ห่างหายไปนาน...วันนี้ขอขึ้นต้นด้วยเพลงของ นพพร เมืองสุพรรณ ครับคิดถึงจังเลย
เล่าสู่กันฟัง...กว่าจะมีเครื่องฉายหนัง เครื่องแรก ซีซั่น 2
ต่อเลยครับอาจารย์ กำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อครับ อ่านกันเพลินเลย แหม่!! มันช่างคล้ายกับชีวิตเราตอนวัยเด็กจริงๆ ตามเก็บเศษฟิล์มมาฉายเล่น แต่จะทันสมัยหน่อยก็ตรงที่ ใช้เลนส์นูนจากห้องวิทย์ (แอบจิ๊ก) กับหลอดไฟกลม 40-100 วัตต์มาทำเป็นหลอดฉาย อิอิ
:yoyocici08:หลังจากผมเข้ามาช่วยนายช่างได้ไม่นาน ผมก็มีเพื่อนใหม่ที่เข้ามาเรียนรู้ ฝึกเขียนคัทเอาท์เพิ่มขึ้นอีก 2 คนฉะนั้นรวมผมด้วยนายช่างก็จะมีผู้ช่วยทั้งหมด 3 คน
เพื่อน 2 คนที่เข้ามาใหม่ก็ต้องเริ่มจากเด็กฝึกหัดเหมือนผมในเมื่อครั้งเข้ามาเริ่มฝึกใหม่ๆ คือเตรียมล้างภู่กัน ล้างแปรง เตรียมถาดสี เตรียมสีไปก่อนเท่ากับผมเป็นคนสอน เรื่องพื้นฐานทั้งหมดที่ผมผ่านมา เพื่อนผมทั้ง 2 คนทำด้วยความขยัยขันแข็งไม่มีใครบ่นสักคน เพราะเขาเขัามาด้วยใจรัก ไม่มีใครบังคับ ผมก็คอยสอนในสิ่งที่ผมผ่านมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเิ่มจากการตีสเกล การร่างรูป ผมให้เขาหมั่นฝึกทำเองที่บ้าน แล้วนำมาดูกันคอยแนะนำกัน เขาทั้ง 2 ก็ไปได้เร็วขึ้น
เมื่อมีเพื่อนๆเข้ามาช่วยกันอีก 2 คน หน้าที่ผมที่นายช่างให้ผมเริ่ม และได้เขียนคัทเอาต์หนังเป็นครั้งแรก คือคัทเอาต์สำหรับติดรถโฆษณาหนังเคลื่อนที่ หลังจากที่ผมได้ฝึกซ้อมเขียนสีนำ้มันบนแผ่นไม้อัด ขนาด 60*80 ซม.มาแล้วหลายๆเรื่องซึ่งผมจะมีไม้อัดส่วยตัวสำหรับซ้อมเขียนรูปดาราต่างๆอยู่นานเป็นปีๆ แต่ละรูปพอผมเขียนเสร็จนาช่างก็จะมาแนะนำ ช่วยแนะนำแก้ไขให้จนทำให้เรามีความมั่นใจในการเขียน การใช้สีมากขึ้นไปเรื่อยๆ การสั่งสมประสบการณ์เหล่านี้มันทำให้เราได้พํฒนาขึ้ไปเรื่อยๆพอผมเขียนเสร็จผ่านการแก้ไขทิ้งไว้ให้แห้งสัก 2-3 วันผมก็จะหาดาราคนใหม่มาเขียนอีกโดยเขียนทับรูปเก่าลงไปเลย จนกลายเป็นชั้นของสีหนามากนานๆผมจึงจะลอกออกเสียทีหนึ่ง ผมจะทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆครับ
:yoyocici07:จนถึงวันนี้ที่นายช่างไว้วางใจให้ผมได้แสดงฝีมือเป็นครั้งแรก กันหนังอินเดียฟอร์มยักษ์เลยคือเรื่อง โชเล่ย์ คัทเอาต์หน้าโรงเราก็ช่วยกันเป็นงานชิ้นใหญ่มากมีการตัดสังกะสีเสริมส่วนบนของแผ่นคัทเอาต์ด้วยเพราะรูป 2 พระเอก ทราเมนเดอร์ กุมาร กับอบิตาบ บาจัน ยืนถือปืนทั้ง 2 คนซึ่งจัดทำสูงจากพื้น จนถึงเท่ากับหลังคาโรงหนังเลยทีเดียว ยิ่งใหญ่มากสำหรับเรื่องนี้เข้าโปรแกรมฉายนานถึง 7 วันเลยทีเดียว วันละ 2 รอบเสาร์-อาทิตย์ มีรอบบ่ายเพิ่มมาอีก คนเยอะมากๆสำหรับหนังเรื่องนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ก็มี เรื่องช้างเพื่อน แก้ว พากษ์โดย ทิวา-ราตรี ก็ฉายนานถึง 7วันเหมือนกันคนที่อำเภอนี้ เขาชอบดูมากหนังอินเดียในยุคนั้น สำหรับผมก็ไม่พลาดเหมือนกันสำหรับหนังอินเดีย ชอบครัับ เพลงสนุก เวลาเศร้าก็เศร้าได้อารมณ์
ฉะนั้นหนังอินเดียหลายๆเรื่องที่ผ่านสายตาผมมาแล้ว ในยุคนั้นจะมีดาราดังที่พอจะจำได้ก็มี
ทราเมนเดอร์ กุมาร - เฮม่า มาลินี
อบิตาบ บาจัน - มุมตัส
ราจีป กุมาร - ราเยส คานนา - ซาซิ การปูร์
หนังก็จะมี วิมาณรัก ช้างเพื่อนแก้ว โชเล่ย์ สามพี่น้อง ธรณีกันแสง รอยรักรอยมนทิล เมโลดี้ ธรณีชีวิต สวรรค์บ้านนา เทพธิดาในฝัน ดวงใจในฝัน ขายชีวิต ฯลฯ