ผู้เขียน หัวข้อ: หลิน เจิ้งอิง มือปราบผีชาวจีน ที่คนไทยรู้จัก กับ ผีกัดอย่ากัดตอบ  (อ่าน 19599 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

หลิน เจิ้งอิง

หลิน เจิ้งอิง (จีน: 林正英, พินอิน: Lín zhèngyīng, อังกฤษ: Lam Ching-ying) อดีตนักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ชาวฮ่องกงผู้ล่วงลับ

       มีชื่อจริงแต่แรกเกิดว่า หลิน เกิ้นเป่า (林根寶) เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 1952 ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เริ่มต้นอาชีพนักแสดงด้วยการเป็นเด็กฝึกหัดงิ้วในโรงเรียนสอนอุปรากรณ์จีน ที่ฮ่องกง ด้วยรูปร่างที่เล็ก ผอมบาง ทำให้มักได้รับบทประจำเป็นตัวนาง ซึ่งความถนัดดังกล่าวนี้ได้สืบทอดต่อเนื่องมาเมื่อได้ก้าวสู่วงการภาพยนตร์ ทำให้มักจะได้รับหน้าที่เป็นสแตนด์อินให้กับนักแสดงหญิง ต่อมา หง จินเป่าชักชวนให้เข้าร่วมทีมสตั้นแมน และตัวประกอบในภาพยนตร์กังฟูและกำลังภายใน ซึ่งก็ได้รับบทเด่นและบทรองมาเรื่อย เช่น A Touch of Zen ในปี ค.ศ. 1971 และ Fist of Fury ในปี ค.ศ. 1972

       จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1985 โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง Mr. Vampire ในบทของ อาจิ่ว นักพรตลัทธิเต๋าผู้ชำนาญการปราบผี ซึ่งกลายเป็นบทเด่นประจำตัว ซึ่งได้รับบทเดิมนี้และบทที่ใกล้เคียงซ้ำต่อมาอีกหลายเรื่องด้วยกัน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวไป

       ในบั้นปลายชีวิตการแสดง หลิน เจิ้งอิง ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ต้นทุนต่ำรวมทั้งซีรีส์หรือละครโทรทัศน์ ซึ่งก็ได้รับบทของอาจารย์ปราบผีอีก โดยมีผลงานเรื่องสุดท้ายคือ Vampire Expert

       หลิน เจิ้งอิง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1997 ที่โรงพยาบาลเซนต์เทเรซ่า ที่ฮ่องกง ด้วยโรคมะเร็งตับ สิริอายุได้ 44 ปี

สรุป
  • เกิดเมื่อ: 27 ธันวาคม 2495, ฮ่องกง, ประเทศจีน
  • เสียชีวิตเมื่อ: 8 พฤศจิกายน 2540, ฮ่องกง, ประเทศจีน
  • รางวัลที่ได้: ฮ่องกงฟิล์มอวอร์ด สาขาออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม
  • รางวัลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง: ฮ่องกงฟิล์มอวอร์ด สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

ผลงานที่มีชื่อเสียงที่ฉายในประเทศไทย
  • Mr.Vampire 1-3 (ผีกัดอย่ากัดตอบ 1-3)
  • Vampire VS Vampire
  • Mr.Vampire Sage IV (หลบผีเอาไม่อยู่)
  • The Dead and The Deadly (อำดีผีไม่กัด)
  • ท้าผีกัดข้ามศตวรรษ(หนังจีนชุด)
  • Ghilst In Me (ปล่อยผีไปกัด)
  • Magic Cop (มือปราบผีกัด)
  • The Musical Vampire (ผีกัดให้ฟัดตอบ)
  • สายพันธุ์ผีตี๋สุดแสบ (คนละเรื่องกับผีแพ้ตี๋นะ)
  • Ghost Busting (อึยส์...บริษัทนี้ผีดุ)
  • Vampire Hunters (แวมไพร์ฮันเตอร์ ฉีกฟ้าล่ามารแวมไพร์)
  • Happy Ghost IV (จะคนหรือผีก็แฮปปี้ทุกชาติ)
  • Spoorky Family (ตระกูลนี้ผีกลัวจนหัวหด)
  • Skin Striperess (ถลกหนังฝังวิญญานสยอง)
  • The TANTANA (จอมมารฉีกคัมภีร์สวรรค์)
  • Thunder Cops (อย่าฉุดผีหลุด1)
  • Return of The Evil Fox (อย่าฉุดผีหลุด2)
  • ขบวนการสยบผีกัด
  • New Mr.Vampire 1-2 (ดิบก็ผีสุกก็ผี 1-2)
  • The Chinese Ghost Buster (จงขุยเทพเจ้าปราบมาร)
  • Doctor Vampire (จับผีมาดูดเลือด)
  • My Flying Wife (นรกไฮเทค 2002)
  • Red and Black (อาถรรน์มารโลหิต)
  • Exorcist Master (อาจารย์ผีกัด ฟัดผีดิบ)
  • ผีสาวจอมอิทธิฤทธิ์ (หนังชุด)


ผลงานที่มีชื่อเสียง

Mr. Vampire – ผีกัดอย่ากัดตอบ (1985, Ricky Lau)


       ถือเป็นตำนานบทหนึ่งของหนังฮ่องกงไปแล้วสำหรับ Mr.Vampire หนังสไตล์ผีกระโดด ที่ดังที่สุด และสร้างภาคต่อตามกันออกมาอีกหลายภาค (โดยแต่ละภาคไม่ได้มีเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกันเลย) ภาคแรกออกฉายในปี 1985 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ นักพรตปราบผี(หลินเจิ้งอิง) ที่ต้องต่อกรกับผีดิบอันแสนน่ากลัว โดยได้รับการช่วยเหลือจากสองลูกศิษย์ตัวแสบ (เฉินเสี่ยวเห่า และ Ricky Hui) หนังทำออกมาได้ทั้งน่ากลัว (ที่มาดูในยุคนี้ความน่ากลัวคงลดน้อยไปตามกาลเวลา) ความขบขัน และที่สำคัญที่สุดคือหนังเต็มไปด้วยฉากแอ็กชั่นในแบบหนังกังฟู

