้วล่ะครับ... ทุกท่าน.. ขากลับ ตอนนี้คุณจุ๊บ หิ้วกระเป๋าไปนอนบ้านคุณนุแล้วครับ..พรุ่งนี้ ตี 5 ครึ่งรถถึงหน้าบ้าน ต้องรีบขึ้นของขึ้นฟิล์ม..แล้วจากนั้นจึงมารับพวกเราที่ตลาดนนท์และต่อไปที่พี่อี๊ด-แม็กกี้ จุดเดิม...
เตรียมตัว...กำลังจะเดินทางไปครับ.. ทั้งรถรวมแล้ว 8 คน..แต่ฟิล์มนั้น นับจนลืมแล้วว่ากี่ม้วน แต่ที่แน่ๆ ฟิล์มคุณโอ เทพมงคล ขึ้นรถไม่ได้อีกหลายเรื่อง..รถเต็มซะแล้ว..ที่เต็มนั้นก็เพราะคุณจุ๊บบอกว่า ของคืนคงไม่เป็นไร แต่ของฝากที่เป็นฟิล์มหนังนี่ซิครับ ต้องให้คุณโอก่อน..เดี๋ยวระหว่างเดินทาง ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม จะให้เพื่อนๆ รายงานให้ทราบนะครับ..
แตง โปสเตอร์
ก้าวแรกของวันนี้ แวะเยี่ยมเมาเซ
รับฟิล์มจากคุณอุ้ย หนังพันนา หนังยอดรัก
ภาระกิจล่าสุดวันนี้ มารับฟิล์มจากคุณโอ ที่ขอนแก่น
อาจจะเรียกว่าเป็นคณะทัวร์ช่วยหนังไทยก็ได้ครับ..เพราะก้าวแรกที่เริ่มออกทัวร์ก็เริ่มแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2557 ไปกับคุณโต๊ะพันธมิตรที่สำโรง สมุทรปราการ..แล้วก็มีเหตุให้ต้องรู้ว่า กรุแรกนี้สูญพันธุ์ไปแล้วครับ.. จากนั้นเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2557 พวกเรา 7 คนจึงออกเดินทางไปร้อยเอ็ด.. แต่คุณจุ๊บพาแวะไปเยี่ยม "เมาเซ"หรือชาญชัยฟิล์ม แถวๆ วังน้อย ก่อน ได้ฟิล์มมาเรื่องหนึ่ง..
จากนั้นตรงไปเยี่ยมคุณวาทิน โสตายทีม ที่เคารพรักพันนา ฤทธิไกร มากๆ ก็ได้ฟิล์มมาอีกเรื่องหนึ่ง.. แล้วพวกเราก็มุ่งตรงไปหาอาจารย์ประนอม แซ่เซีย ที่ร้อยเอ็ดเพื่อคืนฟิล์มที่ยืมมาแก่ท่าน..นอกจากอาจารย์จะต้อนรับอย่างอบอุ่น ข้าวปลาอาหารไม่ขาด ยังมีลูกๆหลานๆ คุณมานะ หวายทิพย์ พาไปฟังเพลง ทานอาหารอร่อยอีกด้วย..ก่อนจะกลับ พี่ดำ เจ้าของบริการหนังไทยแหลมทอง ร้อยเอ็ด ก็ฝากหนังสือพระราชทานเพลิงศพคุณถวิล จุรีมาศ เจ้าของโรงหนังถวิลภาพยนตร์ ร้อยเอ็ด มาด้วยเล่มหนึ่ง ข้างในมีประวัติโรงหนังถวิลภาพยนตร์ด้วยครับ...
แล้วก็ค้างคืนที่ร้อยเอ็ด...
รุ่งขึ้นวันจันทร์ 11 สิงหาคม 2557
ก็มุ่งตรงไปหาคุณอุ้ย ธวัชชัยที่ขอนแก่น..ได้หนังมาอีก 3 เรื่อง..แล้วก็ไปบ้านคุณโอเทพมงคล ขอนแก่น..ได้หนังมาอีกหลายเรื่อง บางเรื่องก็ยังไม่ทราบชื่อ..นี่แหละครับภารกิจช่วยหนังไทยของพวกเราๆ แล้วค่อยชมภาพบรรยากาศจากเทปวีดีโอนะครับ...
เอาล่ะครับ เมื่อโพสเกี่ยวกับ
"โรงหนังถวิลภาพยนตร์ ร้อยเอ็ด"
เสร็จสรรพเรียบแล้ว ตอนนี้ ก็จะถึงเวลาตัดต่อเทป ภารกิจช่วยหนังไทย ภาคพิเศษ กันแล้ว.. ถ้าไม่ติดขัดอะไร ก็คงเป็นบ่ายๆ พรุ่งนี้ จะได้ชมกันนะครับ..
วันนี้ นั่งตัดต่อเทปภารกิจช่วยหนังไทยของพวกเราจนเสร็จแล้วครับ.. เพิ่งมาลองนับดูว่า ครั้งนี้จริงๆ แล้วเราเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 9-10-11 สิงหาคมนะครับ เรียกว่า ไป 6 ที่ 6 แห่งกันเลย.. แห่งแรกนั้น
คุณโต๊ะพันธมิตร
พาเราไปแถวสำโรง สมุทรปราการ.. บ้านหลังนี้ครับ..ทีแรกก็กะไปเปิดกรุล่ะครับ.. แต่สุดท้ายกลายเป็น ไปปิดกรุครับ..กรุนี้จะอยู่ตอนแรกของเทปนะครับ..
พรุ่งนี้ คงจะโพสฉายวีดีโอภารกิจช่วยหนังไทยได้นะครับ..แต่ว่าตอนเปิดกระทู้ใหม่นั้น ผมจะไม่ลงภาพนิ่งนะครับ จะลงแต่ตัววีดีโออย่างเดียว ภาพนิ่งต่างๆ ก็มารวมกันไว้ที่นี่.. พอพวกเรา 7 คนออกเดินทางวันที่ 10 สิงหาคม 2557 แห่งแรกคุณจุ๊บก็พาเราไปบ้านคุณเมาเซหรือชาญชัยฟิล์ม แถวคลองพุทรา วังน้อย อยุธยา ครับ.. ไปเยี่ยมไปหาเพราะทราบข่าวว่า
คุณเมาเซ
(ไม่รู้ชื่อจริงว่าอะไร ลืมถาม) ได้ฟิล์มหนังมา ก็เลยไปหา ไปขอครับ..คุยกันเสร็จสรรพ สองหนุ่มก็หอบฟิล์ม คนละถุงดำ ไปขึ้นรถทันที..
จากวังน้อย ก็วิ่งตรงไปร้อยเอ็ด แต่ว่าพอถึงเขตมหาสารคาม พวกเราก็แวะไปหาคุณวาทิน โสตายทีม ที่อำเภอกันทรวิชัย คนนี้เป็นลูกศิษย์พันนา ฤทธิไกร.. ผมรู้จักในเฟสบุ๊กและอาจารย์เจริญ สาดา หนึ่งในทีมพันนารุ่นแรก บอกว่า คุณวาทินมีฟิล์มหนังพันนา.. ก็เลยติดต่อขอยืม.. แต่เพราะคุณวาทิน ไม่มีเครื่องฉาย เหตุที่ซื้อฟิล์มไว้ ก็เพราะชอบหนังเรื่องนี้ เมื่อรู้ว่า เราแปลงเป็นดีวีดีได้ ก็เลยให้ฟิล์มมาครับ..
จาก
กันทรวิชัย
.. ก็วิ่งตรงไปยัง
ร้อยเอ็ด
.. ไปถึงก็เย็นแล้ว รีบจัดแจงนำฟิล์มใส่กระเป๋า จัดเก็บให้เรียบร้อย.. อาจารย์ประนอมก็ใจดีให้ของกินมาเต็มรถเลย..
งวดนี้
คุณมานะ หวายทิพย์
ไปต่างประเทศ แต่ก็ให้คุณเอ หลานสาวมาคอยต้อนรับ.. ผมทราบว่า แฟนคุณเอคือ ดาราวัยรุ่นที่ชื่อ
จิระวัฒน์ สุริโย
ที่แสดงหนังเรื่อง
สวัสดีไม้เรียว
(ใส่เสื้อเบียร์ช้าง) ก็เลยนำแผ่นหนังที่แสดงไปฝากคือ สวัสดีไม้เรียว-รักกันวันละนิด..ส่วนสาวแตงโปสเตอร์ ก็หาใบปิดหนัง สวัสดีไม้เรียว ไปให้..พี่ตุ๊กตาก็มีห่อของขวัญไปฝากหลานสาว 2 คนด้วย.. ดีใจทั้งผู้ให้และผู้รับ..
พวกเรานอนพักที่ร้อยเอ็ดคืนนั้น พอรุ่งเช้าก็ไปขอนแก่น เป้าหมายแรกก็ไปหาคุณอุ้ย ธวัชชัย.. บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข ต้องดูจากเทปนะครับ.. คุณอุ้ยให้เรายืมฟิล์มมา
3 เรื่อง 6 กระเป๋า
.. ก็ต้องแบกมาแบบนี้แหละครับ..
พอใส่กระเป๋าฟิล์มท้ายรถเสร็จ ก็ถ่ายรูปไว้หน่อย..
เสร็จจากบ้านคุณอุ้ย ธวัชชัย แล้ว ก็ไปหาคุณโอ เทพมงคล จะต้องนำฟิล์มและรีลเปล่าไปคืนให้.. พอคืนเสร็จ ผมกับคุณจุ๊บก็ขอรื้อค้นห้องเล็กๆ เพราะอยากรู้ว่า ฟิล์มหนังเศษๆ ที่กองๆ อยู่นี้ จะมีหนังไทยหรือไม่..ปรากฏว่า มีหนังไทยหลายม้วนครับ ก็ขอมาทำภาพไว้ก่อน..นอกจากนี้ยังมีฟิล์มหนังบางเรื่องที่คุณโอซื้อไว้ให้อีก..
สรุปว่า
ทั้งขาไป และขากลับ รถก็เต็มไปด้วยฟิล์มเหมือนเดิม..ผมก็ต้องมานั่งเบียดกับคุณแม็กกี้และสาวแตง...ไหนๆ ก็ไหนแล้ว ขากลับพอออกรถจากขอนแก่นปุ๊บ พวกเราก็เล่นต่อเพลงกันตลอดทาง.. ไม่รู้ว่าองค์ไหนลง..ร้องไม่หยุดกันทั้งรถ..แต่ว่าส่วนนี้ไม่มีในเทปนะครับ.. ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนช่วยหนังไทยเก่าๆ ครั้งนี้ครับ.. พรุ่ง ดูเทปนะครับ
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 สิงหาคม 2014, 13:53:34 โดย นายเค
»
บันทึกการเข้า
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120 E-Mail
soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า หมายเลขบัญชี 210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขา บางเขน หมายเลขบัญชี 041-273435-0
ติดต่อ 0909040355
ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
เวบบอร์ดสำหรับผู้ชื่นชอบระบบการฉายภาพเคลื่อนไหว
»
ภาพยนตร์ของเรา...การฉายภาพด้วยแผ่นฟิล์ม
»
ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์
(ผู้ดูแล:
นายเค
,
ฉัตรชัยฟิล์มshop
,
มนัส กิ่งจันทร์
) »
บทที่ 535 เสนอฉาย เปิดตำนานโรงหนังเสรี โรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด