ผู้เขียน หัวข้อ: เนื้อเรื่อง Jurassic Park ทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมา ก่อนดูภาคใหม่ Jurassic World  (อ่าน 2604 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

       คศ. 1993 มหาเศรษฐี John Hammond ประธานบริษัท InGen มีความฝันที่จะสร้าง Jurassic Park ขึ้นมาเนิ่นนานแล้ว แฮมมอนด์ออกทุนวิจัยให้ผู้เชี่ยวชาญ ไปขุดค้นยังแหล่งต่างๆทั่วโลกที่มีฟอสซิลไดโนเสาร์อยู่ และค้นหาวิธีเพื่อเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ขึ้นมาอีกครั้งให้จงได้ ในที่สุด แฮมมอนด์ก็พบวิธี ด้วยการนำเอายุงที่อยู่ในอำพันมาหลายร้อยล้านปี และสกัดเอาเลือดของไดโนเสาร์ที่ยุงกินในสมัยนั้นออกมา ก่อนที่จะนำดีเอ็นเอออกมาจากเลือดเหล่านั้น และเพาะพันธุ์หรือโคลนนิ่งไดโนเสาร์ขึ้นมาใหม่นั่นเอง (อย่าไปอิงวิทย์ฯมากนักนะครับ^^ นี่มันเรื่องที่แต่งขึ้น แฮ่...)


ยุงที่อยู่ในอำพันมาหลายร้อยล้านปี จุดเริ่มต้นแห่งการเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ขึ้นมาใหม่

       เมื่อทุกอย่างกำลังจะสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมที่จะเปิดในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ก็มีเหตุการณ์ที่พนักงานตายในปาร์คเพราะโดนไดโนเสาร์เล่นงาน ทำให้เหล่าผู้ถือหุ้นในบริษัทอินเจนยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยของจูราสสิคปาร์คเท่าที่ควร เหล่าผู้ถือหุ้นจึงต้องการให้นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญมารับรองปาร์คแห่งนี้  ก่อนจะเปิดปาร์คให้คนทั่วไปเข้าชม แฮมมอนด์จึงไปเชิญ Dr. Alan Grant  และ Dr. Ellie Sattler นักบรรพชีวินวิทยา ที่ทำงานภายใต้ทุนวิจัยของแฮมมอนด์นั่นเอง เพื่อให้ทั้งคู่มารับรองความปลอดภัยในปาร์คแห่งนี้ และแฮมมอนด์ยังได้เชิญ Dr. Ian Malcolm นักคณิตศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญทฤษฎีความผันผวนมารับรองอีกคน โดยที่เหล่าผู้ถือหุ้นได้ส่ง Donald Gennaro ทนายความเขี้ยวลากดินมาเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นทั้งหลาย เพื่อให้โดนัลด์เป็นพยานว่า นักวิชาการทั้งสามรับรองว่าจูราสสิคปาร์คแห่งนี้ผ่าน และพร้อมเปิดใช้งาน โดยนักวิชาการทั้งสามมีเวลาอยู่ในปาร์คแห่งนี้เพื่อวิเคราะห์ 48 ชั่วโมง


Donald Gennaro, Dr. Ian Malcolm, John Hammond, Dr. Ellie Sattler, Dr. Alan Grant, กำลังไปที่ Isla Nublar

       คนทั้งห้าจึงออกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยัง " ไซต์ A " ที่ตั้งของจูราสสิคปาร์คซึ่งอยู่บนเกาะ อิสลา นูบลาร์ อันอยู่ในเขตประเทศคอสตาริก้า  เมื่อทุกคนไปถึงที่นั่น ขณะนั่งรถจิ๊ปจากจุดที่เฮลิคอปเตอร์จอด เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาคารส่วนกลาง สิ่งแรกที่นักวิชาการทั้งสามเห็นระหว่างทางก็คือ แบรกคิโอซอรัส ไดโนเสาร์กินพืชคอยาวนั่นเอง ดร.แกรนท์ กับ ดร.แซตเลอร์ รวมถึง ดร.มัลคอล์ม แทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง ว่าแฮมมอนด์จะปลุกชีพสัตว์ดึกดำบรรพ์ขึ้นมาให้มีชีวิตอีกครั้งได้สำเร็จในยุคสมัยนี้

Brachiosaurus

       เมื่อไปถึงอาคารส่วนกลางของปาร์ค แฮมมอนด์จึงอธิบายรายละเอียดการเพาะพันธุ์ และพานักวิชาการทั้งสามเยี่ยมชมกระบวนการทั้งหมดให้ได้รับรู้ ด้านดร.มัลคอล์มนั้นเริ่มแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน ดร.มัลคอล์มพูดว่า "ชีวิต ย่อมมีหนทาง"

       แฮมมอนด์จัดทัวร์รอบๆปาร์คให้นักวิชาการทั้งสาม ซึ่งจะเป็นรูปแบบเดียวกับในอนาคต ที่จะเปิดให้คนทั่วไปได้ทัวร์แบบนี้เช่นกัน ในการทัวร์ด้วยรถอัตโนมัติรอบปาร์คครั้งนี้ เหลนทั้งสองของแฮมมอนก์คือ Tim และ Lex ก็ได้ไปกับเหล่านักวิชาการด้วย ระหว่างทางในการทัวร์ครั้งนี้ ดร.แกรนท์ กับ ดร.แซทเลอร์ก็พบกับไทรเซราท็อปส์ที่นอนป่วยอยู่ ดร.แซทเลอร์ จึงแนะนำให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลถึงสาเหตุการป่วย เนื่องจากเธอเชี่ยวชาญเรื่องพืชโบราณ และไทรเซราท็อปส์ก็กินพืชมีพิษเข้าไป ทำให้ป่วยนั่นเอง


Triceratops

       เนื่องจากมีพายุกำลังจะเข้าเกาะ แฮมมอนด์จึงต้องยกเลิกการทัวร์นี้ทันที แต่ ดร.แซทเลอร์ ขออยู่ดูอาการไทรเซราท็อปก่อน ดร.มัลคอล์มและดร.แกรนท์จึงกลับ และนั่งรถคันเดียวกัน โดนัลด์ทนายความก็นั่งรถกลับมากับเด็กๆทั้งสอง

       Dennis Nedry โปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ในแลปฯ ของแฮมมอนด์ แอบมีข้อตกลงลับที่จะขโมยตัวอ่อนไดโนเสาร์และขายให้คนภายนอก โดยที่เน็ดลี่นัดผู้ซื้อไว้ในเวลา 1ทุ่ม เน็ดลี่จึงวางยาในระบบรักษาความปลอดภัยทั่วปาร์ค เพื่อปิดรั้วไฟฟ้าทั้งเกาะ เหล่าไดโนเสาร์จึงออกมาจากโซนอันตรายของมันเอง และออกมาเพ่นพ่านเต็มไปหมดในโซนปลอดภัยของมนุษย์ทั่วทั้งปาร์ค

       รถอัตโนมัติที่นำทัวร์ก็ดับ เพราะควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน รถของดร.ทั้งสองกับรถของเด็กๆกับโดนัลด์จอดดับสนิท และอยู่ห่างกันไม่มากนัก ทันใดนั้น ที-เร็กซ์ ไดโนเสาร์กินเนื้อที่หลุดออกมาจากรั้วไฟฟ้าได้ ก็ตรงเข้าโจมตีรถของเด็กๆทั้งสอง โดนัลด์ทิ้งเด็กๆหนีไปซ่อนในห้องน้ำ ดร.แกรนท์ ต้องช่วยเบนความสนในที-เร๊กซ์ และล่อที-เร๊กซ์ไปทางอื่นให้พ้นจากเด็กๆ ดร.มัลคอล์มก็ช่วยล่อที-เร๊กซ์ไปอีกทางเพื่อให้ดร.แกรนท์ไปช่วยเด็กๆนั่นเอง และที-เร๊กซ์ก็พุ่งไปกระแทกดร.มัลคอล์มชนกับห้องน้ำจนสลบไป โดนัลด์ซึ่งซ่อนอยู่ในห้องน้ำจึงโดนที-เร๊กซ์กิน


Tyrannosaurus Rex หรือ T-Rex

       ด้านเน็ดลี่ก็กำลังมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือของเกาะตามที่นัดกับผู้ซื้อไว้ แต่ระหว่างทาง เนื่องจากพายุฝนที่หนักหน่วง รถของเน็ดลี่จึงประสบอุบัติเหตุ เน็ดลี่จึงคิดจะเดินเท้าต่อไป แต่เน็ดลี่ก็ไปเจอกับไดลอฟโฟซอรัส ไดโนเสาร์กินเนื้อพันธุ์เล็ก และเน็ดลี่ก็โดนไดลอฟโฟซอรัสกิน ตัวอ่อนไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆที่เน็ดลี่ขโมยมาก็เลยหล่นลงไปที่พื้น "ชีวิต ย่อมมีหนทาง"


Dilophosaurus

       ดร.แกรนท์ กลับไปเข้าเฝือกสนามให้มัลคอล์ม และรีบไปช่วยเหลือทิมมี่และเลกซ์ ก่อนจะพาเด็กๆทั้งสองขึ้นไปนอนบนต้นไม้ เพื่อหลบไดโดเสาร์ และรอจนเช้าเพื่อจะเดินทางกลับสำนักงานส่วนกลางนั่นเอง ด้านทางดร.แซทเลอร์นั้น หลังจากกลับมาที่สำนักงานกลาง และรับรู้ว่าคนทั้งหมดยังไม่กลับมา เธอและโรเบิร์ตซึ่งเป็นหัวหน้ารักษาความปลอดภัย จึงออกไปตามหา พบเพียง ดร.มัลคอล์มนอนขาเจ็บอยู่ จึงรีบพาดร.มัลคอล์มกลับมาที่สำนักงานกลาง

       ทุกคนหาทางจะเปิดรั้วไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ แฮมมอนด์จึงเสนอว่า ต้องปิดไฟฟ้าทั้งหมดในสำนักงานส่วนกลางด้วย เพื่อให้ระบบทุกอย่างที่เน็ดลี่วางยาไว้รีเซ๊ทใหม่ และได้ผล หลังจาก Ray Arnold ปิดเมนไฟฟ้าแล้ว ระะบบรักษาความปลอดภัยก็จะกลับมาเหมือนเดิม แต่ต้องไปเปิดสะพานไฟที่ควบคุมไฟฟ้าทั้งเกาะที่ห้องเครื่องนอกสำนักงานส่วนกลาง จึงจะทำให้ไฟฟ้าทั้งเกาะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เรย์จึงอาสาออกไปสับสะพานไฟที่ห้องเครื่องเอง (เรย์คือช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์อีกคน)

(และ งง ตรงนี้ ปิดเมนไฟฟ้าในสำนักงานกลาง แต่พอจะเปิด ต้องไปเปิดอีกที่อื่น ทำระบบยุ่งยากเช่นนี้ไว้เพื่อ? 555+)

       จนกระทั่งรุ่งเช้า ดร.แกรนท์จึงพาเด็กๆเดินเท้าเพื่อกลับสำนักงานส่วนกลาง ด้านทางแฮมมอนด์นั้นสงสัยว่าเรย์ออกไปเพื่อสับสะพานไฟทั้งคืนทำไมไม่กลับซักที ดร.แซทเลอร์และโรเบิร์ตจึงออกไปตอนรุ่งเช้า เพื่อไปสับสะพานไฟและตามหาเรย์ และโรเบิร์ตก็พบว่า ไดโนเสาร์ที่ฉลาดล้ำอย่างแรพเตอร์ก็หลุดออกมาจากกรงแล้วเช่นกัน แรพเตอร์มีทั้งหมดสามตัว โรเบิร์ตจึงรีบให้ดร.แซทเลอร์รีบวิ่งไปห้องเครื่องเพื่อสับสะพานไฟ และโรเบิร์ตก็โดนแรพเตอร์กิน


Velociraptor หรือ Raptor

       ดร.แกรนท์ พาเด็กๆทั้งสองเดินเท้ามาจนถึงส่วนกลาง และให้เด็กๆหาอะไรกิน ส่นตนเองจะออกไปตามหาคนอื่นๆ ด้านทางดร.แซทเลอร์ก็พบว่าเรย์ก็ตายแล้วเช่นกัน หลังจากเธอเปิดสะพานไฟและรีบหนีออกมา  ดร.แซทเลอร์ ก็พบกับ ดร.แกรนท์ เธอบอกกับดร.แกรนท์ว่า มีแรพเตอร์หลุดออกมาด้วย และแรพเตอร์ก็เข้าโจมตีเด็กๆ ก่อนที่ ดร.แซทเลอร์กับ ดร.แกรนท์จะมาช่วยเหลือ ทั้งสี่กำลังจนมุมแรพเตอร์ ที-เร๊กซ์ก็โผล่มากินแรพเตอร์และกัดกันอยู่ แฮมมอนด์ซึ่งพา ดร.มัลคอล์มขึ้นรถเตรียมหนี ก็มารับคนทั้งหมด และหนีไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อหนีออกไปจากเกาะอิสลา นูบลาร์ทันที การเปิดจูราสสิคปาร์คให้ผู้คนทั่วไปเข้าชมจึงล่มไปนับตั้งแต่นั้น


       พอทุกคนกลับมาถึงอเมริกา แฮมมอนด์ก็คิดได้ว่า ตนเองนั้นทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไป ในการที่จะพยายามนำสัตว์ที่สูญพันธุ์มาหลายร้อยล้านปีกลับมา และแฮมมอนด์ก็หมดสิทธิ์หมดเสียงในบริษัทอินเจน ดร.มัลคอล์มพยายามจะเผยแพร่ต่อสาธารณะชนว่า มีไดโนเสาร์อยู่ที่เกาะอิสลา นูบลาร์ และทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 3 คน บริษัทอินเจนพยายามบิดเบือนข้อมูล และโจมตี ดร.มัลคอล์มว่า จงใจใส่ร้ายอินเจย ดร.มัลคอล์มจึงโดนไล่ออกจากการสอนที่มหาลัย และกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์อิสระนับแต่นั้น คนทั่วอเมริกามองว่ามัลคอล์มเพี้ยน ทางบริษัทอินเจนยังได้เสนองินจำนวนมากเพื่อปิดปากดร.มัลคอล์มด้วย

       ผ่านมา 4 ปี หลังจากจูราสสิคปาร์คล้มเหลวไม่เป็นท่า ลูกสาวตัวเล็กๆของครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็โดนฝูงคอมพ์ซอกนาธัสรุมกัดกินจนบาดเจ็บสาหัสบนเกาะ อิสลา ซอร์น่า ซึ่งนี่คือ " ไซต์ B " ของโครงการเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ของแฮมมอนด์


Compsognathus หรือ Compy

       แฮมมอนด์จึงโดนปลดจากตำแหน่งประธานบริษัทอินเจนด้วยเหตุผลนี้ และ Peter Ludlow หลานชายของแฮมมอนด์  ก็เข้ามานั่งในตำแหน่งประธานแทน และลัดโลว์ก็คือพ่อของทิมและเลกซ์นั่นเอง โดยลัดโลว์มีแผนการที่จะรื้อฟื้นจูราสิคปาร์คขึ้นมาใหม่ และสร้างกลางเมืองซานดิเอโก จากการนำไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆมาจากเกาะ อิสลา ซอร์น่า ซึ่งอยู่ทางใต้ของเกาะ อิสลา นูบลาร์ โดยที่เกาะอิสลา ซอร์น่าในไซต์ B นี้ ไม่มีรั้วไฟฟ้าใดๆทั้งสิ้น เพื่อเพาะพันธุ์และป้อนให้กับจูราสสิคปาร์คเดิมที่เกาะ อิสลา นูบลาร์ เมื่อสี่ปีที่แล้วนั่นเอง แต่หลังจากจูราสสิคปาร์คล่มไป และโดนพายุเฮอริเคนถล่มใส่เกาะ ที่นี่จึงขาดการเหลียวแล ปล่อยให้ไดโนเสาร์เอาตัวรอดกันเอง และเติบโตสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ และนี่จึงทำให้สัญชาตญาณนักล่าของไดโนเสาร์บนเกาะนี้ ดุร้ายกว่าที่จูราสสิคปาร์คแน่นอน

       แฮมมอนด์เห็นท่าจะไม่ดี จึงคิดหาทางขัดขวาง โดยการจ้างนักวิชาการกลุ่มนึงเข้าไปหาหลักฐานว่า ไดโนเสาร์มีอยู่จริงและอันตราย หนึ่งในนั้นก็คือแฟนสาวของดร.มัลคอล์ม เป็นนักบรรพชีวินวิทยาที่เชี่ยวชาญสัตว์กินเนื้อที่ชื่อ Sarah Harding และเธอก็ล่วงหน้าไปที่เกาะ แล้ว

       แฮมมอนด์ จึงเรียกตัว ดร.มัลคอล์มมาพบ และขอร้องให้เขาเป็นส่วนนึงในทีมและไปที่เกาะ แต่ ดร.มัลคอล์มปฏิเสธ แต่หลังจากดร.มัลคอล์มรู้ว่า แฟนสาวของตนก็อยู่ที่นั่น ดร.มัลคอล์มจึงตกลงไปที่เกาะ แต่ไปเพื่อช่วย ดร.ซาร่า ไม่ใช่เพื่อแฮมมอนด์

       มัลคอร์มไปพบอีกสองคนที่เหลือในทีมที่ท่าเรือ ลูกสาวดร.มัลคอล์มก็แอบตามมาขึ้นตู้คอนเทนเนอร์บนเรือมาด้วย และอีกสองคนก็คือ Eddie Carr วิศวกรสนาม และ Nick Van Owen ช่างภาพของกรีนพีช และเมื่อทั้งสามมาถึงเกาะ อิสลา ซอร์น่า ไดโนเสาร์ที่ทั้งสามเจอตัวแรกก็คือ สเตโกซอรัส ซึ่งอยู่รวมกันเป็นฝูง และในที่สุด ดร.มัลคอล์มก็เจอ ดร.ซาร่า และดร.มัลคอล์มก็รู้แล้วว่าลูกสาวของเขาแอบตามมาด้วย


Stegosaurus

       ทุกคนในทีมต้องคอยหลบพวกนายพรานของลัดโลว์ ที่มาจับไดโนเสาร์เพื่อนำไปไว้ที่จูราสสิคปาร์คในซานดิเอโกนั่นเอง ขณะที่ทุกคนกำลังแอบดูการไล่ล่าเหล่าไดโดนเสาร์ของพวกนายพราน มาเมนจิซอรัส ไดโนเสาร์ที่ตัวใหญ่และยาวที่สุดก็โผล่มาให้เห็น


Mamenchisaurus

       ทีมของ ดร.ซาร่าได้แต่เฝ้ามองเหล่านายพรานขับรถไล่ล่าจับตัวไดโดนเสาร์กันอย่างหดหู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และเหล่านายพรานก็กำลังรุมจับ พาราซอโรโลฟัส ไดโนเสาร์ที่มีกระโหลกเป็นตัวหัวหงอน


Parasaurolophus

       ในคืนนั้น ที่แคมป์นายพราน นิค และ ดร.ซาร่าก็แอบเข้าไปปล่อยไดโนเสาร์ทั้งหลายที่ลัดโลว์จับไว้ นิคได้ช่วยลูกที-เร๊กซ์ที่กระดูกข้อเท้าหัก และนิคก็อุ้มกลับมาที่ตู้คอนเทนเนอร์เพื่อรักษา พวกทีเร๊กซ์ตามเสียงลูกมา และโจมตีตู้คอนเทนเนอร์จนตกหน้าผาไป ในเหตุการณ์นี้ เอ็ดดี้ หนึ่งในทีมของดร.ซาร่าก็โดนที-เร๊กซ์กิน ทีมนายพรานของลัดโลว์มาช่วยทีมของ ดร.ซาร่า และในบัดนี้ ไม่มีอุปกรณ์สื่อสารเหลือแล้ว มีเพียงที่ตึกส่วนกลางของเกาะที่มีวิทยุ ทุกคนที่เหลือจึงมุ่งหน้าไปที่ตึกนั้นเพื่อวิทยุขอความช่วยเหลือด่วน

T-Rex ตัวเล็ก

       ระหว่างทาง ทีมทั้งหมดก็โดนทั้งที-เร๊กซ์และแรพเตอร์ตามล่าจนตายไปทีละคนสองคน ที่สุดแล้วนิคก็วิทยุไปที่ชายฝั่งและให้ทีมช่วยเหลือมาช่วยทุกคนได้ทัน หัวหน้าทีมนายพรานก็สามารถจับทีเร๊กตัวแม่และตัวลูกให้ลัดโลว์นำขึ้นเรือเพื่อกลับไปที่ซานดิเอโกได้สำเร็จ

       เมื่อ ที-เร๊กซ์มาถึงชายฝั่ง มันก็หลุดจากการกักขังและอาละวาดไปทั่วเมือง ผู้คนต่างหนีตายกระเจิดกระเจิง ที่สุดแล้ว ดร.มัลคอล์มและดร.ซาร่าก็ช่วยกันล่อมันเข้ากรงขังและจับมันได้อีกครั้ง โดยการใช้ที-เร๊กซ์ตัวน้อยล่อมานั่นเอง


T-Rex ตัวใหญ่

       ทางการจึงส่งตัวที-เร๊กซ์กลับไปที่เกาะอิสลา ซอร์น่า และประกาศให้ทุกๆเกาะที่อยู่ในพื้นที่แถบโซนนั้นเป็นเขตสงวนพันธุ์ไดโนเสาร์และอันตรายห้ามใครเข้าไปในโซนนั้นเด็ดขาดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา..

       4 ปีต่อมา Eric Kirby กับเบนแฟนใหม่แม่ของเขา ก็แอบไปแล่น Parasailing บริเวณเกาะอิสลา ซอร์น่า ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม และเรือที่ลากร่มก็ถูกโจมตี  เบนและอีริคจึงต้องตัดเชือกออกจากเรือ และร่อนลงที่เกาะอิสลา ซอร์น่า ทั้งสองจึงหายสาบสูญไปนับตั้งแต่นั้น

       ผ่านมา 8 อาทิตย์ Paul Kirby และ Amanda Kirby จ้างดร.แกรนท์ให้พานำเที่ยวบนเครื่องบินทัวร์รอบๆเกาะ โดยพอลจ้าง Udesky เป็นคนขับเครื่องบิน แต่แท้จริงแล้ว พอลและอแมนด้าต้องการไปตามหาลูกชาย ดร.แกรนท์พาลูกศิษย์ที่ชื่อบิลลี่มาด้วย เมื่อทุกคนบินมาถึงเกาะ ความจริงก็เปิดเผยว่า แท้จริงแล้วพอลและอแมนด้ามาตามหาอีริคลูกชายของทั้งสองนั่นเอง และสไปโนซอรัสก็โจมตีเครื่องบินของ Udesky โทรศัพท์ดาวเทียมของพอลก็โดนสไปโนซอรัสกินเข้าไป



Spinosaurus

       ทั้งหมดพบกล้องวีดีโอของอีริค จึงรู้ว่าอีริคยังไม่ตาย และพบศพเบน แฟนใหม่ของอแมนด้าด้วย พอลและอแมนด้าจึงไม่สิ้นหวังในการตามหาอีริค ระหว่างทางบิลลี่แอบเอาไข่แรพเตอร์มาด้วย ฝูงแรพเตอร์จึงตามทุกคนไป

       เมื่อทุกคนเดินทางมาถึงสำนักงานกลางที่ร้างอยู่ ก็โดนฝูงแรพเตอร์โจมตี Udesky ก็โดนแรพเตอร์ฆ่า ต่างคนต่างหนีไปคนละทิศคนละทาง พอลและอแมนด้ากับบิลลี่หนีขึ้นไปบนต้นไม้ ส่วนดร.แกรนท์โดนฝูงแรพเตอร์ล้อมไว้ อีริคมาช่วยดร.แกรนท์ไว้ได้ และอีริคก็พาดร.แกรนท์มานอนพักในที่หลบภัยของเขา


Raptor

       พอรุ่งเช้า พอล และ อแมนด้า ก็พบกับอีริค ทั้งหมดจึงล่องเรือไปตามแม่น้ำมุ่งหน้าไปที่ชายฝั่งเพื่อหนีไปจากเกาะ ระหว่างทาง ดร.แกรนท์ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดาวเทียมของพอลอยู่ในกองอึไดโนเสาร์ ดร.แกรนท์จึงโทรทางไกลไปหา ดร.แซทเลอร์คู่หูเก่า ดร.แกรนท์พูดได้เพียงแค่คำว่า " ไซต์ B " ก่อนจะจมลงแม่น้ำเพราะโดนสไปโนซอรัสโจมตีอย่างหนัก


Brachiosaur



สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
       ระหว่างทางบิลลี่ก็ถูกฝูงเทอราโนดอนโจมตี ดร.แกรนท์ช่วยบิลลี่ไม่ทัน ฝูงแรพเตอร์ก็ยังตามพวก ดร.แกรนท์ไม่ลดละ ดร.แกรนท์ให้อแมนด้ามอบไข่แรพเตอร์คืน ฝูงแรพเตอร์จึงไม่ทำอะไรพวกของดร.แกรนท์ และจากไป

Pteranodon

       ที่สุดแล้ว พอล, อแมนด้า,อีริค, และดร.แกรนท์, ก็รอดมาจนถึงชายฝั่ง และพบหน่วยนาวิกโนธินทั้งหน่วยมาช่วยเหลือ จากการประสานงานกับดร.แซทเลอร์นั่นเอง บนเฮลิคอปเตอร์ นาวิกโยธินยังได้ช่วยบิลลี่ที่บาดเจ็บหนักไว้ได้ด้วย ทั้งหมดจึงเดินทางกลับอเมริกา..


เกร็ดน่ารู้ Jurassic Park (1993)
  • ใช้เวลาทำงานนานกว่า 9 เดือนในการแปลงภาพยนตร์ให้เป็น 3 มิติ
  • ยูนิเวอร์แซลได้รับหนังสือที่เพิ่งพิมพ์ออกจากแท่นพิมพ์ของนักเขียนขายดี ไมเคิล ไครชตัน เรื่อง Jurassic Park ในเดือนพฤษภาคม ปี 1990 และภายในเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ยูนิเวอร์แซลในฐานะตัวแทนของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้เจรจาเพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนี้
  • ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ จ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้แก่ ไมเคิล ไครชตัน ผู้เขียนหนังสือ Jurassic Park ก่อนที่หนังสือจะออกจำหน่าย เป็นมูลค่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • ริชาร์ด เอ็ตเทนเบอโรห์ กลับมารับงานแสดงอีกครั้งด้วยบท จอห์น แฮมมอน ใน Jurassic Park (1993) ทิ้งช่วงจาก The Human Factor (1979) ไปเน้นงานกำกับภาพยนตร์
  • วิลเลียม เฮิร์ต ได้รับการเสนอให้สวมบท ดร.อลัน แต่เขาปฏิเสธไปโดยที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือหรือดูบท ด้าน แฮร์ริสัน ฟอร์ด กับ ริชาร์ด เดรย์ฟัส ก็เคยได้รับการพิจารณาให้มาร่วมแสดง ท้ายสุดแล้วเป็น แซม นีลล์ ที่รับบท ดร.อลัน
  • จิม แครี เคยได้รับการพิจารณาให้มารับบท ดร.เอียน แต่ท้ายสุดแล้วเป็น เจฟฟ์ โกลด์บลัม ที่ได้แสดงบทนี้
  • จูเลียตต์ บิโนช ได้รับการเสนอให้มาแสดงบท ดร.เอลลี แต่เธอปฏิเสธเพื่อไปแสดงภาพยนตร์เรื่อง Three Colors: Blue (1993) โดยมี ลอรา เดิร์น มารับบทนี้ในท้ายที่สุด
  • โจดี ฟอสเตอร์, ซิกอร์นีย์ วีเวอร์, มิเชล ไฟเฟอร์, เอลลี ชีดดี, จีนา เดวิส, แดรีล ฮานนาห์, เจนนิเฟอร์ เกรย์, เคลลี แม็กกิลลิส, เจมี ลี เคอร์ติส, จูเลีย โรเบิร์ตส, ลินดา ฮามิลตัน, ซาราห์ เจสสิกา ปาร์กเกอร์, บริดเจด ฟอนดา, โจน คูแซก, เดบรา วิงเกอร์ และ โรบิน ไรต์ เป็นรายชื่อนักแสดงหญิงที่ถูกพิจารณาให้มารับบท ดร.เอลลี และสุดท้ายบทนี้ตกเป็นของ ลอรา เดิร์น
  • ลอรา ลินนีย์, แซนดรา บุลล็อก, กวินเน็ธ พัลโทรว์, จูเลียนน์ มัวร์, เฮเลน ฮันต์, เทอรี แฮตเชอร์, อลิซาเบธ เฮอร์ลีย์, เชอริลิน เฟนน์ ต่างเคยมาทดสอบบท ดร.เอลลี ซึ่งท้ายสุดแล้ว ลอรา เดิร์น เป็นผู้รับบทนี้ไป
  • ฌอน คอนเนอรี ได้รับการทาบทามให้มาแสดงบท จอห์น แฮมมอน แต่ท้ายสุดแล้ว ริชาร์ด เอ็ตเทนเบอโรห์ เป็นผู้รับบทนี้
  • เดิมทีตั้งใจสร้างเป็นภาพยนตร์ 4 ภาค แต่หลังจากการเสียชีวิตของ ไมเคิล ไครชตัน ผู้เขียนหนังสือ Jurassic Park ในปี 2008 ทำให้โครงการสร้างภาพยนตร์ภาคที่ 4 ชะงักไปหลังจากสร้างภาพยนตร์ได้ 3 ภาค ได้แก่ Jurassic Park (1993) The Lost World (1997) และ Jurassic Park III (2001) อย่างไรก็ตามในปี 2012 ได้มีการประกาศว่าจะมีการสร้างภาค 4 ซึ่งวางกำหนดเข้าฉายในปี 2014
  • ผู้กำกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก รอให้ ริชาร์ด เอ็ตเทนเบอโรห์ ดูแลภาพยนตร์ Chaplin (1992) ที่เขากำกับให้เสร็จก่อน และรอ แซม นีลล์ ผู้รับบท ดร.อลัน เสร็จสิ้นจากการถ่ายทำละคร Family Pictures (1993) จึงเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้
  • วันที่ 11 กันยายน 1992 เกิดพายุเฮอริเคนอินิกิขึ้นที่เกาะคาไว ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมีทีมงานบันทึกภาพไว้ และนำมาใช้ในภาพยนตร์
  • ขณะเกิดพายุเฮอริเคนอินิกิขึ้นที่เกาะคาไว สถานที่ถ่ายทำ ทีมงานและนักแสดงต่างหลบอยู่ในห้องบอลรูมของโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่ จะมีก็แต่ ริชาร์ด เอ็ตเทนเบอโรห์ ที่พักอยู่ในห้องของตัวเองในโรงแรมและหลับตลอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
  • เสียงคำรามของไทแรนโนซอรัสมีส่วนผสมของเสียงสุนัข เพนกวิน เสือ จระเข้ และช้าง
  • เสียงของแบรคิโอซอรัสมีส่วนผสมของเสียงปลาวาฬและลา
  • เจอรัลด์ อาร์. โมเลน หนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง มาร่วมเป็นนักแสดงรับเชิญในบท ดร.เกอร์รี ฮาร์ดิง

เกร็ดน่ารู้ Jurassic World (2015)
  • แรกเริ่มเดิมทีบทคือให้สามนักแสดงจากไตรภาคดั้งเดิมกลับมารับบทนำ แต่พอ Colin Trevorrow ได้มาทำหน้าที่ผู้กำกับเขายกเลิกความคิดนี้โดยให้เหตุผลว่า เขาให้ความเคารพตัวละครเดิมมากและมันจะเป็นการทำร้ายพวกเขาถ้าต้องให้มาซวย ซ้ำซวยซ้อนกับเรื่องเดิมๆ
  • เนื้อเรื่องจะเน้นความเชื่อมโยงกับภาคแรกและจะไม่มีการกล่าวถึงภาคสองและสาม แม้ว่าเหตุการณ์ทั้งสองภาคจะเกิดขึ้นจริง
  • ชื่อแรกของหนังคือ Jurassic Park: Extinction ถูกเปลี่ยนเป็น Jurassic World ซึ่งคล้ายกับชื่อนิยาย Westworld ของ Michael Crichton ผู้แต่ง Jurassic Park โดยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสวนสนุกที่มีหุ่นยนต์ที่ก้าวล้ำและสุดท้ายก็ก่อความ วุ่นวายให้สวนสนุก
  • ในปี 2004 John Sayles (นักเขียนบท)เคยเสนอไอเดียเกี่ยวกับไดโนเสาร์ครึ่งมนุษย์ใช้เป็นทหารเหนือ มนุษย์ แน่นอนว่าไอเดียนี้ไม่ถูกใช้ในหนัง
  • Steven Spielberg คาดหวังกับโปรเจคท์นี้มาก เมื่อทางสตูดิโอเร่งให้ทีมเขียนบทส่งบทให้เร็วขึ้น แต่ Spielberg บอกให้เพิ่มเวลากับพวกเขาอีกเพื่อบทที่ดีกว่า การถ่ายทำจึงเลื่อนออกไป
  • ภาคต่อ Jurassic Park 4 เริ่มวางแผนสร้างก่อนที่ภาคสามจะฉายสะอีก โดยตลอดเวลาที่ผ่านมามีความพยายามสร้างหนังเรื่องนี้มาโดยตลอด
  • Armie Hammer, Henry Cavill, Glenn Howerton, Jason Sudeikis, Josh Brolin, John Krasinski, Chris Pratt, และ Jason Statham คือนักแสดงได้รับการพิจารณาให้มารับบทนำแต่สุดท้ายแล้ว Chris Pratt ก็ได้บทนี้ไป เขาก็ดีใจเพราะ Jurassic Park คือหนังโปรดของเขา
  • ส่วนนักแสดงหญิงมี Keira Knightley เป็นหนึ่งในตัวเลือกและ Kristen Stewart แต่ก็ถูกมองว่าเด็กไปสำหรับบทนี้ บทจึงตกเป็นของ Bryce Dallas Howard เธอเองก็เป็นแฟนตัวยงของหนังชุดนี้โดยเปรียบว่าสำหรับคนยุคเธอมันเหมือนกับ การได้ดู Star Wars สำหรับคนยุคนั้น
  • นางเอกของเรื่องมีผมอยู่แค่สองสีเท่านั้น ผมทองและผมแดง Ellie Sattler ผมทอง Sarah Harding ผมแดง Amanda Kirby ผมทอง และ Claire Dearing ผมแดง
  • Bryce Dallas Howard และ Judy Geer รับบทพี่น้องอีกครั้งหลังจาก The Village
  • BD Wong คือนักแสดงคนเดียวที่กลับมารับบทเดิมจากหนังไตรภาคแรกในบท Dr.Henry Wu
  • Irrfan Khan อยากดู Jurassic Park ภาคหนึ่งมากแต่เขาไม่มีเงินพอจะซื้อตั๋วหนัง ตอนนี้เขาเล่นเป็นคนรวยที่สุดในเรื่อง
  • ไอเดียไดโนเสาร์ที่สามารถฝึกให้อยู่กับคนได้นั้นมาจากนิยายภาคแรก Dr.Henry Wu เป็นคนแนะนำ John Hammond ให้ลดความดุร้ายของไดโนเสาร์
  • มีข่าวลือออกมาว่า Indominus Rex ไดโนเสาร์ตัวใหม่สามารถพรางตัวด้วยการเปลี่ยนสีได้ ใน The Lost World นิยายเล่มที่สองก็มีไดโนเสาร์ที่พรางตัวด้วยการเปลี่ยนสีได้คือ Carnotaurus
  • ไอเดียแปลกๆเกี่ยวกับไดโนเสาร์เช่น Dilophosaurus พ่นพิษได้ สายตา T-rex จับแค่ความเคลื่อนไหวเป็นเพียงจินตนาการของ Michael Crichton ที่จริงแล้ว T-rex มีประสาทสัมผัสที่ดีมาก ถ้าเกิดอยู่นิ่งๆล่ะก็ได้เป็นของว่างของมันแน่นอน
  • แรพเตอร์ในนิยายมีลักษณะคล้ายกับ Deinonychus ชื่อเดิม Velociraptor antirrhopus ซึ่งขนาดตัวเล็กกว่าคน ความสูงอยู่ระดับอกของคน แต่ในหนังนั้นแรพเตอร์ตัวใหญ่กว่าคน ลักษณะจะเหมือน Utahraptor มากกว่า
  • ทั้งสามภาคที่ผ่านมาไดโนเสาร์ตัวร้ายหลักของเรื่องจะโจมตีคนขณะฝนตก
  • Spinosaurus ที่เคยกัดกันกับ T-rex ในหนังภาคสามอาจจะเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่โด่งดังมากกว่าก็ได้ T-rex ถ้าหากพิพิธภัณฑ์ที่เก็บโครงกระดูกแรก Spinosaurus ในเยอรมันไม่ถูกระเบิดถล่มในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รูปร่างของ Spinosaurus มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามการค้นพบใหม่ๆและนี้คือลักษณะของมันตามการค้นพบ ล่าสุด







 :GreenScarf (22):
ขอบคุณข้อมูลดีดี...

แฟนเพจ ภาพยนตร์ เก่า-ใหม่ ไทย-เทศ พรีวิว
https://www.facebook.com/PhaphyntrKeaHimThiyThesPhriWiw
หลวงจีนหอไตร
http://pantip.com/topic/33768269
Jurassic Park - Wikipedia, the free encyclopedia
http://en.wikipedia.org/wiki/Jurassic_Park
Jurassic Park - Siamzone
http://www.siamzone.com/movie/m/4919/jurassic-park
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
รวมข้อมูลจุดเชื่อมโยงทั้ง 7 ระหว่าง Jurassic Park ไตรภาค กับ ภาคใหม่ล่าสุด Jurassic World


         ใน 7 ข้อนี้ ทางผู้สร้างปล่อยข้อมูลหลอกมา 2 ข้อ (หมายความว่าข้อมูลใน 2 ข้อจาก 7 ข้อนี้ ในหนังจริงได้นำเสนออีกอย่าง) ไปลุ้นกันในโรงภาพยนตร์กันได้ครับ ค่อนข้างเซอร์ไพรส์อยู่ทีเดียว****


1.เรื่องของเกาะ ISLA NUBLAR


       เกาะอิสลา นูบลาร์ หรือ ไซต์ A ซึ่งเป็นฉากผจญภัยหลักของ Jurassic Park ภาคแรกนั้น เป็นเกาะเดียวกับที่มีการเปิดสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ในภาพยนตร์ภาคล่าสุด

โดยข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของปาร์ค และแผนที่เกาะ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์มาสรานีและจูราสสิกเวิร์ลด์
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/jurassicworld/index.html
http://www.jurassicworld.com/

       ส่วนเกาะของภาค 2 และ 3 นั้น เป็นเกาะที่ชื่อว่า อิสลา ซอร์น่า หรือ ไซต์ B เป็นเกาะที่ไม่มีระบบป้องกันไดโนเสาร์ และใช้ในการทดลองเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์อันตรายต่าง ๆ โดยรูปทรงของเกาะจะต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังภาพ



2.เรื่องของ T-Rex


       มีการยืนยันชัดเจนจากเว็บไซต์ทางการของจูราสสิกเวิร์ลด์ ว่า ทีเร็กซ์ตัวแรกและดั้งเดิมที่สุดที่ปรากฎตัวในภาคแรก (ชื่อว่า Rexy) คือทีเร็กซ์ตัวเดียวกับที่อยู่ในสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ และมันมีอายุถึง 25 ปีแล้ว

ที่มา :
http://www.jurassicworld.com/dinosaurs/tyrannosaurus-rex/

       จุดสังเกตเด่นคือ ที่บริเวณคอด้านซ้ายของทีเร็กซ์ตัวนี้ จะมีรอยแผลเป็น ที่เกิดจากการต่อสู้กับเวโลซิแรปเตอร์ในท้ายภาพยนตร์ภาคแรกอีกด้วย


3.เรื่องของสไปโนซอรัส / ภาพยนตร์ Jurassic Park ภาค 3 และกำหนดการเปิดทำการของจูราสสิกเวิร์ลด์ที่แท้จริง

[img width=800 height=500 ]http://f.ptcdn.info/269/032/000/1433863192-jurass04ss-o.jpg[/img]

       แม้ว่าผู้กำกับ Colin Trevorrow จะกล่าวออกสื่อว่า ภาพยนตร์จูราสสิกเวิร์ลด์จะต่อจากภาคแรก และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาค 2 และ 3 คำกล่าวนั้นดูจะไม่เป็นจริงเสียทีเดียว เพราะว่าในเว็บไซต์ของมาสรานี (Masrani)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/jurassicworld/index.html

       ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ทำธุรกิจน้ำมันและมีเงินทุนมหาศาล ซึ่งได้มีการรับช่วงต่อกิจการของบริษัท InGen (ผู้สร้างปาร์คตั้งแต่ภาคแรก) ที่จำเป็นต้องปิดกิจการลงในปี 1998 อันเป็นเวลาหลังจากภาค 2 (1997) 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งโลกรับรู้แล้วว่ามีการปลุกชีพไดโนเสาร์ขึ้นมาใหม่ จากเหตุการณ์ทีเร็กซ์บุกซานดิเอโกในท้ายภาค 2

       และในภาพยนตร์ภาคที่ 3 (ปี 2001) ตอนที่พบกับสไปโนซอรัสครั้งแรก ดร.แกรนท์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงมีสไปโนซอรัส เพราะไดโนเสาร์ชนิดนี้ไม่อยู่ในรายชื่อการเพาะพันธุ์ของ InGen เขาจึงสงสัยว่ามีใครกำลังเคลื่อนไหวอยู่ลับ ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งจุดนี้เว็บไซต์มาสรานีก็เฉลยอย่างอ้อม ๆ แล้วเช่นกันว่า นับตั้งแต่ปี 1998 นั้น ทางบริษัทมาสรานี ได้ริเริ่มโปรเจคฟื้นฟูปาร์คขึ้นใหม่ ดังนั้นมีความเป็นไปได้มากพอว่า เกาะอิสลา ซอร์น่า หรือ ไซต์ B จะถูกใช้เป็นแหล่งทดลองเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ใหม่อีกครั้ง และสไปโนซอรัสคือหนึ่งในพันธุ์ที่ถูกทดลองสร้างขึ้น และไม่สามารถควบคุมมันได้

อนึ่ง ในหน้าเว็บไซต์เดียวกันนั้น
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/jurassicworld/index.html

ช่วงท้ายได้มีการระบุไว้ว่า
And come they did ... Jurassic World officially opened in June 2005 to an incredible 98,120 visitors in its first month of operation.

       แปลว่าสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์นั้น เปิดทำการอย่างเป็นทางการได้ในปี 2005 และดึงดูดผู้เข้าชมได้เกือบ 1 แสนคนในเดือนแรก
และหมายความว่า ปี 2015 นี้ คือปีฉลองครบรอบ 10 ปีการเปิดทำการของสวนสัตว์แห่งนี้อีกด้วย



4.บุคลากรและงานวิจัยทางพันธุศาสตร์

[img width=800 height=500 ]http://f.ptcdn.info/270/032/000/1433863744-jurass05ss-o.jpg[/img]

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


       มีบุคลากรคนสำคัญอีกคนหนึ่งจาก InGen ที่ได้มาร่วมงานกับบริษัทมาสรานีในการสร้างสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ขึ้นก็คือ ดร.เฮนรี่ วู (Dr.Henry Wu) ผู้ซึ่งเคยมีบทบาทปรากฎตัวในภาพยนตร์ภาคแรกในฐานะนักวิจัยคนหนึ่ง

ซึ่งในเว็บไซต์หน้านี้
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/index.html

       ได้ให้ข้อมูลว่า ดร.วู ภายหลังจากเหตุการณ์ปาร์คถูกทำลายในภาคแรก (ปี 1993) ในปีถัดมา 1994 เขาและทีมงาน InGen ได้เข้าแก้ไขความเสียหายและทำวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสัตว์บนเกาะอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการเปลี่ยนเพศของไดโนเสาร์ที่สามารถควบคุมได้ ในปี 1997 (ภาพยนตร์ภาค 2 - The Lost World) บริษัท InGen ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก  :yoyocici06: แต่ ดร.วู และทีมงาน ก็ยังประสบความสำเร็จในการวิจัยสร้างพืชพันธุ์ผสมชนิดใหม่ ซึ่งทำให้เป็นที่จับตามองอย่างมาก และไม่กี่ปีถัดมา เขาจึงได้ร่วมงานกับบริษัทมาสรานีในฐานะหัวหน้าทีมวิจัยเลยทีเดียว


5.ทีมรักษาความปลอดภัย


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


และหน้าเว็บนี้
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/security/index.html

       เป็นการแนะนำทีมรักษาความปลอดภัยของสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ และแนะนำหัวหน้าทีมก็คือคุณวิค ฮอสกิ้นส์ (Vic Hoskins) หัวหน้าทีมงานรักษาความปลอดภัยเก่าของ InGen ซึ่งรวม ๆ ก็ดูไม่มีอะไรมาก แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ

"A seasoned security contractor, Vic Hoskins was involved in overseeing the infamous flying reptile "cleanup" operation over Canada in 2001."

       กล่าวคือ คุณวิคได้มีส่วนร่วมในภารกิจการปราบปรามสัตว์เลื้อยคลานบินได้ในแคนาดาปี 2001 ซึ่งเป็นช่วงที่ตรงกับเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Jurassic Park 3 ซึ่งมีเทอราโนดอนฝูงเล็ก ๆ หลุดออกมาจากโดมเลี้ยงและอาละวาดไล่ล่าพวกตัวเอก ก่อนจะบินหายไป และ ดร.แกรนท์ ก็เอ่ยไว้ว่า พวกมันน่าจะไปหาแหล่งอาหารใหม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าพวกมันจะเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ที่มนุษย์อาศัยอยู่ และทีมงานที่นำโดย วิค ฮอสกิ้นส์ ผู้นี้ ก็สามารถกำจัดพวกมันได้ ทำให้เป็นผลงานสำคัญที่ทางบริษัทมาสรานี ดึงตัวพวกเขามาทำงานในสวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์นี้นั่นเอง


6.I-Rex


       ข้อนี้ต่อเนื่องกับข้อ 4 ครับ จากผลงานวิจัยของ ดร.วู ในเรื่องของการเปลี่ยนเพศของไดโนเสาร์บนเกาะในปาร์คภาคแรก และผลงานการสร้างพืชพันธุ์ผสมได้สำเร็จ ดังข้อมูลในเว็บไซต์ระบุไว้นั้น http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/index.html

      ในปี 2013 สวนสัตว์เปิดมาแล้วได้ 8 ปี บริษัทมาสรานีก็ได้ตั้งเป้าทางธุรกิจเพิ่มเติม http://www.masraniglobal.com/investors/index.html ให้สร้างจุดสนใจใหม่ให้แก่สวนสัตว์จูราสสิกเวิร์ลด์ ดังนั้นด้วยผลงานอันโดดเด่นที่ผ่านมาของ ดร.วู จึงทำให้เขาได้เป็นผู้ริเริ่มการวิจัยสร้างไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ขึ้น

       และไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่นี้ ก็เกิดจากการผสม DNA ของไดโนเสาร์กินเนื้อ 4 ชนิด ประกอบด้วย
Carnotaurus / Giganotosaurus / Majungasaurus / Rugops ซึ่งเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อในวงศ์ Abelisauridae ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง ทนทาน และวงศ์ Carcharodontosauridae ที่มีขนาดใหญ่และดุร้าย (โดยเฉพาะ Giganotosaurus เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่กว่าทีเร็กซ์)


       มันมีชื่อว่า Indominus Rex หรือ I-Rex มีความหมายว่า ราชาพยศ หรือ ราชาที่ไม่สามารถควบคุมได้
ซึ่งถูกวางเป้าหมายให้มาเป็นตัวชูโรงตัวใหม่ของสวนสัตว์ในโอกาสครบรอบ 10 ปี (2015) และก็นำมาซึ่งหายนะครั้งใหญ่นั่นเอง



7.เวโลซิแรปเตอร์

[img width=800 height=500 ]http://f.ptcdn.info/271/032/000/1433864933-raptor00-o.jpg[/img]

       ไดโนเสาร์สายพันธุ์เวโลซิแรปเตอร์ นั้น นับว่าเป็นตัวอันตรายที่มีบทบาทสำคัญในภาพยนตร์ทุก ๆ ภาค แต่ก็เป็นไดโนเสาร์ชนิดหนึ่งที่มีการออกแบบรูปร่างหน้าตาของมันแตกต่างกันในทุก ๆ ภาคเช่นกัน จุดนี้มีการอธิบายข้อมูลไว้อยู่บ้างในเรื่องของการโคลนนิ่ง DNA ที่แตกต่างกัน ก็จะมีการผสม DNA สัตว์ต่างชนิดกันในการสร้างไดโนเสาร์ตัวใหม่ขึ้น ทำให้แต่ละตัวมีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างกันไปด้วย

       ยกตัวอย่างเช่น ทีมแรปเตอร์ของโอเว่น (สตาร์ลอร์ด ตัวเอกในภาพยนตร์ภาคล่าสุด) แรปเตอร์หัวหน้าทีมชื่อ Blue มีลายสีน้ำเงินพาดยาวกลางตัว ผสมขึ้นจาก DNA ของตะกวด หรือ Delta ตัวสีเขียวอ่อน ผสมขึ้นจาก DNA ของนก เป็นต้น

ข้อมูลจากเว็บเลโก้จูราสสิกเวิร์ลด์
http://www.lego.com/en-us/jurassicworld/characters

และข้อมูลเกี่ยวกับการผสม DNA
http://www.masraniglobal.com/about/divisions/ingen/index.html
http://www.jurassicworld.com/creation-lab/


       นอกจากนี้เพจ Reel Tours Hawaii ได้มีการเผยภาพจุดโชว์หุ่นแรปเตอร์โปรโมตภาพยนตร์ภาคใหม่นี้ที่สถานี Waterloo ในกรุงลอนดอน ปรากฎให้เห็นว่า แรปเตอร์ทั้ง 4 ตัวดังกล่าว ไม่ใช่แรปเตอร์ 4 ตัวเดียวกับที่โอเว่นฝึก และยังมีตู้คอนเทนเนอร์ของ InGen ตั้งไว้อยู่ด้วย อาจจะเป็นปริศนาบางอย่างที่ให้เราต้องไปค้นหาคำตอบกันในภาพยนตร์ก็เป็นไปได้


 :yoyocici11:
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ Sutham

  • Thaicine Movie Team
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • *
  • กระทู้: 1355
  • พลังใจที่มี 132
  • เพศ: ชาย
  • หยุด เท่ากับความสำเร็จ จริงๆนะ
 :GreenScarf (13):ไปดูมาแล้วมันดีสนุกสนานดูกันหรือยัง
5/223 หมู่23
หมู่บ้านอิงลดา ถนนบางพลี-ตำหรุ
ตำบลบางพลีใหญ่
อำเภอบางพลี
จังหวัดสมุทรปราการ
10540
โทร 087-0750099

suthum07@gmail.com

หมายเลขบัญชี 450-2-16040-6
ออมทรัพย์
ธนาคาร กสิกรไทย สาขา ถนนบางนาตราด  กม.18