       หนังกำกับโดย Ricky Lau ซึ่งงานเด่นของผู้กำกับคนขี้นก็คือหนังชุด Mr.Vampire ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Mr.Vampire 1 – 4 หรือ New Mr.Vampire 1 – 2 ส่วนหนังเรื่องอื่นๆ ของเขาจะออกไปในแนวรุ่งริ่งมากกว่ารุ่งเรืองความอาภัพของ ริกกี้ เลา ก็ยังไม่หมดเพียงทำนี้ เพราะถึงแม้งานชุด Mr.Vampire จะดังเอามากๆ ความดีความชอบส่วนใหญ่กลับถูกยกไปให้คนอื่นๆ ซะมากกว่าไม่ว่าจะเป็น หงจินเป่าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง หรือตัวดารานำอย่างหลินเจิ้งอิงที่ แสดงได้ยอดเยี่ยมจนบทบาทนี้ติดตัวเค้าไปตลอดชีวิต


       หนังเล่าเรื่องของ ลุงเก้า (หลินเจิ้งอิง) นักพรตเต๋าประจำหมู่บ้าน ผู้ได้รับความเคารพจากชาวบ้านทุกหมู่เหล่า ให้เป็นผู้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ นอกจากตำราคาถา เวทมนต์แห่งเต๋า ที่ใช้กำหราบเหล่าวิญญานร้าย และบรรดาศพคืนชีพแล้ว ลุงเก้า ยังเป็นยอดฝีมือ เขาเปิดรร้านรับทำพิธีอยู่ในตัวเมือง โดยมีลูกศิษย์สองคนอย่าง อาหมั่น (ริกกี้ ฮุย) และอาโจว (เฉินเสี่ยวโหว) ค่อยอยู่รับใช้ช่วยเหลือ

       ในวันหนึ่ง ลุงเก้า ได้รับการว่ายวานจากเศรษฐี ขอคำปรึกษาเรื่อง การย้ายหลุมฝังศพบรรพบุรุษ (ฮวงซุ้ย) ที่จะนำมาซึ่งโชคลาภอันมหาศาล เป็นคำแนะนำที่เขาได้รับคำแนะนำมาจากหมอดูผู้หนึ่ง เมื่อ 20 ปีก่อน ลุงเก้ารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของเรื่องดังกล่าว กลายเป็นว่าท่านเศรษฐีถูกหลอกให้ฝั่งศพไว้ใน สถานที่อัปมงคล ที่นอกจากจะไม่นำโชคลาภวาศนามาให้แล้ว ยังจะพาความซวยมาเยือนอีกด้วย



       เมื่อลองเปิดขุดหลุมฝังศพออกมาดู ภาพที่ปรากฏก็คือศพในโลก ยังดูสดเหมือนพึ่งตายไปไม่กี่เดือน สร้างความแตกตื่น แก่ทุกผู้ทุกคนที่ได้เห็น ลุงเก้า พยายามแก้ไขสถานการณ์ร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยการนำศพมาเก็บไว้ ปิดผนึกด้วยคาถาชั้นสูง แต่ทุกอย่างสายเกินแก้ซะแล้ว ศพที่ได้รับอาเพศจากฮวงซุ้ยมหาซวย ก่อให้เกิดอำนาจมืดอันยากจะต้านทานได้ เกิดขึ้นชีพขึ้นมาในวันหนึ่ง ตัวท่านเศรษฐีกลับเป็นผู้เคราะห์ร้ายรายแรก ที่ถูกกัดจนถึงฆาตรเสียชีวิตไป

       ระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายกับเรื่องศพเศรษฐีคืนชีพ นายตำรวจสมองสุดบื่อ หลานชายตัวแบของเศรษฐี กลับปรักปรำลุงเก้า ว่าเป็นฆาตรกรซะเอง เป็นเวลาเดียวกันกับที่ผีร้ายเิริ่มออกอาละวาด เป้าหมายของผีร้ายก็คือ ลูกสาวคนสวย (หลี่ไช่ฟง) ทายาทของท่านเศรษฐี หญิงสาวสวยน่ารัก ที่อาหมัน แอบปิ๊งอยู่ลึก หนุ่มชื่อตัดสินใจ เข้าช่วยเหลือปกป้องหญิงสาว กลับถูกผีดิบกัด จนติดพิษ ที่จะทำให้กลายเป็นผีดิบไปอีกคน ลุงเก้า ยังต้องปวดหัวกับลูกศิษย์ อีกคน อย่าง อาโจว ที่ไปหลงรักวิญญานสาวลึกลับเข้า (พอลลีน หวัง) ที่ถอนตัวไม่ขึ้น จนจะกลายเป็นวิญญานตามผีสาวไปอยู่มะรมมะร่อ ความวุ่นวายของทั้งคน ทั้งผี มีเพียง หมอคน ผู้ปราบผี อย่างลุงเก้า เท่านั้นที่จะแก้ไขได้


       ผีกัดอย่ากัดตอบ สามารถคนหาจุดกึ่งกลาง ระหว่างความฮาที่ต่อเนื่อง ความน่ากลัวที่มีให้เห็นกันอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานภาพของ Peter Ngor ที่ขับเน้นบรรยากาศแห่งความลีลับ สยองขวัญได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตามจุดเด่นของหนังอยู่ที่การ หนังระดมมุขตลกแอ็กชั่น เกมส์ซ่อนแอบ วิ่งไลจับระหว่างคนกับผี ที่ทำออกมาได้สนุกสนาน และสร้างสรรค์สุดๆ ต้องขอบคุณความสามารถ ทั้งแอ็กติ่ง ความเข้าขา และลีลาผาดโผน ทำให้ฉากเหล่านี้ดูลงตัวดีเหลือเกิน

       ช่วยให้หนังมีบรรยากาศแห่งความเป็นหนังผีจริงๆ และที่สำคัญคิวบู๊เทพของบรรดานักแสดง หนังนำเสนอเรื่องราวพิธีกรรม อันเก่าแก่โบราณ ที่แม้หนังจะมีลีลาตลก กลับบอกเล่าเรื่องราวอัน ได้อย่างน่าเชื่อถือ กระจกหกเหลี่ยม ข้าวสารเสก กลั้นหายใจแล้วผีจะมองไม่เห็น และที่สำคัญ ยันกระดาษสีเหลืองที่แปะหน้าผากปุ๊ปผีสิ้นฤทธิ์ปั๊ป กลายเป็นกฏ กติกา มารยาท มาตรฐานสำหรับหนังแนวนี้ไปโดยปริยาย โดยไม่ต้องไปสืบค้นว่า สิ่งต่างๆ ที่เห็นในหนังเป็นจริง หรือไม่ เรียกว่า ผีกัดอย่ากัดตอบ ได้สร้าง “ข้อเท็จจริง” ของผีจีนขึ้นมาใหม่กันเลยทีเดียว

       ถ้าจะมีอะไรให้ขัดใจกับบ้าง เห็นจะเป็นพล็อตย่อยอันว่าด้วย หนุ่มนักปราบผี กับวิญญานสาว ที่ดูผิดที่ผิดทาง ไม่กลมกลืนกับส่วนอื่นๆ ของหนัง อย่างไรก็ตาม ผู้สร้างก็คงจะดีใจได้เล็กๆ ได้เหมือนกับ ที่พวกเขาได้สร้างเนื้อหาที่ สามารถเรียก “มาก่อนเวลา” ได้อยู่เหมือนกัน กับเรื่องราวรักของคนกับผี ที่ถึงแม้ไม่ฮิตในต่อนั้น แต่ต่อมาอีกไม่กี่ปี กลายเป็นของยอดนิยม ด้วยมือของ ฉีเคอะ ในหนังชุด โปเยโปโลเย ที่เรารู้จักกันดีนั้นเอง


       สำหรับ พระเอกตัวจริงของงานนั้น ไม่ใช่ผี ไม่ใช่เอฟเฟคทั้งหลายในหนัง ไม่ใช่พระเอกหนุ่มรูปหล่อในเรื่อง แต่เป็น บทอาจารย์ปราบผี นักพรตเต๋าจอมยุทธยอมคาถา ที่แสดงนำโดย หลิวเจิ้งอิง ดาราแอ็กชั่น และสตั้นแมนมากฝีมือ ได้มีโอกาสรับบท ที่เปลี่ยนอาชีพเขาไปตลอดการ เขาให้การแสดงที่เยี่ยมยอดทั้งการแสดงบทบาทของ ซินแซ ผู้ภูมิฐาน น่าเคารพ และกล้าหาญชาญชัย อีกองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้ดาราหน้าติดหนวด ดูโดดเด่น จนภาพนักพรตชุดเหลือง คิวต่อ ถือดาบไม้ (หรือดาบเหรียญ) กลายเป็นภาพจำของเขาไปโดยปริยาย

       หลิวเจิ้งอิง เริ่มต้นอาชีพวงการด้วยวิธีพื้นฐาน ่เช่นเดียวกับเพื่อนนักแสดงบู๊คนอื่นๆ ในยุค 70 – 80 ด้วยการเป็นเด็กฝึกหัดงิ้ว ในโรงเรียน สอนอุปรากรณ์จีน ด้วยรูปร่างเล็ก ผอมบาง ทำให้หลิวเจิ้งอิงได้รับบทประจำเป็นตัวนาง ความถนัดดังกล่าวสืบทอด ต่อเนื่องเมื่อเขาก้าวสู่วงการภาพยนตร์ ที่เขามักจะได้รับหน้าที่เป็นสตั้นแมนให้กับนักแสดงหญิง ต่อมาหงจินเป่าชักชวนให้ หลิวเจิ้งอิง เข้ามาร่วมทีมสตั้นแมน และตัวประกอบในหนังกังฟู ได้รับบทเด่น บทรอง มาเรื่อย



       จนกระทั่งปี 1984 นี้เองที่บทอาจารย์ปราบผี สร้างให้หลิวเจิ้งอิง กลายเป็นหนึ่งในหน้าตำนานแห่งหนังฮ่องกง ความโด่งดังที่ได้รับกลับเป็นเหมือนดาบสองคม ในทางหนึ่งช่วยยกระดับอาชีพของเขา กลายเป็นดารากังฟูแถวหน้าอยู่นานหลายปี แต่ในทางตรงกันข้าม หลิวเจิ้งอิง กลับต้องจมอยุ่กับบทซ้ำๆ เดิมๆ อยู่นานไม่สามารถ ฉีกแนวไปเล่นบทบาทอื่นๆ

       ได้ช่วงท้าย ของอาชีพ หลิวเจิ้งอิง ต้องวนเวียนอยู่กับหนังทุนต่ำ คุณภาพด้อย หักจากวันเวลาแห่งหนังกังฟู และหนังผีกัด ได้หมดสิ้นไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว แม้ยายวิกไปยังจอเล็ก หลินเจิ้งอิง ก็ยังคงรับบทซ้ำเดิม จนกระทั่งตายไปกับบทอาจารย์ปราบผี ทิ้ง Vampire Expert ไว้เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของชีวิต ในปี 1997




       ที่สมควรพูดถึงเป็นพิเศษเห็นจะเป็นผู้รับบท “ผีดิบ” ตัวหลักของเรื่อง ภายใต้เมกอัพหน้าเต๊อะ และเครื่องแต่งกายรุ่มร่าม ผีตัวร้ายนั้นแสดงโดย ดารากังฟู ที่ทุกคนรักอย่าง หยวนหัว (Kung Fu Huslte) ซึ่งนี่น่าจะเป็นบท ตัวละครหลักบทแรกๆ ที่หยวนหัวได้รับเลย หยวนหัวยังรับหน้าที่ กำกับคิวบู๊คู่กับหลิวเจิ้งอิงด้วย การที่ทั้งรับบทเด่น ที่ต้องรวมแสดงหนังเกือบทั้งเรื่อง แล้วยังรับผิดชอบงานเบื้องหลังอีก ถือว่าแสดงออกถึงความสุดยอดในงานสายคิวบู๊ ของทั้งสองได้เป็นอย่างดี

       เทียบกับหนัง “ผีกัด” เรื่องอื่นๆ ผีกัดอย่ากัดตอบ ภาคหนึ่ง อาจจะไม่ได้มีองค์ประกอบอะไรที่หวือหวา แต่เต็มไปด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน ที่เราคิดถึง และจดจำได้ โดยเฉพาอย่างยิ่ง หลินเจิ้งอิง ผู้ล่วงลับ ที่การรำลึกถึงเขา คงจะไม่มีอะไรดีกว่า การหยิบ ผีกัดอย่ากับตอบ มาดูอีกครั้ง



ใบปิด Mr. Vampire


ตัวอย่าง Mr Vampire ผีกัดอย่ากัดตอบ


ผีกัดอย่ากัดตอบ ภาค 1 Ghost Bride Mr Vampire 1985

    Credits
    บริษัทผู้สร้าง –
    Bo Ho Films Co., Ltd., Paragon Films Ltd.
    กำกับ – Ricky Lau Koon-Wai
    บริษัทจัดจำหนาย – Golden Harvest Productions (Hong Kong)
    อำนวยการสร้าง – Sammo Hung Kam-Bo
    บทภาพยนตร์ – Sze-To Cheuk-Hon, Barry Wong Ping-Yiu
    กำกับภาพ – Peter Ngor Chi-Kwan
    ตัดต่อ – Peter Cheung Yiu-Chung
    ดนตรีประกอบ – Anders Nelsson, Alastair Monteith-Hodge, The Melody Bank
    กำกับศิลป์ – Honny Lam Sai-Lok
    กำกับคิวบู๊ – Lam Ching-Ying, Yuen Wah
    แสดงนำ – Lam Ching-Ying, Chin Siu-Ho, Moon Lee Choi-Fung, Ricky Hui Koon-Ying, Pauline Wong Siu-Fung, Lu Nan-Chuang, Wu Ma, Anthony Chan Yau, Billy Lau Nam-Kwong, Yuen Wah, Tin Kai-Man
    • Thailand Distribution – ชื่อไทยในการเข้าฉายคือ “ผีกัดอย่ากัดตอบ” มีแผ่น VCD และ DVD จาก United Home Entertainment
    • Rating – 5/5
    *******************************

    « แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 สิงหาคม 2017, 18:07:07 โดย เซียวเหล่งนึ่งฯ »


    สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
    5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
    ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
    ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
    ติดต่อ 0909040355

    ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

    ออฟไลน์ นายเค

    • Thaicine Movie Team
    • Moderator
    • พี่น้อง thaicine Gold member
    • ***
    • กระทู้: 3814
    • พลังใจที่มี 616
    • เพศ: ชาย
    Mr. Vampire 2- ผีกัดอย่ากัดตอบ 2 (1986, Ricky Lau)



           หนังจากประสบความสำเร็จอย่างมหาศาจจาก ผีกัดอย่ากัดตอบ บริษัท Bo Ho Film ของหงจินเป่า ไม่รอให้โอกาสผ่านเลยไปโดยไม่ได้กอบโกย เร่งสร้างภาคสองตามติดอย่างทันท่วงที ในปีต่อมา พร้อมกับการกลับมาของหลินเจิ้งอิง ในบทอาจารย์ปราบผี อีกครั้ง

           ถึงหนังจะได้ชื่อว่าเป็นภาคต่อ ทีมงานชุดเก่า นักแสดงหลายคนก็กลับมาแสดงในภาคต่อเป็นครั้งที่สอง แต่ที่จริงแล้วตัวหนังเอง ไม่ได้มีเนื้อหา ต่อเนื่องเกี่ยวข้องอะไรกันเลย ถ้าจะให้คำจำกัดความผีกัดอย่ากัดตอบ ภาค 2 สั้นๆ ก็คงจะได้ว่าเป็น การนำ ผีกัดอย่ากัดตอบ + E.T จนได้ออกมาเป็นหนัง ผีกัดอย่ากัดตอนที่สอง

           หนังเปิดเรื่องที่ ด็อกเตอร์นักวิทยาศาตร์ พร้อมกับลูกน้องสองคน เดินทางมาเปิดถ้ำโบราณเพื่อหาของมีค่า กลับพบศพสามพ่อแม่ลูก แต่งการด้วยชุดข้าราชการสมัยชิง อายุน่าจะเกิดหนึ่งร้อยปี แต่สภาพศพกลับดูใหม่ เนื้อหนังยังคงอยู่ครบ แท้จริงแล้ว นี้เป็นร่างของผีดิบ ศพคืนชีพทที่ถูกผู้มีอาคมผนึกไว้ด้วยยันศักดิ์สิทธิ์ รอวันฟื้นคืนมาอีกครั้ง


           ทั้งสาม มองเห็นลาภก้อนโตอยู่ตรงหน้า นำศพผีดิบกลับมาสู่ฮ่องกง กับความหวังเงินก้อนโตจาก บรรดานักสะสมของเก่า ในระหว่างการ ขนย้าย ศพเด็กเด็กน้อย เพื่อนำส่งมอบแก่ลูกค้า เพื่อตรวจสอบในฐานะสินค้าตัวอย่าง ยันที่หน้าผากของเด็กผี กลับหลุดไปโดยบังเอิญ จนศพกลายเป็นผีเด็กที่แน่นิ่ง ลุกขึ้นมากระโดดโหย่ง และหลบหนีหายไปในความมืด

           ผีตัวเด็กหลุดไปได้ แต่ด้วยความหัวเดียวกระเทียมลีบ แม้จะเป็นผี แต่ความเป็นเด็กก็ยังอยู่ การห่างจากพ่อแม่ทำให้มันเกิดความอ้างว้าง และหวาดกลัว มันจึงอาศัยข้าไปหลบในบ้านหลังหนัง เจ้าผีเด็กได้พบ และได้รับความช่วยเหลือให้ที่พักพิง จากเด็กชาย หญิง สองพี่น้อง เจ้าของบ้าน ที่เข้าใจผิดไปเอง หลังจากเห็นข่าวในทีวี ว่าเจ้าเด็กผีที่แท้คือ เด็กลักลอบเข้าเมืองจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ต้องการความช่วยเหลือ

           ด้านด็อกเตอร์ หลังจากเสียศพผีดิบไปแล้วหนึ่ง ความวุ่นวายยังเกิดขึ้นไม่เลิก ในห้องทดทอง สถานที่เก็บผีดิบตัวพ่อแม่ ความซวยแบบเดิมบังเกิดอีกครั้ง แต่เพราะอุบัติเหตุ บวกกับความเลินเล่อ ทำให้ยันที่ปิดที่หน้าฝาก ศพสองผัวเมียหลุดออกมา แตกต่างกับผีเด็ก สองผีดิบผัวเมีย ที่โตเต็มวัย เต็มไปด้วยความดุร้าย ทั้งสองต่อสุ้ขัดขืน อยู่นานก่อนจะหมดฤทธิ์ ด้วยการถูก กล่าวจะจับมัด และแปะยันไว้ที่ หน้าผากตามเดิม แต่่กว่าจะสำเร็จ ก็เสียเวลา เสียกำลังไปโข ที่แย่ไปกล่าวนั้น หนึ่งในสองสมุนของด็อกเตอร์ เกิดพลาดดวงแตก ถูกผีกัดเข้าที่แขน


           เพียงเวลาไม่นาน บาดแผลเกิดพุพอง ลุลาม อย่างไม่นาเชื่อ ไอ้หนุ่มเคราะห์ร้าย จึงพึ่งพาเอาร้านขายยาแผนโบราณ อาจารย์หลิน (หลินเจิ้งอิง) เจ้าของร้าน นอกจากจะมีความรู้เรื่องยา และการรักษาโรคแผนโบราณแล้ว เขายังเป็นผู้สืบทอดวิชาปราบผีของนักพรตเต๋าด้ว ทันทีที่เห็นแผลพุพอง ดังกล่าวก็รู้ได้ทันทีว่า นี้ไม่ใช่บาดแผลปกติธรรมดา แต่เกิดจากการทำร้ายของผีดิบ

           อาจารย์หลิน พร้อมด้วย อาเหยิน (หยวนเปียว) นักข่าวหนุ่ม ที่กำลังติดพันอยู่กับลูกสาวคนสวย (หลี่ไช่ฟง) ของเขา ออกติดตามหนุ่มเคราะห์ร้ายไป จนได้พบกับที่ซ้อน ผีดิบพ่อแม่ ณ ห้องใต้ดินของด็อกเตอร์ ทุกคนล้วนมีเป้าหมายต่างกัน อาจารย์หลินหวังทำลายผีดิบทั้งสองก่อนที่ ประชาชนบริสุทธ์ ต้องถูกทำร้าย ขณะที่อาเหยิน เห็นนี้เป็นโอกาศในอาชีพนักข่าวของเขา เช่นเดียวกับกลุ่มด็อกเตอร์สติเฟื่อง ที่เห็นผีดิบพ่อแม่ลูก เป็นตัวเงินตัวทองดีๆ นี่เอง


           การแย่งชิงตัวซากศพจากโบราณ กลับทำให้ ผีดิบ หลุดออกไปยังท้องถนน มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางเดียว คือตามหาลูกน้อยที่สูญหาย ก่อให้เกิดความวุ่นวายแตกตื่นของประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจยกขโยง กันมาขบวนใหญ่ กลับไม่สามารถทำอะไรได้ คนที่จะแก้ไขสถานการณ์ก็คือ อาจารย์หลิน ยอดนักปราบผีดิบเท่านั้น

           อย่างที่เห็นได้ชัดเจน หนังเปลี่ยนแปลงฉากหลังจาก อดีตที่ไม่สามารถเจาะจงได้ในภาคแรก มาเป็นยุคปัจจุบัน ซึ่งอาจจะเป็นความคิดที่ผิด เพราะหนังออกมาเลอะเทอะ เนื้อเรื่องสับสนวุ่ยว้าย การตัดสลับสองเหตุการณ์ ระหว่างเนื้อเรื่องของมิตรภาพ ของเด็ก และผี กับอีกส่วนเป็นการไล่จับผีของนักพรต ทำได้ไม่เนื้ออารมณ์ของเรื่องโดดไปมา ส่วนของผีเด็ก กับสองพี่น้อง นั้นดูแล้วช่วยให้นึกถึงหนังสายสัมพันธ์มนุษย์ต่างดาวอย่าง E.T. อยู่ไม่น้อย ดูไปแล้วก็ไม่ได้เข้ากันกับหนังเลย เทียบกับบทผีเด็กในหนังแนวเดียวกันเรื่องอื่นๆ ที่คุ้นชินกันที่สุดเห็นจะเป็นหนังเรื่อง “ผีแพ้ตี๋” ที่นำเสนอ ความน่ารัก ปนสยอง ได้อย่างน่าสนใจ


           ปัญหาหลักของ Mr.Vampire ภาคสอง ก็คือ ผู้สร้างดูจะผลักดันให้หนัง เอนเอียงไปทางแนวตลกโปกฮา มากกว่าเก่า นั้นเป็นการทำลายความสมดุลที่เคยมีอยู่ในหนังภาคแรกไปโดยปริยาย หนังขาดอารมณ์ลึกลับ ที่ผสมเอาเรื่องราวของขนบประเพณีโบราณ ตำนานพื้นบ้าน จริงๆ บทของ แบรี่ หว่อง เองก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายมีมุข ลูกล่อลูกชนอยู่บ้างพอสมควร เช่นเดียวกับคิวบู๊ ที่ยังแสดงให้เห็นทักษะที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ

           ความย่ำแย่ของหนังดูจะเป็นความรับผิดชอบของ ผู้กำกับ ริกกี้ เลา เสียเป็นส่วนใหญ่ การเล่าเรื่องอย่างผิดที่ผิดทาง ควบคุมเรื่องไม่อยู่ เต็มไปด้วยความขาด และเกิน ทั้งเนื้อหาที่ใส่เข้ามาแบบผิวเผิน กลับไม่ได้พัฒนาต่อเนื่อง อย่างตัวละครของ หลี่ไช่ฟง ที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง และเดียวกับบางองค์ประกอบที่เหมือนโดนยัดเยียด อย่างเกินพอดี อย่างคิวบู๊ที่ว่าด้วยมุขของแก๊ซ “เชื่องช้า” ผลิตกรรมของด็อกเตอร์ ที่ทำให้ตัวละครเคลื่อนไหวกันแบบสะโลโมชั่น แรกๆ ก็ฮาดี ผู้กำกับกลับ เช่นไม่เลิกจนกลายเป็นความน่ารำคาญ


           ท่ามกลางความย่ำแย่ของหนัง ตัวนำอย่างหลินเจิ้งอิง ยังอำตัวรอดไปได้อย่างทุกลักทุเล ฉากทะเลาะเบาะแว้ง ในแนวคู่หูคู่กัด ของสองตัวละคร พ่อตาลูก เขย ของทั้งสองยังคงพอสร้างความขบขันให้หนังได้บ้าง พระเอกนักบู๊อย่างหยวนเปียวถูกดึงมา เพื่อเสริมความเกร่งให้กับทีมงานนักแสดง กลับไม่สามารถเปร่งประกายซุปเปอร์สตาร์กังฟู ได้อย่างที่หวัง แทบช่วยหยุดยั้งความล้มเหลมของหนังไม่ได้เลย เทียบกับเฉินเสี่ยวโหว ในภาคแล้ว หยวนเปียว ไม่ได้โอกาศโชว์ความสามารถในด้านความผาดโผน อย่างที่พระเอกของหนังภาคแรกได้แสดงออกมา ตัวละคร และนักแสดงในเรื่อง ส่วนใหญ่ไม่ได้มีอะไรน่าจดจำ ตัวผีทั้งสามพ่อแม่ลูก ก็ดูไม่มีราศีล ชวนให้น่าหัวเราะ มากกว่าจะขู่ให้ใครกลัวได้

           หนังชุด Mr.Vampire หรือ ผีกัดอย่ากัดตอบ ที่สร้างกันออกมาหลายภาค (อาจรวมหนังแนวเดียวกับเรื่องอื่นๆ ที่แสดงโดยหลินเจิ้งอิงด้วย) นั้นไม่ได้เป็นงานที่มีคุณค่าทางศิลปะอะไรมากมาย แต่หนังใช้ความบังเทิงกับได้แบบเต็มขั้น หลายๆ ภาคอาจจะขาดความลงตัว (อย่างที่ภาคแรกมี) ไปบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่เรียกว่า ดูสนุก น่าเศร้าที่ ผีกัดอย่ากัดตอบ 2 นอกจากจะไม่ได้มีคุณค่าทางภาพยนตร์อะไรเลย ตัวหนังยังขาดความลงตัวอย่างแรง เป็นงานที่แย่ที่สุดในกลุ่มก็อาจจะว่าได้




    ตัวอย่าง Mr. Vampire 2 (1985)


    ใบปิด Mr. Vampire 2 - ผีกัดอย่ากัดตอบ 2

      Credits
      บริษัทผู้สร้าง –
      Bo Ho Films Co., Ltd., Paragon Films Ltd.
      กำกับ – Ricky Lau Koon-Wai
      บริษัทจัดจำหนาย – Golden Harvest Productions (Hong Kong)
      อำนวยการสร้าง – Sammo Hung Kam-Bo
      บทภาพยนตร์ – Sze-To Cheuk-Hon, Barry Wong Ping-Yiu
      กำกับภาพ – Peter Ngor Chi-Kwan
      ตัดต่อ – Peter Cheung Yiu-Chung
      ดนตรีประกอบ – Anders Nelsson, Alastair Monteith-Hodge, The Melody Bank
      กำกับศิลป์ – Honny Lam Sai-Lok
      กำกับคิวบู๊ – Lam Ching-Ying, Yuen Wah
      แสดงนำ – Lam Ching Ying, Moon Lee, Yuen Biao, Billy Lau, Chung Faat, Wu Ma
      • Thailand Distribution – ชื่อไทยในการเข้าฉายคือ “ผีกัดอย่ากัดตอบ” มีแผ่น VCD และ DVD จาก United Home Entertainment
      • Rating – 2/5
      สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
      5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
      ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
      ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
      ติดต่อ 0909040355

      ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

      ออฟไลน์ sangkhaboy

      • เพื่อนร่วมทาง ปรับชั้นต้องโพสรวม 150 กระทู้
      • *
      • กระทู้: 125
      • พลังใจที่มี 7
      ชอบ ท้าดวลทะลักขีดครับ ฉีกแนวผีๆบ้าง
      ส.ต.อ.วินัย ทะกาเนนะ
      สภ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 96120
      โทร.0650345155
      บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเมืองนราธิวาส เลขที่บัญชีออมทรัพย์ 032-1223-40-0
      email : winaitakanena@yahoo.com

      ออฟไลน์ นายเค

      • Thaicine Movie Team
      • Moderator
      • พี่น้อง thaicine Gold member
      • ***
      • กระทู้: 3814
      • พลังใจที่มี 616
      • เพศ: ชาย
      Mr. Vampire 3 – ผีกัดอย่ากัดตอบ 3 (1988)


             Mr. Vampire หรือ ผีกัดอย่ากัดตอบ ดำเนินมาถึงภาคที่สามแล้ว ทีมงานเดิมๆ ที่เคยทำให้ภาคหนึ่งสุดยอด แต่กลับล้มเหลวเล็กๆ ในภาคสอง ในหนังภาคที่ 3 ผีกัดอยากัดตอบ ได้กลับมาสู่จุดที่ควรเป็นอีกครั้ง แก้ตัวกันอีกครั้ง ทั้ง ผู้กำกับ ริกกี้ เลา, ผู้อำนวยการสร้างหงจินเป่า กับทีมคิวบู๊ของเขา และอาจารย์ปราบผีคนเก่าคนเดิม หลินเจิ้นอิง ที่ผนึกกำลังกัน จนบางคนพูดว่าภาคนี้เป็นหนังภาคที่เยี่ยมทีสุดในชุด เลยทีเดียว

             เช่นเดียวกับหนังภาคก่อนๆ ที่เล่าเรื่องไม่ต่อเนื่อง มีเนื้อหาแยกออกจากกัน หลังจากเรื่องราวหนังผจญภัยกันไปยังยุคปัจจุบัน (และเกิดอาการแป๊กอย่างแรง) กันมาในภาคที่แล้ว ผีกัดก็กลับมาอยู่สู่ยุคโบราณแบบภาคแรกแล้วที่คุ้นเคยกันอีกครั้ง องค์ประกอบหลายๆ อย่างถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง ขณะเดียวกับหนังก็ใส่ไอเดียใหม่ๆ เข้าไป



             บ้านเศรษฐีต้องพบกับ อาจารย์หมิง (Richard Ng) เป็นนักพรตปราบผีผู้เดินทางไปทั่วสารทิศ รับจ้างจับผี ปราบปีศาจ ทั่วราชอาณาจักร นั้นเป็นเพียงฉากหน้าที่แสดงให้เห็น แท้จริงแล้ว อาจารย์หมิง หากินด้วยการเป็นสิบแปดมงกุฎ เขาเลี้ยงผีน้อยสองพี่น้อง ต้าเป่า และเสี่ยวเป้า เอาไว้เพื่อคอยต้มตุ๋นหลอกเอาเงินพวกเศรษฐี ด้วยการปล่อยสองผีพี่น้อง ออกไปอาละวาด และตามมาด้วยฉากปราบผีกำมะลอชุดใหญ่ ที่แสดงความเก่งกาจของหมอผีจอมคาถา ซึ่งถ้าเกิดผีตัวโหดจริงเกิดโผล่ขึ้นมา ก็ถึงคราวป่าราบกันทั้งคนทั้งผี

             ทั้งสาม หนึ่งคนสองผี เร่รอนไปด้วยกัน โดยสองผีน้อยอาศัยอยู่ในร่มวิเศษ เดินทางหากินตระเวนไปยังที่ต่างๆ หลังจากบ้านของเศรษฐีมา อาจารย์หมิง และสองผีน้อย เดินทางมาถึงหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างพกอาวุธทั้งมีด และดาบ เหมือนเตรียมตัวออกสงครามอยู่ แท้จริงแล้วหมู่บ้านถูกรังควานจากกลุ่มโจรที่เรียกว่า จอมโจรม้า คนเถื่อนที่คอยปล้อนสะดม ทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมานาน


             พวกมันไม่ใช่โจรป่าธรรมดาสามัญ แต่เป็นเล่นคาถาอาคม มีวิชาพิสดารที่ฟันแทงไม่เข้า ยากที่ด้วยวิธีปกติธรรมดาจะต่อกรได้ ชาวบ้านต้องพึงพิงไปที่ หมอผียอดฝีมือ ลุงเก้า (หลินเจิ้งอิง) ผู้มีวิชาของนักพรตเต๋าที่สามารถต้านทาน พวกนอกรีตเหล่านี้ได้ การมาถึงของ หมอผีกำมะลอ อาจารย์หมิง ดูจะสร้างความคาดหวังให้กับชาวบ้านขึ้นไปอีก เพราะต่อไปนี้จะมีผู้มีคาถาอาคมถึงสองคน คอยอยู่ช่วยเหลือพวกเขา สองมือผี

             หลังจากหมอผีทั้งสองได้พบกัน ลุงเก้า ถึงได้ล่วงรู้ว่า อาจารย์หมิง เลี้ยงผีน้อยสองตนไว้ เป็นการหาเช้ากินค่ำ มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก คนกับผีนั้นไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ มันฝืนต่อชะตาฟ้ากำหนด เงินหรือทรัพย์สิน ที่หาไม่ได้ไม่นานก็ต้องสูญเสียไปอย่างง่ายได้ สุดท้ายหมอผีกำมะลอจำเป็นต้อง แยกทางกับสองผีน้อย จนกระทั่ง ต้าเป่าเทียน


             เป่า ถูกนักมารจอมโจรม้าจับตัวไป และสะกดจิต ใจกลับมาเล่นงานพวกชาวบ้านกับอาจารย์ทั้งสอง เพื่อช่วยลูกน้อง สองสมุนคนสนิท ที่ถูกจับเป็นตัวประกันเอาไว้ หลังจาก ต้าเปา ที่กลายเป็นผีดุ บุกมาอาละวาดสร้างความวุ่นวายไปทั่ว นางจอมมารก็ตามมาสมทบอีกแรง แต่สุดท้ายก็ไม่คะนามือต่อ ลุงเก้า นางมาร และลูกน้องทั้งสองถูกสังหารในที่สุด สองผีน้อย ต้าเป่า เทียนเป่า กลับมาได้สติ แต่อาจารย์หมิง ก็ยังผลักไล่ใสส่ง ไม่ให้มาอยู่ร่วมกันอีก

             หลังจากภัยจากโจรม้าได้สิ้นสุด ชาวบ้านร่วมกันจัดงานเลี้ยงฉลองใหญ่ โดยหารู้ไม่ว่า นางมาร และลูสมุนทั้งสอง ที่ได้ตกตายตามกันไปแล้วนั้น ได้หวนกลับคือมาสร้างความเดือดร้อนอีกครั้ง แต่คราวนี้ร้ายแรง และอันตรายมากกว่าเดิม เพราะทั้งสามได้กลายสภาพกลายเป็นผีร้าย ที่พกเอาความแค้นมาเต็มพิกัด


             มีความเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับหนังเรื่อง ผีกัดอย่ากัดตอบภาค 3 นี้ บางคนชอบหนังมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของคิวบู๊ที่ทำออกมาได้อย่างเด็ดสะระตี่ ในทางตรงกันข้าม บางคนก็ไม่ค่อยชอบหนังภาคนี้เท่าไหร่นัก สืบเนื่องจาก หนังมีขนบเก่าๆ ของหนังประเภท “ผีกัด” น้อยไปซักหน่อย

             ส่วนตัวผมอยู่ในจำพวกแรกนะครับ คือค่อนข้างชอบหนังอยู่พอสมควรเลย หนังดูพยายามคิดไอเดียใหม่ๆ ให้กับหนังประเภทผีกัด โดยย้ำอยู่กับชื่อเสียงเดิมๆ หนังมีการดีไซท์กติกาใหม่ๆ (กลั้นหายใจ แล้วผีไม่เห็น เปลี่ยนมา เป็นทาตัวด้วยขี้เถ้า เพื่อเอาพรางผี) ดีไซท์อาวุธและอุปกรณ์ใหม่ๆ จนไปถึงดีไซท์ตัวผีแบบใหม่ๆ นำมาซึ่งสถานการณ์ และมุขใหม่ๆ บางอันก็เวิร์กดี บางอันก็พิลึกเหลือเกิน



             สิ่งที่แตกต่างจากหนังผีกัดอย่ากัดตอบ หรือหนังผีจีนประเภทเดียวกันเรื่องอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ก็คือ Mr. Vampire 3 เป็นหนังประเภทผีกัดที่ให้น้ำหนักกับ “ภาคบู๊” ของหนังอย่างเต็มที่ ฉากต่อสู้หลายๆ ฉากในหนังเพิ่มดีกรีความตึงเครียดขึ้นมาจากภาคก่อนฉากต่อสู้ของ ฉากตะลุมบอนโรมรันฟันตู ระหว่างกองกำลังชาวบ้าน และกลุ่มโจรทำออกมาได้อย่างน่าตื่นเต้น ขณะที่ฉากดวลเดี่ยวระหว่าง อาจารย์ปราบผีหลินเจิ้นอิง และนางปีศาจสาวทำออกมาได้หวือหวา

             เนื้อเรื่องหลากหลาย รวมถึงเรื่องรักเรื่องใคร่ ฉากประเภทหนุ่มจีบสาว แบบในภาคเก่าๆ มาในภาคนี้เนื้อหาทำนองนี้ได้ถูกตัดออกไปจนหมด ซึ่งก็ทำให้หนังภาคนี้แทบจะไม่มีตัวละครเอกฝ่ายหญิง (ที่สองภาคแรกรับบทโดย หลี่ไช่ฟง ทั้งคู่) มาให้ชุ่มหัวใจกันบ้างเลย



             แน่นอนว่าฉากตลกโปกฮา แบบฉบับผีกัดอย่ากัดตอบยังคงมีอยู่ครบครัน แต่ละมุขที่ขนกันมาก็มีทั้งฝืดบ้าง ฮาบ้างปนๆ กันไป ตัวละครประเภทลูกศิษย์หมอผีบ้าๆ บวมๆ ที่ดูเหมือนจะคอยก่อเรื่อง มากกว่าช่วยเหลือ ก็ยังคงอยู่ แต่ก็ถือว่าถูกลดบทบาทลงไปเป็นตัวรอง คอยออกมาเล่นมุขตลกเจ็บตัวสลับฉาก มากกว่าจะเป็นตัวเอกเหมือนในภาคก่อน

             โดยหนังเปลี่ยนมาเน้นที่ตัวอาจารย์ปราบผีทั้งสองคนแบบเต็มๆ โดย Richard Ng รับบทตลกไป ส่วนฉากแอ็กชั่น คิวบู๊ ก็เป็นหน้าที่สัมปทานของหลินเจิ้งอิง อีกสองตัวละครที่เด่นในภาคนี้ก็คือ สองผีพี่น้องน่าแสนน่าสงสาร ที่เป็นลูกศิษย์ของ Richard Ng ที่มีฉากน่ารักน่าสงสารหลายฉากทีเดียว อีกคนที่ต้องชมเฉยก็คือ ดาราสาว พอลลีน หวังอี้เหวิน ที่รับบทเป็นนางมาร จอมโจรม้า ในเรื่อง ที่ได้การแต่งหน้า และคอสตูม แล้วการแสดงของเธอก็ยังช่วยให้บทตัวร้ายในเรื่อง ดูน่าสนใจ น่าจดจำขึ้นมาไม่น้อยเลย


             เมื่อพูดถึงจุดเด่น ก็ต้องมีจุดด้อย ความที่หนังฉีกตัวจากภาคก่อนหน้าทั้งสองมากเกินไป ก็อาจทำให้คนผิดหวัง ขนบต่างๆ เกี่ยวกับผีกัดถูกลดทอนลงไป ถ้าจะว่ากันจริงๆ ใน ผีกัดอย่ากัดตอบ 3 นี้ไม่ได้มี “ผีกระโดด” อยู่ในเรื่องให้เห็นกันเลย สองผีพี่น้องที่เห็นในเรื่องนั้น แม้จะแต่งตัวด้วยชุดข้าราชการสมัยชิง เหมือนหนังผีกัดเก่าๆ แต่แท้จริงแล้วทั้งสองตัวละครนี้ เรียกได้ว่าเป็น “ผีแท้” คือเป็นประเภทวิญญาณแร่รอน เสียมากกว่า พวกมันหายตัวได้ อำพรางไม่ให้คนทั่วไปได้เห็น ดูมีสติสะตังพูดคุยได้ จนกระทั่งช่วงกลางๆ นั้นเองถึงจะกลายเป็นผีดิบไล่กัดคน ที่สำคัญเดินกันด้วยสองขาแบบสบายๆ ไม่ต้องกระโดดดึ่งๆ แต่อย่างใด

             ในหนังยังมีศัตรูมากมายหลายประเภทมาให้สองอาจารย์ปราบผีคนเก่งต้องกำราบ คน ปีศาจ คนถูกผีสิง ผีถูกสกดจิต ค้างคาวผี จนไปถึง ผีเหนอะหนะ ผีดิบที่ถูกต้มด้วยน้ำอาคมจนละลาย กลายเป็นเนื้อเละๆ เดินได้ (ที่ฟังดูสยอง แต่ในหนังออกมาแบบฮาๆ กันซะมากกว่า) โอเคว่ามากันให้เพียบแต่ยังไงเราก็คิดถึงผีกระโดดอยู่ดีนั้นแหละ


        Credits
        บริษัทผู้ผลิต
        – Bo Ho Films Co., Ltd.
        กำกับ – Ricky Lau Koon Wai
        อำนวยการสร้าง – Sammo Hung Kam Bo
        บทภาพยนตร์ – Szeto Cheuk-Hon, Lo Wing Keung
        ดนตรีประกอบ– Stephen Shing Gam-Wing, Anders Nelsson
        ตัดต่อ – Keung Chuen-Tak, Peter Cheung Yiu-Chung
        ถ่ายภาพ – Andrew Lau Wai-Keung
        กำกับศิลป์ – Ho Kim-Sing
        ออกแบบเครื่องแต่งกาย– Bobo Ng Bo-Ling
        แต่งหน้า– Lau Gai-Sing
        กำกับคิวบู๊ – Stephen Tung Wai, Lam Ching Ying, Sammo Hung Stuntmen’s Association
        แสดงนำ – Lam Ching Ying, Richard Ng Yiu Hon, Pauline Wong Yuk Wan, Billy Lau Nam Kwong, Lui Fong, Baan Yun Sang, Lee Chi Git, Fung Lee, Chow Gam Kong,Pang Yun Cheung, Cheung WingCheung,Chu Tau, Chun Kwai Bo, Gam Biu, Yip So [/list]

        **********************************
        สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
        5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
        ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
        ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
        ติดต่อ 0909040355

        ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได